นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ชี้แจงกรณีการพิจารณาคำขอต่ออายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายพาราควอต ของผู้ประกอบการเดิมที่ขอต่ออายุก่อนที่ใบสำคัญการขึ้นทะเบียนจะหมดอายุว่า คณะอนุกรรมการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายได้พิจารณาข้อมูลความเป็นพิษของวัตถุอันตราย ผลการวิเคราะห์ของผลิตภัณฑ์ ผลการทดลองประสิทธิภาพ และรายละเอียดอื่นๆแล้ว พบว่ามีเอกสารครบถ้วน และถูกต้องตามหลักวิชาการ จึงมีมติเสนอให้รับต่ออายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียนได้จนถึงปัจจุบันจำนวน 4 ทะเบียน ซึ่งในจำนวน 4 ทะเบียนนี้เป็นผู้ประกอบการคนไทย 1 รายซึ่งเป็นพาราควอตจากแหล่งผลิตประเทศจีน และผู้ประกอบการต่างชาติ 1 ราย ซึ่งเป็นพาราควอตจากประเทศอินโดนีเซียและจีน โดยยืนยันว่า กรมวิชาการเกษตร ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทข้ามชาติหรือผู้ประกอบการรายใด รวมทั้งไม่ได้ส่งเสริมการค้าผูกขาดทำให้มีผู้ขายน้อยรายแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทที่ได้รับการต่อทะเบียนนำเข้าพาราควอตจากประเทศจีนเป็นหลัก ดังนั้น ผู้ประกอบการที่นำเข้าพาราควอตจากประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ยังสามารถขอต่ออายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียนพาราควอตได้เหมือนเดิมหากมีข้อมูลเอกสารครบถ้วนและถูกต้องตามหลักวิชาการ
"ผู้ประกอบการที่ได้รับการต่ออายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียนทั้ง 2 ราย ยังคงนำเข้าพาราควอตจากประเทศจีน ซึ่งผลิตเพื่อการส่งออก ส่วนกรณีพาราควอตไดคลอไรด์สูตรเม็ด ปัจจุบันยังไม่มีผู้มายื่นขอขึ้นทะเบียน" นายสุวิทย์ กล่าว
"ผู้ประกอบการที่ได้รับการต่ออายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียนทั้ง 2 ราย ยังคงนำเข้าพาราควอตจากประเทศจีน ซึ่งผลิตเพื่อการส่งออก ส่วนกรณีพาราควอตไดคลอไรด์สูตรเม็ด ปัจจุบันยังไม่มีผู้มายื่นขอขึ้นทะเบียน" นายสุวิทย์ กล่าว