พลตำรวจโทไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า วันนี้ (16 พ.ค.2560) เวลา 14.00 น. ได้นำผู้บริหาร อคส. นำโดย นางสาวอมราภรณ์ สันติวงศ์ รองผู้อำนวยการ อคส. พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ อตก. พาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์ อุตสาหกรรมจังหวัดนครสวรรค์ คสช. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจทางหลวง ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความพร้อมก่อนที่จะลงนามในสัญญา โดยในวันนี้เดินทางมาตรวจคลังสินค้า หจก.ฟาร์มเกษตรชัย ตั้งอยู่เลขที่ 221/1 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองกรด อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีบริษัท วี.ซี.เอฟ กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ประมูลข้าวสารในสต๊อกของรัฐที่ไม่ใช่การบริโภคของคนครั้งที่1/2560 ได้ และจะนำข้าวสารดังกล่าวมาส่งที่คลังปลายทาง (หจก.ฟาร์มเกษตรชัย) เพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมอาหารสัตว์
ทั้งนี้ได้กำหนดขั้นตอนและมาตรการในการควบคุมการขนย้ายข้าวออกจากคลังสินค้าต้นทางไปจนถึงคลังสินค้าปลายทางที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมของผู้ชนะการประมูลข้าวสารในสต๊อกของรัฐจำนวน 90 คลัง ใน 27 จังหวัด ปริมาณรวม 1,179,379.781066 ตัน มูลค่า 5,796,265,217.72 ล้านบาท (จำนวน 12 ราย) ตามที่กรมการค้าต่างประเทศ เปิดประมูลข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนเมื่อวันที่ 23 มี.ค.2560 ที่ผ่านมา โดยได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ อคส.และผู้แทนจากหน่วยงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อม ก่อนลงนามในสัญญา
สำหรับคลังสินค้าที่ปลายทางจะต้องติดตั้งกล้อง CCTV และต้องรายงานข้อมูลสินค้า ผ่านเว็บไซต์ www.pwo.co.th เพื่อรายงานให้เจ้าหน้าที่ อคส.รับทราบ และเมื่อขนย้ายข้าวถึงสถานที่ปลายทางแล้ว อคส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสุ่มตรวจปริมาณข้าว อีกครั้งว่าตรงตามปริมาณการขนย้ายหรือไม่
หาก อคส.ตรวจพบว่าผู้ซื้อไม่นำเข้าสารเข้าสู่กระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมตามที่ได้แจ้งไว้ในวัตถุประสงค์ที่ขอซื้อจะต้องชำระค่าปรับ 25% ของมูลค่าข้าวสารที่ไม่ได้นำเข้าสู่กระบวนการอุตสาหกรรม และหาก อคส.เลิกสัญญา ผู้ซื้อจะต้องเสียค่าปรับ 25% ของมูลค่าปริมาณข้าวสารที่ยังไม่ได้รับมอบและขนย้าย รวมทั้งจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งทางแพ่งและอาญาด้วย ในการกำหนดขั้นตอนและมาตรการการควบคุม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้
สำหรับคลังสินค้าที่ปลายทางจะต้องติดตั้งกล้อง CCTV และต้องรายงานข้อมูลสินค้า ผ่านเว็บไซต์ www.pwo.co.th เพื่อรายงานให้เจ้าหน้าที่ อคส.รับทราบ และเมื่อขนย้ายข้าวถึงสถานที่ปลายทางแล้ว อคส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสุ่มตรวจปริมาณข้าว อีกครั้งว่าตรงตามปริมาณการขนย้ายหรือไม่
หาก อคส.ตรวจพบว่าผู้ซื้อไม่นำเข้าสารเข้าสู่กระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมตามที่ได้แจ้งไว้ในวัตถุประสงค์ที่ขอซื้อจะต้องชำระค่าปรับ 25% ของมูลค่าข้าวสารที่ไม่ได้นำเข้าสู่กระบวนการอุตสาหกรรม และหาก อคส.เลิกสัญญา ผู้ซื้อจะต้องเสียค่าปรับ 25% ของมูลค่าปริมาณข้าวสารที่ยังไม่ได้รับมอบและขนย้าย รวมทั้งจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งทางแพ่งและอาญาด้วย ในการกำหนดขั้นตอนและมาตรการการควบคุม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้