ทุกสิ่งที่เกิดจากความรัก ล้วนเป็นสิ่งที่ดีเสมอ

ชนใดไร้ดนตรีกาลในหัวใจย่อมไม่ต่างไปจากคนมีหัวใจแต่ไร้รัก แม้จะมีชีวิตที่แสนดีสุขสบายกายเพียงใด ชีวิตนั้นก็จะค่อยๆ เหี่ยวเฉาและแห้งผากอยู่อย่างปราศจากความหมายเหมือนหายใจทิ้งไปวันๆ ดังนั้น ความรักและดนตรี ไม่ว่าจะอยู่ในห้วงทำนองเศร้า สนุกสนานหรือสบายๆ ก็ล้วนแล้วแต่สรรค์สร้างโลกให้น่าอยู่สวยงามเสมอ หากรักนั้นเป็นรักบริสุทธิ์จากพ่อแม่ด้วยแล้ว นั่นหมายถึงโลกอันอบอุ่นปลอดภัยของลูกน้อยทั้งใบได้เลย เพราะรักจากพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ชนชั้นไหน พ่อแม่แนวใด ล้วนแล้วแต่เป็นความรักที่ได้มาฟรี ไม่ต้องเสียเงินทองเทียวไล้เทียวจีบเพื่อให้ได้มาหรือต้องเอาน้ำตา เอาตัว เอาใจเข้าแลกเพื่อให้ได้ครอบครองเป็นเจ้าของเหมือนรักหนุ่มสาวที่ทำให้จิตใจคนวุ่นวาย รักจากพ่อแม่จึงบริสุทธิ์และยิ่งใหญ่เกินคณานับ ซึ่งแน่นอนว่าคนไม่เคยมีลูกคงไม่มีโอกาสได้รู้ซึ้งถึงเรื่องรักแบบนี้

เรื่องรักดีๆ จากความรู้สึกดีๆ ของมนุษย์พ่อวัย 37 ปี เชษ พิเชษฐ กันทะวงค์ Family Man ผู้มีหัวใจแสนอบอุ่น ห่วงใยรักใคร่คนในครอบครัวและคนรอบข้าง ได้เล็งเห็นความสำคัญด้านอาหาร ซึ่งหาที่ปลอดภัย ไร้สารปนเปื้อนได้ยากในปัจจุบัน ถึงขั้นห่วงใยใส่ใจในสุขภาพลูกสาวไปมากมาย จนกลายมาเป็นจุดกำเนิดเรื่องราวความรัก ที่ผู้เป็นพ่ออย่างเชษได้ถ่ายทอดลงไปในทุกตารางนิ้วของพื้นที่ "โอโซน ฟาร์ม"...เพราะความรักของพ่อจึงก่อเกิด "ฟาร์มรัก"...ฟาร์มเมล่อนหวานฉ่ำปลอดสารพิษ ซึ่งเรียกตามชื่อลูกสาวสุดรัก คือ น้องโอโซนวัย 5 ปี มีพิกัดอยู่ที่หมู่บ้านแม่เปิน บ้านเลขที่ 35 หมู่ 12 ถนนพหลโยธิน ซอย 9 ตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย 57240 เพื่อการผลิตวัตถุดิบอาหารปลอดภัย จนนำมาสู่การค้าขายเชิงธุรกิจแบบครบวงจร ทุกเมนูอาหารถูกปรุงแต่งจากวัตถุดิบในฟาร์มอย่างใส่ใจ พร้อมเสิร์ฟให้ถึงมือผู้บริโภคภายในร้านชื่อว่า "Green-Sweet Zone" เปิดให้บริการทุกวันเวลา 9:00 - 19:00 น. ซึ่งนอกจากจะมีอาหารสไตล์อิตาเลียน รสชาติเยี่ยม ที่ผลิตจากเมล่อนวัตถุดิบหลักและพืชผักในฟาร์มแล้ว "โอโซน ฟาร์ม" ยังตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามและเต็มไปด้วยโอโซนอันบริสุทธิ์ จนทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกอิ่มหนำทั้งใจกายได้ในคราวเดียว

กว่าจะมาเป็น "โอโซน ฟาร์ม" : "พื้นเดิมก่อนเข้ามาเรียนในระดับมหาวิทยาลัยก็มีใจรักในการเกษตรอยู่แล้ว ช่วงปิดเทอมก็ปลูกพืชผักอายุสั้น เช่น ฟักทอง แตงโม ไว้หลังบ้าน พอโตมาจึงเลือกเรียนสายเกษตรแบบไม่ลัง กับสาขาอารักขาพืช เอกกีฏวิทยา ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ รุ่น 64 หลังเรียนจบ ก็เข้าทำงานที่บริษัทเอกชน ชื่อดัง 2 แห่งด้วยกัน แห่งแรกเป็นบริษัทเจียไต๋ จำกัด ทำหน้าที่ทดสอบสายพันธุ์ต่างประเทศ และ บริษัท ทีเจซี เคมี จำกัด