|
|
วันที่ 5 เม.ย. 59 มีรายงานว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ด-ไก่รายย่อย ในพื้นที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งล่าสุด มีไก่บางสายพันธุ์ทนอากาศร้อนไม่ไหว ทยอยตายลงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะใช้ความพยายามในหลายวิธีแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
นายเจตรินทร์ โชคเกื้อ อายุ 23 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ด-ไก่ ภายในซอยทุ่งนาเคียน บ้านลิพอน ม.5 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง กล่าวว่า ตนเองได้ออกจากงานประจำ และหันมาริเริ่มเลี้ยงไก่เมื่อประมาณปลายปี 58 ที่ผ่านมา โดยหาซื้อพันธุ์ไก่หลายสายพันธุ์ ทั้งไก่บ้าน ไก่เนื้อ ไก่ดำ และเป็ดรวมประมาณ 200 ตัว เลี้ยงในโรงเรือนขนาดเล็ก ล้อมด้วยตาข่าย แยกเป็นโรงเรือนสำหรับเป็ด ไก่บ้าน และไก่ดำ จัดให้มีเนื้อที่โล่งรอบโรงเรือนเพื่อให้อากาศถ่ายเท ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่มีโรคระบาดตามฤดูกาล เริ่มมีไก่ตาย แต่ก็ไม่มาก "ตนพยายามดูแลอย่างดีจนรอดมาได้ ขณะนี้ เป็ด ไก่เริ่มโตขึ้น เฉลี่ยนำหนักตัวละ 0.5-3 กิโลกรัม ใกล้จะขายได้ แต่จากสภาพอากาศที่ร้อนในช่วงตั้งแต่กลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ทำให้ไก่เริ่มซึม กินอาหารได้น้อยลงและทยอยตายอีกครั้ง เฉลี่ยวันละ 1-2 ตัว และมีแนวโน้มที่จะตายเพิ่ม โดยเฉพาะพันธุ์ไก่ดำ ซึ่งเป็นไก่พื้นเมืองของภาคเหนือ ซึ่งไม่สามารถทนความร้อนได้เหมือนไก่บ้าน ตนเองจึงต้องย้ายไก่ดำมาเลี้ยงในโรงเรือนของเป็ด ซึ่งร่มรื่นและใกล้แหล่งน้ำมากกว่า พร้อมทั้งเพิ่มการให้น้ำ และเพิ่มอาหารจากธรรมชาติ นอกจากนี้ยังนำพัดลมเปิดในโรงเรือน และเปิดสปริงเกอร์ฉีดน้ำรอบโรงเรือน เพื่อช่วยให้ระบายความร้อน แต่ยังพบว่าขณะนี้ มีไก่ดำทยอยตายเพิ่มจนเหลือเพียงไม่กี่สิบตัว จึงต้องพยายามหาแนวทางอย่างอื่นไปเรื่อยๆ" นายเจตรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน ไก่บ้าน ซึ่งเลี้ยงไว้อีกโรงเรือนนั้นถึงแม้จะไม่ตาย เนื่องจากสามารถทนร้อนได้มากกว่าไก่ดำ แต่พบว่าไก่บ้านตัวเมีย มีอัตราการวางไข่ ฟักไข่ และกินอาหารน้อยลง แต่มีการลงกินน้ำบ่อยขึ้น ก่อนจะหลบไปอยู่เป็นกลุ่มตามพุ่มไม้รอบโรงเรือน อย่างไรก็ตาม ผลจากอากาศร้อนได้ทำให้ไก่ตายไปหลายสิบตัว ถึงแม้ที่เหลืออีกประมาณ 100 ตัวจะรอด และสามารถนำไปขายได้ แต่ตนคิดว่าคงขาดทุนอยู่ดี. |
เรื่องเด็ดเกร็ดเกษตร
