แล้งหนักมาก ชาวนาชัยนาท ไม่สนคำประกาศ ลอบสูบน้ำเข้านาตอนกลางคืน

ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 5.96 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยเขื่อนเจ้าพระยายังคงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ 75 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อผลักดันน้ำเค็ม รักษาระบบนิเวศ และเพื่อการผลิตน้ำประปาในพื้นที่ภาคกลางและ กทม. และไม่มีท่าที หรือนโยบายที่จะส่งน้ำให้เกษตรกรแต่อย่างใด ซึ่งระดับน้ำดังกล่าวคาดว่าสามารถเหลือใช้ได้เพียง 2 เดือนกว่าเท่านั้น

ขณะที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลเทพ ได้นำเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้ามาติดตั้งที่ปากคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง ต.มะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เพื่อส่งเข้าพื้นที่ 2 จังหวัดคือ จ.ชัยนาท และ จ.สุพรรณบุรี โดยมีเป้าหมายในการส่งไปช่วยพื้นที่ปลายคลองใน อ.ดอนเจดีย์ อ.ศรีประจันต์ แล อ.หันคา ใช้ในการผลิตน้ำประปา แต่ล่าสุดทีมข่าวได้ลงพื้นที่หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมของชาวนาจำนวนมากที่แอบนำเครื่องสูบน้ำมาลักลอบสูบน้ำเข้านา เพื่อเตรียมทำนาปรัง แม้ทางราชการจะมีประกาศไปติดขอความร่วมมือให้งดใช้น้ำ เพื่อให้น้ำไปถึงปลายคลองก็ตาม

นายวินัย จันทร์งาม ชาวบ้าน ต.มะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า ชาวนาที่ลักลอบสูบน้ำจะทำในเวลากลางคืนที่ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยออกตรวจลำคลอง โดยจะนำเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งบนรถไถมาสูบน้ำตั้งแต่เวลา 18.00-05.00 น. และมีการเจาะร้อยท่อลอดใต้ถนน เพื่อหลบสายตาเจ้าหน้าที่ และจะเก็บเครื่องสูบน้ำเข้าบ้านในช่วงกลางวัน ซึ่งการลักลอบสูบน้ำของชาวนาเป็นสาเหตุหนึ่งที่ปริมาณน้ำหายไประหว่างทางมากถึงกว่าร้อยละ 30 ทำให้แผนที่วางไว้ของกรมชลประทานต้องคลาดเคลื่อนไปจากเดิม.