ในตำแหน่ง รับขึ้นทะเบียนสารเคมีก่อนนำมาขายในประเทศ ชีวิตการทำงานช่วงแรกๆ จึงอยู่ในแวดวงสารเคมีเพื่อการกำจัดแมลงเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงมีความคิดว่าถ้าเราปลูกพืช โดยใช้วิธีกลเข้ามาจัดการ เช่น การกางมุง การใช้ชีววิธี คงลดเรื่องการใช้สารเคมีลงไปได้ ซึ่งใช้ชีวิตในการทำงานตรงนี้เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์รวมแล้ว 12 ปีด้วยกันในปี พ.ศ.2555 จึงตัดสินใจทำฟาร์มเมล่อน ใช้ชื่อตามลูกสาวว่า "โอโซนฟาร์ม" ควบคู่ไปกับการทำอาหารที่มีเมนูหลักๆ มาจากเมล่อนและพืชผักที่ปลูกเอง เพราะตระหนักดีว่าเมล่อนและพืชผักเป็นพืชที่ใช้สารกำจัดศัตรูพืชมาก ในขณะเดียวกันก็เป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์มาก และยังมีราคาคุ้มค่าต่อการลงทุน จึงได้ความคิดว่าถ้าเราทำเมล่อนให้มีคุณค่าและปลอดสาร ย่อมจะสนองตอบต่อตลาดผู้บริโภคได้ สิ่งที่สำคัญกว่านันก็คืออยากทำเป็นตัวอย่างให้ชาวบ้านดูว่าการทำเกษตรแบบปลอดสารนั้นทำอย่างไร? ทำในโรงเรือนทำอย่างไร? อยากจะใช้วิชาที่เรียนมาให้เป็นประโยชน์ต่อท้องถิ่น ซึ่งในทุกวันนี้ชาวบ้านก็เข้ามาหาเรามากขึ้น เทศบาลหรือเกษตรจังหวัดและเกษตรอำเภอก็มาดูงานกัน ตรงนี้นี่เองที่ทำให้มีความสุข และคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นมาถูกทางแล้ว"

การันตี ความกรุบ กรอบ อร่อย มีความหวานไม่ต่ำกว่า 14-16 องศาบริกส์ทุกลูก
การจัดสรรพื้นที่และการวางแผนการผลิต : พื้นที่ภายในฟาร์มทั้งหมด 3 ไร่ 3 งาน แบ่งเป็นบ่อน้ำ 1 งาน บ้านพักและร้านอาหาร 2 งาน นอกนั้นจะเป็นพื้นที่โรงเรือนปลูกผักทั้งหมด 3 ไร่ ที่ฟาร์มมีผลผลิตที่ปลูกในโรงเรือนปลอดสารพิษ ได้แก่ เมล่อนญี่ปุ่น มะเดื่อฝรั่ง สตรอเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ ผักบุ้ง และ มะเขือเทศเชอร์รี่ ซึ่งพืชผักนั้นจะหมุนเวียนปลูกตามฤดูกาล นอกจากนี้ยังได้มีการขยายเครือข่ายไปที่ฟาร์มอื่นๆ ซึ่งเป็นพันธมิตรกันภายใต้ แบรนด์ "โอโซน ฟาร์ม" อีกกว่า 100 โรงเรือน สำหรับเมล่อนนั้นมีการวางแผนการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวเพื่อรองรับการจำหน่ายที่ร้าน"Green-Sweet Zone"ให้เพียงพอดังนั้น ทุกๆ 15 วันจะต้องมีเมล่อนจำนวน 250 ลูก มาขายในร้าน และจะเพิ่มปริมาณการผลิตในกรณีที่มีวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลต่างๆ เพื่อรองรับปริมาณลูกค้าที่มาแวะเที่ยวและซื้อของที่ฟาร์ม โดยมีพื้นที่ปลูกเมล่อนของเราคือ 7 โรงเรือน และมีโรงเรือนเพาะปลูกพืชผักอื่นๆ ทั้งหมด 6 โรงเรือน

ระงับสิวได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย การันตีคุณภาพโดยทีมงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
การบริหารจัดการผลผลิต : มีการจัดการปลูกเมล่อนแบบเหลื่อมเวลาทุก 15 วัน เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงลดการล้นตลาดของสินค้า มีการใช้นวัตกรรมการปลูกเมล่อนในกระถางแทนการปลูกลงดิน เพราะการปลูกลงดินจะเกิดโรคได้ง่าย เมื่อเปลี่ยนมาปลูกในกระถางจะทำให้จัดการแยกต้นปลูกได้อย่างชัดเจน หากมีเมล่อนต้นใดเป็นโรคก็สามารถจัดการถอนออกจากนอกโรงเรือนได้ทันที โดยไม่เกิดการแพร่ระบาดสู่ต้นอื่น การดำเนินการปลูก ดูแลเรื่องโรค-แมลง ล้วนอยู่ภายใต้มาตรฐาน GAP ที่ทางฟาร์มได้รับรองจากกรมวิชาการเกษตรอย่างสม่ำเสมอ และทุกๆ รอบการผลิตหรือการเก็บเกี่ยวจะมีการสุ่มตัดวัดหาค่าความหวานและคุณภาพเนื้อของผลผลิตโดยทีม QC ของฟาร์ม ดังนี้
1. ตรวจหาค่าความหวาน โดยใช้เครื่องมือ Brix Refractometer เกณฑ์มาตรฐานที่ฟาร์มกำหนดคือ 14-16 องศาบริกส์ ส่วนคุณภาพของเนื้อให้คะแนนค่าเฉลี่ยโดยใช้ Human test QC ทดสอบคุณภาพ
2. ใช้เทคนิคพิเศษในการทำผลผลิตเมล่อนให้เก็บรักษาได้นาน คือ การกำหนดวันงดปุ๋ยให้ชัดเจน กล่าวคือที่ฟาร์มจำทำการงดปุ๋ยก่อนตัดเมล่อนเป็นระยะเวลา 10 วันก่อนตัด เพื่อลดปัญหาสารไนเตรทที่ตกค้างในเมล่อน
3. เทคนิคการใช้ชีววิธีมาจัดการแมลงศัตรูและโรคพืช ซึ่งเป็นวิธีการจัดการศัตรูพืชที่เป็นที่ยอมรับในสากล โดยทางฟาร์มใช้เชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ อาทิเช่น
- เชื้อ Tricoderma sp. และเชื้อ Bacillus Subtilis ในการป้องกันกำจัดโรคพืช
- เชื้อ Beauveria bassiana และเชื้อ Bacillus Thuringiensis ในการป้องกันกำจัดแมลง

การแปรรูป: แบ่งออกเป็น
1.เมล่อนผลสดเพื่อขายให้ลูกค้า จะเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยม
2.เมล่อนผลสดเพื่อนำไปทำอาหาร จะเป็นสินค้าเกรดรองลงมา
3.เมล่อนผลสดที่เกรดรองลงมาจะนำไปแปรรูปเป็นน้ำเมล่อนสกัดเย็นหรือน้ำเมล่อนปั่น(งานวิจัยร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)
4.เมล่อนผลสดที่ตกเกรดและเปลือก จะนำไปทำสบู่(งานวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย)
5.ผลผลิตอื่นๆที่ปลูกในฟาร์มเช่น มะเดื่อฝรั่ง มะเขือเทศเชอร์รี่ และสตรอเบอร์รี่ จะขายเป็นผลสดเข้าร้านอาหารภายในฟาร์มทั้งหมด
ต้นทุนในการแปรรูปเมล่อนไปทำสบู่และน้ำผลไม้นั้นไม่ได้มากเท่าไหร่นักเพราะเป็นงานวิจัยที่ทางมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงที่มีโครงการสนับสนุน SMEs อยู่แล้ว ฉะนั้นแล้วการแปรรูปจึงเป็นการเพิ่มรายได้โดยการนำผลผลิตที่ไม่ได้เกรดตลาดแต่คุณภาพยังดี นำมาขายและก่อเกิดรายได้มากกว่าเดิมอีกด้วย
ส่วนการควบคุมคุณภาพผลผลิตทางโอโซนฟาร์มยึดมั่นมาตรฐานตามหลักการทำเกษตรที่ดี ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (GAP) จึงทำให้ผู้บริโภคมั่นใจและบอกต่อกันแบบปากต่อปาก ทำให้ปัจจุบันFacebook แฟนเพจ โอโซนฟาร์ม มีผู้ติดตามมากถึง 42,700 คน
นอกจากการนำเมล่อนมาแปรรูปเป็นสบู่แล้ว โอโซนฟาร์ม ยังร่วมกับ สำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเตรียมโครงการทำโลชั่นและเครื่องสำอางอื่นๆ อีกด้วย

