เรื่องเด็ดเกร็ดเกษตร

ชาวนาศรีสะเกษ ตัดใบข้าว เพิ่มปุ๋ย ลดใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช

04 สิงหาคม 2558
15,198
เกษตรกรที่ทำนาหว่าน ส่วนใหญ่พบปัญหา มีต้นหญ้าและวัชพืชขึ้นแซมต้นข้าวในนา จึงใช้วิธีตัดใบข้าว เพื่อไม่ให้ต้นหญ้าที่แก่ หักล้มทับต้นข้าว ลดการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืชบางชนิด ลดการใช้สารเคมีรวมทั้งยังเป็นการกำจัดวัชพืชไปในตัว โดยเกษตรกรที่ทำนาหว่าน เริ่มเร่งมือตัดใบข้าว ซึ่งเป็นการช่วยลดต้นทุนในการผลิต และยังเป็นการเพิ่มปุ๋ย เพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกรชาวนาอีกด้วย
นายต่วน คงสุวรรณ เกษตรกรชาวนา วัย72 ปี บ้านดอนหลี่ หมู่ 3 ต.สมอ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ กล่าวกับทางร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด จ.อุบลราชธานี ว่า ได้ทำการตัดใบข้าวมาหลายวันแล้ว สาเหตุที่ต้องตัดใบข้าวก็เพราะ ปีนี้ฝนทิ้งช่วงนาน ทำให้ประสบปัญหาต้นหญ้าและวัชพืชอื่นขึ้นแซมมากับต้นข้าวจำนวนมาก โดยเฉพาะแปลงนาที่เป็นนาหว่าน ตนจึงตัดสินใจซื้อเครื่องตัดหญ้า เพื่อใช้ตัดหญ้าที่ขึ้นตามคันนา และในแปลงนา โดยตนเองเชื่อว่าเป็นการกำจัดหญ้าและวัชพืชที่ปลอดภัย ทั้งยังทำให้ต้นข้าวแตกกอเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนใบข้าว เศษหญ้าและเศษวัชพืชที่ตัด ก็หมักเป็นปุ๋ยพืชสดใช้ในนาข้าว นอกจากนี้ก็ยังนำไปเป็นอาหารเลี้ยงวัวได้ด้วย ช่วยแบ่งเบาภาระเกี่ยวกับเรื่องอาหารของวัว ในช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในช่วงนี้จนถึงกลางเดือนสิงหาคม เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ในการตัดใบข้าว เพราะหากเลยเดือนสิงหาคมไปแล้ว ต้นข้าวจะเริ่มตั้งท้องและถ้าไปตัดใบข้าวในช่วงตั้งท้อง ก็จะทำให้ต้นข้าวเสียหาย และจะไม่ได้ผลผลิต


ซึ่งการตัดใบข้าวนั้น ตนจะตัดใบข้าวที่สูงจากพื้นดินประมาณ 15 เซนติเมตร สำหรับนาที่ไม่มีน้ำ ส่วนนาที่มีน้ำขังอยู่ ก็จะตัดสูงกว่าน้ำประมาณ 1นิ้ว ตัดแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ในนา แล้วก็ใช้น้ำหมักอีเอ็มฉีดพ่น เพื่อให้ทั้งใบข้าวและใบหญ้าย่อยสลาย หมักเป็นปุ๋ย ซึ่งจะทำให้ได้ประโยชน์จากการตัดใบข้าว นอกจากนี้ยังเป็นการลดปริมาณของใบข้าว และตัดใบข้าวแก่ที่ไม่มีประโยชน์ทิ้ง ทําให้ต้นข้าวแข็งแรงไม่ล้มง่าย แสงแดดสามารถส่องถึงพื้นน้ำ พื้นดิน อากาศในแปลงนาระบายได้ดี เป็นการกำจัดวัชพืชที่ไม่ต้องใช้สารเคมี รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มผลผลิตอีกทางหนึ่ง ประกอบกับเครื่องตัดหญ้านั้นเป็นเครื่องมือที่ราคาไม่แพงมาก หาได้ไม่ยากในปัจจุบันนี้

แหล่งที่มาของข้อมูล : ต่วน คงสุวรรณ ,สัมภาษณ์ ,01 สิงหาคม 2558
เรียบเรียงโดย : ภูวไนย ใจหาญ เจ้าหน้าที่ร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด จ.อุบลราชธานี