นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เผยถึงแนวทางแก้ปัญหา หลังได้เข้าพบหารือ นายลวี่เจี้ยน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศ ไทย ว่า เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างไทย-จีน ถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในภาคเกษตร โดยเฉพาะปัญหาล้งจีนขาดการควบคุม และเริ่มกระจายไปอยู่ตามตลาดผลไม้ของประเทศไทยเกือบทุกจังหวัด โดยสภาเกษตรกรฯได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหา ขอให้ผู้ค้าจากจีนที่จะเข้ามาทำธุรกิจล้งรวบรวมผลไม้ในประเทศไทยต้องผ่านการรับรองจากสถานทูตจีน
"ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการแย่งชิงตลาดสินค้าเกษตร และเกิดการค้าขายแลกเปลี่ยนระหว่างไทย-จีนไปได้ด้วยดีในระยะยาว สภาเกษตรกรฯ ได้เสนอ จากนี้ไปควรมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลในระยะยาวด้านการวางแผน การผลิตสินค้าร่วมกัน หากสินค้าชนิดใดที่ประเทศจีนผลิตได้มีต้นทุนต่ำ คุณภาพดีกว่า ไทยจะไม่ส่งออกทั้งไปจีนและตลาดเพื่อนบ้าน ส่วนสินค้าเกษตรชนิดใดที่ไทยควบคุมต้นทุนการผลิตได้ถูกและคุณภาพดีกว่าจีน ไทยจึงจะผลิต แนวทางนี้นอกจากช่วยลดการแข่งขัน ยังทำให้ตลาดส่งออกเปิดกว้างมากขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้เป็นแนวทางเดียวกับที่ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน มีนโยบายต้องการแก้ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำเช่นกัน"
นายประพัฒน์ กล่าวอีกว่า ทางรัฐบาลไทย-จีน ยังได้แลกเปลี่ยนศึกษาดูงานด้านเกษตรและเครื่องจักรกลเกษตร วิทยาการการผลิตและแปรรูปเห็ด การผลิตและการแปรรูปอุตสาหกรรมไผ่ที่มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งจีนมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก และไทยได้เสนอแลกเปลี่ยนดูงานการเกษตรในพื้นที่ปลูกสับปะรด ข้าวหลากหลายสายพันธุ์ รวมทั้งแปลงปลูกส้มโอคุณภาพ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการจีนได้เข้าถึงแหล่งผลิตของเกษตรกรที่แท้จริง ยิ่งจะเป็นช่องทางเพิ่มปริมาณการส่งออกได้มากขึ้น.