ชาวนาเมืองช้างโดยเฉพาะคนที่ทำนาปลูกข้าวต่างก็เดินทางออกทุ่งนาของตนเอง เพื่อไปถอนต้นกล้าและทำการปักดำนาหลังเกิดฝนตกลงเมื่อช่วงบ่ายวานนี้(20ส.ค.62) แม้ว่าฝนจะไม่แรงแต่ก็ก็ทำให้ที่นาชุ่มน้ำพอที่จะปักดำต้นกล้าได้ เพราะหากไม่ถอนต้นกล้าหรือไม่ปักดำในช่วงนี้ ก็จะทำให้ต้นกล้าแก่เกินที่จะนำมาปักดำเป็นต้นข้าวได้ อีกทั้งก็จะเลยฤดูกาลดำนาไปแล้ว ดังนั้นประชาชนที่รอน้ำฝนจึงได้ทำการปักดำนากันเพราะหากปล่อยไปอีกรอให้น้ำมากก็จะไม่ได้ทำเลยก็จะกลายเป็นที่ว่างเปล่า
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า แม้ว่าฝนตกลงมาไม่มากก็ทำให้ชาวนาที่จังหวัดสุรินทร์ยิ้มได้เนื่องจากต้นข้าวที่ปลูกไปก่อนหน้านั้นกำลังแห้งตาย แต่เมื่อมาถูกน้ำฝนก็ปรับสภาพดูเขียวขึ้นส่วนต้นที่กำลังจะตายก็ฟื้นขึ้นมา ยังเป็นความหวังให้กับชาวนาอีกครั้งที่จะได้เก็บเกี่ยวข้าว ในส่วนของแม่น้ำลำคลองและอ่างเก็บน้ำ ยังไม่มีน้ำเพียงพอต่อการทำการเกษตร ชาวนาจึงหวังรอเพียงน้ำฝนอย่างเดียว
นายถนอม เอี่ยมศรี กล่าวว่า ตนเองมีที่นาประมาณ 10 กว่าไร่ ได้เข้าโครงการพระราชดำริ เพื่อผลิตพันธุ์ข้าวพันธุ์ดีกับมูลนิธิชัยพัฒนา โดยวิธีการทำนาแบบนาดำ โดยทุกๆปีฝนตกตามฤดูกาลไม่มีปัญหาเรื่องน้ำในการปักดำ มีปริมาณน้ำที่เพียงพอทำให้ผลผลิตที่ดี ได้เมล็ดพันธุ์ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน แต่ในปีนี้ฝนแล้งทำให้ไม่สามารถปักดำได้เลยได้แต่รอน้ำฝนมาเป็นเดือนจนกล้าที่ที่หว่านไว้เริ่มแก่ ตนกลัวว่าไม่ทันการโดยหน้านี้ตนได้ใช้เครื่องสูบน้ำจากบ่อที่ขุดไว้ เพื่อมาลงแปลงทำให้ที่นาชุ่มพอมีน้ำคราดไถได้ปักดำนามาครึ่งแปลง แต่มาบ่ายวันนี้ได้มีฝนตกมาพอสมควรทำให้ที่นาชุ่มน้ำพอที่จะปักดำต้นกล้าได้ ตนและครอบจึงรีบมาปักดำข้าวจนถึงตอนนี้ก็เย็นแล้วยังไม่เลิกเพราะถ้าทิ้งไว้พรุ่งนี้ไม่แน่ใจว่าดินจะแข็งตัวหรือเปล่าได้ภาวนาให้ฝนตกมาอย่างต่อเนื่องทั้งคืน เพื่อจะได้ดำนาเสร็จทันการทำนาในฤดูกาลนี้