การตลาด : กำหนดราคาขายเมล่อนและผลไม้ต่างๆ ภายในฟาร์ม อิงตามความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก โดยจะแบ่งสินค้าเป็นเกรดและให้ผู้บริโภคเลือกซื้อได้ตามวัตถุประสงค์ในการซื้อ ดังนี้
- เมล่อนผลสด เกรดพรีเมี่ยม: กิโลกรัมละ 180 บาท
- เมล่อนผลสด เกรดเอ: กิโลกรัมละ 150 บาท
- มะเดื่อฝรั่งแบบทานสด: กิโลกรัมละ 350 บาท
- มะเขือเทศเชอร์รี่ : กิโลกรัมละ 150 บาท
สำหรับเมล่อนผลสดจะมีบรรจุภัณฑ์เป็นกล่องสวยงาม ติดโลโก้โอโซนฟาร์ม เพื่อสร้างมูลค่า และเพื่อให้ผู้ที่ซื้อไปฝากมีบรรจุภัณฑ์ที่สร้างความประทบใจต่อผู้รับ
การขนส่งโลจิสติกส์จะใช้ช่องทางของ Kerry Express และ ไปรษณีย์ไทยเป็นหลัก เพราะลูกค้าสามารถเช็คสถานะสินค้าออนไลน์ได้
ในส่วนของการแข่งขันทางการตลาดคู่แข่งทางธุรกิจถือเป็นเรื่องธรรมดาในทุกวงการ ในวงการเกษตรก็เช่นกัน แต่ในเมื่อที่โอโซนฟาร์มเป็นผู้ริเริ่มทำการทำฟาร์มแบบครบวงจรและขายออนไลน์ เราจึงต้องรักษามาตรฐานสินค้าที่สูงกว่าผู้ปลูกรายใหม่ทั่วไป นอกจากนี้สายพันธุ์ที่โอโซนฟาร์มนำมาปลูกเพื่อจำหน่ายจะหาได้ยากในท้องตลาด และให้ปลูกเฉพาะพาร์ทเนอร์ของฟาร์มเท่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อป้องก้น Over Supply หรือสินค้าล้นตลาด

ต้องปักหมุดไปให้ถึงแหล่งอาหารอร่อยท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ที่ "โอโซน ฟาร์ม"
การประยุกต์ใช้นวัตกรรมการเกษตรและเทคโนโลยี :
โอโซนฟาร์มเริ่มทำประชาสัมพันธ์ผ่านทาง facebook แฟนเพจในปี 2555 จนมาถึงปัจจุบัน ตอนนี้มีผู้ติดตามแฟนเพจและลูกค้าออนไลน์มากกว่า 42,700 คน และมีแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จากการเฝ้าติดตามการเจริญเติบโตของแฟนเพจ ซึ่งสัมพันธ์กับกระแสอาหารเพื่อสุขภาพ จึงอาจกล่าวได้ว่าตลาดการซื้อขายผลผลิตเกษตรปัจจุบันเริ่มย้ายการขายมาในโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น
ส่วนของลูกค้าในจังหวัดเชียงรายสามารถรับฟังข่าวสารจากเพจและมาซื้อผลผลิตและรับประทานอาหารในฟาร์มได้โดยตรง ส่วนลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดจะทำการสั่งซื้อผลผลิตหรือวัสดุปลูกผ่านแฟนเพจของโอโซนฟาร์ม https://www.facebook.com/ozonefarm โดยจะติดต่อทางกล่องรับข้อความหรือส่วนของร้านค้าออนไลน์และรายละเอียดของฟาร์มที่มีการอัพเดทตลอดเวลา นอกจากนี้โอโซนฟาร์มยังร้านค้าออนไลน์ในช่องทางของเวปไซด์ http://ozonefarm.lnwshop.com/ โดยที่ช่องทางนี้ลูกค้าสามารถลงทะเบียนและโอนเงินค่าสินค้าเข้ามา ทางฟาร์มจะเป็นผู้จัดสินค้าส่งเท่านั้นเอง
สำหรับการส่งเสริมทางการตลาดนั้น โอโซนฟาร์มจะมีโปรโมชั่นมาให้ลูกค้าที่มาทานอาหารภายในฟาร์ม อาทิเช่น
- โปรโมชั่น ถ่ายรูปอาหารแล้วเช็คอิน เปิดความเป็นส่วนตัวเป็นสาธารณะ รับฟรี น้ำเมล่อนสกัดเย็น (โปรนี้ทำให้เราเข้าถึงเพื่อนของลูกค้าได้มากขึ้น และอาศัยภาพลักษณ์ของลูกค้าเอง ดึงดูดให้เพื่อนๆมาเที่ยวที่ฟาร์ม)
