นายพิจิตร ศรีสุวรรณ เจ้าของศรีสุวรรณฟาร์มกุ้งก้ามแดง พื้นที่ตำบลบางหมาก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ให้ข้อมูลว่า หลังจากทราบข่าวประกาศจากกรมประมงให้ไปขึ้นทะเบียนผู้เลี้ยงกุ้งก้ามแดง และชี้แจงรายละเอียดในการเลี้ยง หากไม่ขึ้นทะเบียนและตรวจสอบพบภายหลังจะมีโทษปรับเป็นจำนวนเงินค่อนข้างสูง จึงรีบไปขึ้นทะเบียนและเชิญชวนเพื่อนๆที่เลี้ยงอยู่ไปขึ้นทะเบียน หลังจากนั้นมีกระแสข่าวออกมาว่าในการซื้อขายกุ้งก้ามแดงแต่ละครั้งจะต้องมีใบซื้อขายเป็นลายลักษณ์อักษร ทำให้เกิดความยุ่งยากและสับสนในข้อเท็จจริงเป็นอย่างมาก จึงอยากทราบรายละเอียดและข้อมูลที่ชัดเจนเพื่อที่จะได้ดำเนินการขั้นตอนต่างๆได้อย่างถูกต้องและจะได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรท่านอื่นๆ ได้ทราบข้อมูลเพื่อที่จะได้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้องด้วยเช่นกัน
ศูนย์ประสานงานร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิดจังหวัดชุมพรได้สอบถามไปยังนายสุทธิโน ลิ้มสุรัตน์ ผู้ช่วยประมงจังหวัดชุมพร ได้ชี้แจงว่า เนื่องจากกุ้งก้ามแดงไม่ใช่สัตว์ประจำถิ่น เป็นสัตว์ที่นำมาจากที่อื่นเพื่อมาเลี้ยง เพื่อไม่ให้แพร่กระจายลงสู่แหล่งธรรมชาติซึ่งอาจไปทำลายพืชและสัตว์น้ำในพื้นถิ่นจนอาจเสียหายและสูญพันธุ์ได้ จึงต้องมีการควบคุมไว้ก่อนในเบื้องต้น โดยประกาศให้ผู้ที่มีกุ้งก้ามแดงไว้ในครอบครองมาขึ้นทะเบียนได้อย่างต่อเนื่อง ได้ที่สำนักงานประมงจังหวัดและสำนักงานประมงอำเภอทุกอำเภอ เพื่อในอนาคต จะได้ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมในการเลี้ยงกุ้งก้ามแดงต่อไปโดยยังไม่มีระยะเวลากำหนด จนกว่าคณะกรรมการในที่ประชุมจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนอีกครั้ง
นายสุทธิโน ลิ้มสุรัตน์ ยังได้แนะนำเกษตรกรและประชาชนที่มีกุ้งก้ามแดงไว้ในครอบครองอีกว่า หากเป็นไปได้อยากให้มาขึ้นทะเบียนกันให้ครอบคลุมทุกๆราย ไม่ว่าจะเลี้ยงเพียงเล็กน้อย หรือเลี้ยงในรูปแบบฟาร์ม เพราะหลังจากที่มีการประกาศเป็นพื้นที่เลี้ยงกุ้งก้ามแดงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้น 60 วัน หากตรวจพบผู้ใดมีกุ้งก้ามแดงไว้ในครอบครองโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน จะมีโทษปรับเป็นจำนวนเงินค่อนข้างสูง และสำหรับการขึ้นทะเบียนซื้อขายกุ้งก้ามแดงนั้น จะมีความชัดเจนหลังจากพื้นที่นั้นๆประกาศเป็นเขตพื้นที่เลี้ยงกุ้งก้ามแดงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เรียบเรียงข้อมูลโดย : อรรถพงศ์ ศักนา. เจ้าหน้าที่ร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิดจังหวัดชุมพร.