เกษตรกรต้นแบบ
"โสพล สุขโขทัย...ปราชญ์ท้องถิ่นในการทำเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน"
คุณโสพล สุขโขทัย  จ. สระแก้ว ปี 2551

นายโสพล สุขโขทัย ปราชญ์เกษตรเจ้าของรางวัลเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิดบ้านเกิด ประจำปี2551 และเคยได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมาลี จากการดำเนินกิจกรรมการเกษตรตามแนวทฤษฏีใหม่ รางวัลปราชญ์ท้องถิ่นด้านภูมิปัญญาไทย ด้านเกษตรกรรมและรางวัลอื่นๆอีกมากมาย เป็นเกษตรกรที่มีความรู้ความสามารถในการทำเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน มีความโดดเด่นในการขยายพันธุ์พืช การผลิตเมล็ดพันธุ์พืช เช่นบวบงู บวบหอม น้ำเต้า เป็นต้นและมีความสามารถในการพัฒนาสายพันธุ์แก้วมังกร และผลิตกิ่งตอนพันธุ์ไม้เพื่อจำหน่าย เป็นเกษตรกรที่มีความสำนึกรักในคุณแผ่นดิน นำเอาแนวทางการพัฒนาที่ได้ศึกษาดูงานจากประเทศญี่ปุ่นมาใช้ในการพัฒนาศักยภาพการเกษตรของคนไทย เป็นวิทยากรให้ความรู้แก่นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ในการนำทฤษฏีใหม่มาใช้แบบพอเพียง

หลักคิดและการใช้ชีวิต

...

ความสามารถอันโดดเด่น

การผลิตแก้วมังกรสายพันธุ์แดงไส้สลิ่ม
วัสดุ-อุปกรณ์
- แก้วมังกรพันธุ์สีแดงไต้หวัน
- แก้วมังกรพันธุ์สีขาวไทย
- กระดาษชำระ
- ขุยมะพร้าว
- ตระกร้า

วิธีการทำ
- เริ่มจากการที่นำดอกเกสรของแก้วมังกรสีขาว ไปผสมเขี่ยดอกกับเกสรแก้วมังกรสีแดง และก็นำดอกเกสรของแก้วมังกรสีแดงไปผสมเขี่ยดอกกับเกสรแก้วมังกรสีขาว ในแต่ละต้น
- หลังจากนั้นให้ทำแบบนี้หลายๆครั้ง จนผลแก้วมังกรที่ออกมามีลักษณะกลายสายพันธุ์ จนเนื้อผลด้านนอกมีสีแดง ด้านในมีสีขาว
- แล้วจึงนำผลแก้วมังกรที่ได้ไปทำการเพาะขยายสายพันธุ์ โดยการนำขุยมะพร้าวไปอัดใส่ตะกร้า
- หลังจากนั้นให้นำเมล็ดจากผลที่แก่ไปเกลี่ยให้ทั่วตะกร้า แล้วจึงนำกระดาษชำระมาทำการปิดทับ เพื่อป้องกันไม่ให้เมล็ดของแก้วมังกรลอยขึ้น เพราะหากว่าเมล็ดของแก้วมังกรลอยขึ้นจะทำให้ต้นแก้วมังกรไม่งอก จึงทำการบังคับไม่ให้เมล็ดลอยด้วยการใช้กระดาษชำระ แล้วก็ทำการรดน้ำทุกวัน ประมาณ 15 วัน ก็จะได้กล้าพันธุ์ที่สามารถนำไปเพาะกล้าต่อได้
- เมื่อเพาะกล้าในถุงได้สัก 3 เดือนก็สามารถนำไปปลูกได้ตามปกติ ก็จะได้แก้วมังกรสายพันธุ์แดงไส้สลิ่ม สายพันธุ์ใหม่ที่ทำการคิดค้นโดยคุณโสพล สุขโขทัย

หมายเหตุ
- หลังจากปลูกจนได้สายพันธุ์ที่คงที่แล้ว สามารถขยายพันธุ์โดยใช้กิ่งได้ตามปกติเหมือนกับการเพาะปลูกแก้วมังกรพันธุ์อื่นๆทั่วไป

การผลิตเมล็ดพันธุ์บวบงู
วัสดุ-อุปกรณ์
- ถังกระดาษ
- เมล็ดพันธุ์ข้อที่ 19-22
- น้ำสะอาด

วิธีการทำ
- หลังจากที่ปลูกบวบงูแล้ว ให้นับจำนวนข้อของต้นบวบงู โดยให้นับหาข้อที่ 19 – 22
- หลังจากนั้นเมื่อบวบงูออกผลผลิตแล้ว ให้นำผลผลิตที่แก่สุกแดงในช่วงข้อที่ 19-22 ไปทำการผ่าผลเพื่อเอาเมล็ด โดยลูกๆหนึ่งจะมีประมาณ 22-23 เมล็ด
- พอได้เมล็ดแล้วให้นำเมล็ดไปแช่น้ำสะอาด และทำการเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ลอยออก เหลือไว้แต่เมล็ดที่จม เนื่องจากเมล็ดที่ลอยน้ำเป็นเมล็ดที่ฝ่อ ไม่สามารถนำไปปลูกได้ หรือมีเปอร์เซ็นต์การงอกที่น้อยมากๆ แต่เมล็ดที่จมน้ำคือเมล็ดที่สมบูรณ์เหมาะสำหรับที่จะนำไปปลูกต่อไป
- เมื่อคัดเลือกเมล็ดบวบงูเสร็จแล้วนำไปตากแดดประมาณ 2 วัน แล้วนำไปใส่กล่องกระดาษไว้ประมาณ 6 เดือน ก็สามารถนำไปเพาะปลูกได้

อายุการเก็บรักษา
- เมล็ดพันธุ์บวบงูสามารถเก็บได้นาน 2 ปี

หมายเหตุ
- เมล็ดพันธุ์บวบงูที่ได้จะมีความบริสุทธิ์ของเมล็ด 95%
- เมล็ดพันธุ์บวบงูที่ได้จะมีอัตราการงอกของเมล็ด 95%

การเพาะพันธุ์ต้นฟักมรกตด้วยใบ
วัสดุ-อุปกรณ์
- ขุยมะพร้าว
- ใบฟักมรกต
- น้ำสะอาด
- กระถางเพาะ

วิธีการทำ
- เริ่มจากการนำขุยมะพร้าวมาทำการแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน
- หลังจากนั้นเมื่อแช่น้ำครบ 1 คืนแล้วให้นำไปอัดใส่ในกระถางเพาะพันธุ์ต้นฟักมรกตทันที
- เสร็จแล้วให้นำใบฟักมรกตมาปักไว้ที่ขุยมะพร้าว ทำการรดน้ำต้นฟักมรกตทุกวัน ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ก็สามารถนำต้นฟักมรกตไปปลูกลงในดินได้

เกียรติประวัติและผลงาน

-เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด ประจำปี 2551
-รางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จากการดำเนินกิจกรรมการเกษตรตามแนวทฤษฏีใหม่
-รางวัลปราชญ์ท้องถิ่นด้านภูมิปัญญาไทย

โสพล สุขโขทัย
ข้อมูลการติดต่อ

5 ม.2 บ.คลองอ่าง ต.สระขวัญ อ.เมือง จ.สระแก้ว 27000

เรื่อง/ภาพโดย: ทีมงานรักบ้านเกิด