-โปรโมชั่น ส่งสินค้าฟรี สำหรับลูกค้าต่างจังหวัด ในกรณีที่ลูกค้าสั่งเมล่อนมากกว่า 4 ลูกขึ้นไป เป็นการกระตุ้นยอดขายที่ค่อนข้างได้ผลดี
การทำสิ่งดีๆ เพื่อคนที่ตนรักก็ไม่เคยทำร้ายใครฉันท์นั้น
แผนการพัฒนาการเกษตรในอนาคต : สำหรับคำว่าเกษตรแบบครบวงจรในความเข้าใจของผม คือการทำการเกษตรแบบบูรณาการโดยเลือกกรรมวิธีต่างๆทั้งในอดีตและปัจจุบันมาผสมผสานและสามารถปรับแก้ไขได้ตามสถานการณ์ ยึดข้อดีข้อแต่ละส่วนเพื่อนำมาปรับแก้ให้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญต้องพัฒนาต่อยอดได้โดยคนรุ่นหลัง เป็นชุดความคิดต้นแบบของการทำการเกษตรแบบเลี้ยงตัวเองได้จริง ไม่สุดโต่งจากคำว่าอินทรีย์หรือฟุ่มเฟือยกับอุปกรณ์แปลกใหม่ที่เกินความจำเป็นและไม่ได้ช่วยเพิ่มคุณภาพของผลผลิต
การทำเกษตรนอกจากจะทำเพื่อตัวเองแล้ว ยังต้องทำเพื่อคนอื่นและเพื่อสังคมอีกด้วย เช่นการวางเครือข่ายการผลิตเมล่อนเกรดพรีเมี่ยมของโอโซนฟาร์ม นอกจากจะทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้ง่ายเพราะเครือข่ายกระจายทั่วประเทศแล้ว ยังยกระดับตัวผู้ผลิตเองให้ได้ตามมาตรฐานของกลุ่ม Melon Production partnerships อีกด้วย ฉะนั้นคำว่าครบวงจร คือครบวงจรทั้งระบบ ไม่ใช่เฉพาะฟาร์มใดฟาร์มหนึ่ง แต่เป็นการพัฒนายกระดับผู้ผลิตและผู้บริโภคทั้งหมด เพราะนั่นคือ การยกระดับการเกษตรแบบครบวงจร ยกระดับคุณภาพสินค้าทางการเกษตรทั้งระบบ
แผนพัฒนาเกษตรแบบครบวงจรต้องเริ่มจากการพัฒนาคุณภาพสินค้าทางการเกษตรให้ได้ก่อน หลังจากนั้นจึงเริ่มสร้างความแตกต่าง สร้างจุดขาย ทำให้เป็นจุดเด่นและสามารถขายได้ในราคาที่ผู้ผลิตพอใจ และที่สำคัญต้องตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา เข้าถึงง่าย ทำได้แบบนี้เกษตรกรผู้ผลิตก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องการทำเกษตรแล้วขาดทุนอีกต่อไป
.jpg)
รักในถิ่นฐานบ้านเกิด คือ รักดีๆ ที่ก่อเกิดในในใจของหมู่เฮา
เกียรติประวัติและผลงาน :
- ปี พ.ศ.2546 สำเร็จการศึกษา วิทยาศาสตร์บัณฑิต(เกษตรศาสตร์) "เกียรตินิยมอันดับ 1" จาก มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหัวัดเชียงใหม่
- ปี พ.ศ.2555 ได้รับการรับรองมาตรฐาน "ระบบการจัดการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืช (GAP พืช)"
รหัสรับรอง กษ.03-9001-36161138156 "มะเดื่อฝรั่ง"
รหัสรับรอง กษ.03-9001-37161138393 "มะเขือเทศ"
รหัสรับรอง กษ.03-9001-37161138342 "เมล่อน"
- ปี พ.ศ.2559 ได้รับการรับรองให้ "เป็นผู้ประกอบการ SMEs เกษตร ต้นแบบ จังหวัดเชียงราย" จาก ธกส.
นายพิเชษฐ กันทะวงค์
"โอโซนฟาร์ม"
หมู่บ้านแม่เปิน บ้านเลขที่ 35 หมู่ 12 ซอย 9
ถนนพหลโยธินตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย 57240
โทรศัพท์ 089-2016654
FB : ched kantawong
FBP : โอโซน ฟาร์ม (@OZONEFARM)