เรื่องเด็ดเกร็ดเกษตร

พลิกวิกฤต ชาวนา โคราช ปลูกต้นหอมสู้ภัยแล้ง สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

15 กรกฏาคม 2558
6,592
จากสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังทวีความรุนแรงในหลายพื้นที่และในหลายจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้ประกาศภัยแล้งไปแล้วกว่า 25 อำเภอ ทำให้ชาวนาหลายคนปลูกข้าวไม่ได้ต้องเลื่อนการเพาะปลูก แต่สำหรับเกษตรกรบ้านพระวังหาร หมู่ 4 ต.หนองงูเหลือม อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา สู้วิกฤตภัยแล้งที่กำลังทวีความรุนแรงด้วยการนำผืนนาที่แห้งน้ำปลูกข้าวไม่ได้มาปรับเป็นแปลงปลูกต้นหอม เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวในช่วงหน้าแล้งนี้ โดยลงทุนไร่ละไม่เกิน 15,000 บาท โดยใช้เวลาในการเพาะปลูกประมาณ 50-55 วัน ก็สามารถเก็บขายได้
ด้าน นายสมหมาย แยกงูเหลือม อายุ 60 ปี เกษตรกรปลูกต้นหอมและผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านพระวังหาร ต.หนองงูเหลือม อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เปิดเผยกับทีมงานว่า หมู่บ้านพระวังหารมีราษฎรทั้งหมด 93 หลังคาเรือน มีเกษตรกรประกอบอาชีพปลูกหอมแบ่งช่วงหน้าแล้งจำนวน 42 หลังคาเรือน บนพื้นที่กว่า 150 ไร่ จากพื้นที่การเกษตรทั้งหมดกว่า 500 ไร่ ซึ่งถือเป็นแหล่งผลิตต้นหอมใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน สร้างรายได้เข้าหมู่บ้านปีละกว่า 15 ล้านบาท
ทั้งนี้เกษตรกรจะเริ่มปลูกหอมหลังฤดูทำนาปี โดยนำที่นามาไถดินเปลี่ยนเป็นแปลงปลูกต้นหอมตั้งแต่ช่วงเดือน ก.พ.- ก.ค.ของทุกปี ใช้เวลาเพาะแต่ละรุ่นประมาณ 40-50 วันเก็บผลผลิตได้ ใช้น้ำจากคลองลำบริบูรณ์ที่รับน้ำจากลำตะคลอง ซึ่งในรอบ 1 ปีช่วงหน้าแล้ง เกษตรกรแต่ละรายจะปลูกหอมได้ประมาณ 2 รุ่น สร้างรายได้ไร่ละประมาณ 1 แสนบาท ส่วนด้านการตลาดเกษตรกรส่วนใหญ่จะบรรทุกต้นหอมไปขายเอง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง จึงขายได้ราคาดี เคยขายได้ราคาสูงสุดถึงกิโลกรัมละ 90-120 บาท แต่ขณะนี้ราคาขายส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 40-50 บาท ซึ่งตลาดส่วนใหญ่ก็จะส่ง ตลาดสุนคร ตลาดไทยและตลาดสี่มุมเมือง ถือเป็นอาชีพเสริมที่ทำรายได้ดีให้แก่เกษตรกร และยังสร้างงานให้คนในพื้นที่ด้วย เพราะต้องจ้างแรงงานล้างและมัดต้นหอม ซึ่งปีต่อไปทาง อบต.หนองงูเหลือมจะส่งเสริมให้เพิ่มพื้นที่เพาะปลูกต้นหอมเพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรในช่วงหน้าแล้งอีกไม่น้อยกว่า 50-100 ไร่

แหล่งที่มาของข้อมูล : สมหมาย แยกงูเหลือม.ปราญชาวบ้าน.สัมภาษณ์, 10 กรกฎาคม 2558.
เรียบเรียงโดย : พรชัย พิมขุนทด เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด จ.นครราชสีมา