
นางรัตนา น้ำคำอายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 326 ม.18 บ้านศิลา ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ได้ใช้พื้นที่นาข้างบ้าน จำนวน 2 ไร่ ทำนาบัวมากว่า 10 ปี ที่ผ่านมาก็บดอกบัวอาทิตย์ละ 1 ครั้งๆละประมาณ 3,000 ดอก ส่งจำหน่ายให้กับพ่อค้าในพื้นที่ขอนแก่นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการทำนาบัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องปรับที่ดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ละไม่ขาดน้ำ เมื่อปรับที่ดินแล้วก็จะลงบัว และต้องใส่ปุ๋ยทั้งปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมี เพื่อให้ดอกบัวที่จะเก็บขายนั้นมีความสวยทั้งก้านและดอก
“แต่เมื่อประมาณเดือน พ.ย. 2562 ที่ผ่านมาน้ำในนาบัวก็เริ่มแห้ง จนถึงเดือน ม.ค.ปีนี้ไม่มีน้ำทำการเกษตรเลย จนดินแตกระแหง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้น อีกทั้งขณะนี้ดอกบัวในนาที่มีกว่าหมื่นดอก ไม่สามารถเก็บขายได้ เพราะนาบัวไม่มีน้ำ ดอกบัวไม่สมบูรณ์ จึงต้องปล่อยให้เฉาตายจนสูญเสียรายได้มาหลายเดือนแล้ว"
ขณะที่ น.ส.ชไมพร สาคุณ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 262 ม.18 บ้านศิลา ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ครอบครัวทำนาบัวจำนวน 4 ไร่ แต่วันนี้ขาดน้ำจนพื้นดินแตกระแหง บัวแห้งตายทั้งแปลง ซึ่งการทำนาบัวของครอบครัวต้องอาศัยน้ำฝน และน้ำจากคลองชลประทาน เพราะบัวต้องการพื้นดินที่ชุ่มชื้น ขาดน้ำบัวก็แห้งตาย
“ตั้งแต่พ่อกับแม่ทำนาบัวมาประมาณ 40 ปี ครั้งนี้ถือว่าแล้งหนักที่สุด เนื่องจากปีที่ผ่านมา ฝนตกน้อยมาก และทางราชการไม่ปล่อยน้ำ มาให้ เพราะน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์มีน้อยมาก ซึ่งก็เข้าใจและนับตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมาก็ไม่มีน้ำมาเติมลงนาบัว ครอบครัวก็ทำใจว่านาบัวต้องขาดน้ำและต้องตาย และปล่อยให้แห้งตาย ซึ่งหลังจากนาบัวแห้งตายก็มีผลกระทบตามมาคือค่าใช้จ่ายในครอบไม่พอ ทุกวันนี้แม่และทุกคนต้องไปหาซื้อดอกไม้จากเพื่อนบ้านมาร้อยพวงมาลัย ไปนั่งขายที่ตลาดสด หารายได้เลี้ยงครอบครัว"