นางพะยอม สืบสม ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง กล่าวว่า เนื่องจากตอนนี้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.พัทลุง และอีกทั้งช่วงนี้มีฝนตกบ่อยจึงทำให้กรีดยางไม่ได้ทุกวัน จึงหันมาเลี้ยงปลาดุก เนื่องจากมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงบ้าน โดยในครั้งแรกเลี้ยงในกระชังเพียง 800 ตัว ระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือน จะได้ปลาขนาด 3-4 ตัวต่อกิโลกรัม และได้ไปดูการเลี้ยงปลาดุกในที่ต่างๆ แล้วกลับมาทำเป็นบ่อซีเมนต์จำนวน 3 บ่อ สามารถเลี้ยงปลาได้จำนวน 7000 ตัว เพื่อส่งขายในราคากิโลกรัมละ 50 บาท พ่อค้าแม่ค้านำไปทำปลาดุกร้าขาย ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 250-300 บาท จึงทำให้มั่นใจในตลาด เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าเมื่อนำไปแปรรูปขาย ราคาสูงขึ้นหลายเท่าตัว
ด้านนายรณชัย ชูศรี ชาวสวนยาง ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง กล่าวว่า จากที่ราคายางพาราตกต่ำส่งผลกระทบต่อรายจ่ายของครอบครัวเป็นอย่างมาก ได้มีแนวคิดมาเลี้ยงปลาดุกในกระชัง ซึ่งประกอบกับในสวนมีบ่อเลี้ยงปลาอยู่แล้ว จึงไม่ต้องลงทุนมากในการเลี้ยงปลาดุก เลี้ยง 800 ตัว เพื่อส่งขายในราคา กิโลกรัมละ 50 บาท ที่พ่อค้าแม่ค้านำไปทำเป็นปลาดุกร้าขายในกิโลกรัมละ 250-300 บาท
เรียบเรียงโดย : สิทธิโชค กุลสุข. เจ้าหน้าที่ร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด จ.นครศรีธรรมราช
เรียบเรียงโดย : สิทธิโชค กุลสุข. เจ้าหน้าที่ร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด จ.นครศรีธรรมราช