นายอภิชาต มนัสตรง ผู้อำนวยการ กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ได้มีการกล่าวถึงการส่งเสริมการปลูกถั่วอินคา ในพื้นที่ 5 จังหวัด ภาคเหนือตอนล่างได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดพิจิตร และจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งถั่วอินคาเป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูง มีสรรพคุณบำรุงสุขภาพและอื่น ๆ อีกมากมาย ปัจจุบันเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสดีของเกษตรกรที่จะเลือกปลูกถั่วอินคาในพื้นที่ของตนเอง เป็นพืชทางเลือกที่มีความเหมาะสม สามารถปลูกได้ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อสร้างรายได้เสริมให้แก่ครอบครัวของเกษตรกร และจากการสำรวจข้อมูลในเบื้องต้น พบว่า มีเกษตรกรปลูกถั่วอินคาในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 146 ไร่ โดยที่ประชุมได้มอบแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันและให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัด เป็นผู้ประสานงานสถาบันเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ โดยกำหนดพื้นที่ดำเนินการให้สอดคล้องกับการจัดโซนนิ่งภาคเกษตรของแต่ละจังหวัด และการขับเคลื่อนแบบครบวงจรตั้งแต่กระบวนการผลิต การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว การรับซื้อผลผลิตของเกษตรกรโดยให้ผ่านระบบสหกรณ์
"ถั่วอินคา" เป็นพืชตระกูลถั่ว มีถิ่นกำเนิดมาจากป่าในลุ่มน้ำอะเมซอน ประเทศเปรู ทวีปอเมริกาใต้ เมื่อ 3,000 กว่าปีที่แล้ว เป็นพืชที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่สำคัญสำหรับมนุษย์ คือสารโอเมก้า 3 6 9 มีน้ำมันที่มีความเข้มข้นสูง มีไขมันไม่อิ่มตัว 98% มีสารต้านอนุมูลอิสระวิตามินและวิตามินอี มีโปรตีนสูงและกรดอะมิโนจำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ ปัจจุบันเป็นที่ต้องการในตลาดโลกอย่างมาก มีการนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลายอย่าง เช่น สกัดเป็นน้ำมันเพื่อรับประทาน ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เครื่องสำอางเครื่องดื่ม สบู่ ชา กาแฟ นม และอื่น ๆ อีกหลายรายการ เป็นพืชที่สามารถปลูกได้ผลดีในโซนเอเชีย ในเขตร้อนชื้น ที่อุณหภูมิตั้งแต่ 10 องศา ถึง 36 องศา ซึ่งมีเพียง 7% ของพื้นที่ทั่วโลกเท่านั้น ที่มีลักษณะภูมิอากาศเช่นนี้ในโซนยุโรป อเมริกา และอีกหลายทวีป ไม่สามารถปลูกได้ในขณะที่ประชา กรนิยมบริโภค จึงทำให้ผลผลิตถั่วอินคาไม่เพียงพอในตลาดโลก ล่าสุดทางรัฐบาลจีนได้สนับสนุนและส่งเสริมให้มีการจัดสร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์จากถั่วอินคาพร้อมส่งเสริมให้ประชากรจีนบริโภคน้ำมันจากถั่วอินคาอีกด้วย.
----------------------------- ^ ^ ------------------------------
ที่มา :
"เกษตร".เดลินิวส์.(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก : http://www.dailynews.co.th/agriculture/320444