เกษตรกรต้นแบบ

"บ้านสวนมะนาวโห่ลุงสิริ"


คุณทสม์ เจริญช่าง
 12 มีนาคม 2561 5,710
จ.สมุทรสงคราม
ธุรกิจนี้เป็น “ธุรกิจติดธรรมะ” เพราะการขายต้นให้คนที่ป่วยด้วยโรคต่างๆ เอาไปปลูกเพื่อเก็บผลกินแก้โรค หรือซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปไปกินเพื่อลดปัญหาสุขภาพ เป็นเหมือนการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ไปในตัว

จากของดีในอดีตที่คุณพ่อของเขาค้นพบเข้าด้วยความบังเอิญ บวกกับความเป็นคนช่างสงสัย มะม่วงไม่รู้หาวมะนาวไม่รู้โห่ หรือที่สมัยนี้เรียกกันสั้นๆ ว่า มะม่วงหาวมะนาวโห่ กลายมาเป็นทั้งยาที่ช่วยให้คุณพ่อของเขาหายป่วย และทั้งอาชีพใหม่ที่นำมาทั้งชื่อเสียง รายได้ และความสุขใจไปพร้อมๆ กัน เวลานี้คุณทสม์ ได้ก้าวเข้ามารับช่วงสวนบ้านมะนาวโห่ลุงสิริต่อจากคุณพ่อ และเดินหน้าคิดค้นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสานต่อความตั้งใจของคุณพ่อที่อยากเห็นผลไม้แสนวิเศษนี้ เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ และช่วยเหลือคนป่วยทุกคน

คุณทสม์ เป็นลูกชายคนเล็กของตระกูลเจริญช่าง ผู้เติบโตและมีโอกาสคลุกคลีอยู่กับสวนมะม่วงหาวมะนาวโห่ของผู้เป็นพ่อมาตลอด 15 ปีที่ผ่านมา คุณทสม์เล่าว่า รอยยิ้มยินดีของบรรดาลูกค้าที่เคยซื้อผลหรือต้นมะม่วงหาวมะนาวโห่จากที่สวนไปแล้วหายเจ็บป่วย บวกกับคำที่คุณพ่อของเขาพร่ำสอนถึงคุณประโยชน์ของผลมะม่วงหาวมะนาวโห่ ว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้อื่นที่ป่วยเช่นเดียวกับคุณพ่อของเขาได้มากมายอย่างไร ทำให้เขาเกิดความรู้สึกผูกพันและภาคภูมิใจกับสวนแห่งนี้ เมื่อจบการศึกษาด้านคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยบูรพา แทนที่จะเลือกทำงานประจำ เป็นพนักงานบริษัทตามเมืองใหญ่ และทำงานในห้องแอร์ คุณทสม์จึงตัดสินใจเลือกเดินตามรอยคุณพ่อของเขา เข้ามาสืบทอดกิจการบ้านสวนมะนาวโห่ลุงสิริ ซึ่งคุณทสม์บอกว่า ถึงจะต้องทำงานกลางแดดอยู่ในสวน แต่ก็มีความสุขทุกวัน

ย้อนหลังไปกว่า 15 ปีที่แล้ว คุณลุงสิริ คุณพ่อของคุณทสม์ ซึ่งกำลังป่วยเป็นโรคถุงลมโป่งพอง ได้เดินทางไปไปไหว้พระที่จังหวัดอุทัยธานี และไปพบเข้ากับต้นมะม่วงไม่รู้หาวมะนาวไม่รู้โห่ ต้นไม้ในวรรณคดี คุณลุงเกิดความคิดว่า คนโบราณกล่าวถึงต้นไม้ต้นนี้อยู่บ่อยๆ ก็แปลว่าต้องมีดีอะไรสักอย่าง จึงลองเก็บผลมากิน ปรากฏว่าเช้าวันรุ่งขึ้นเสมหะที่มีอยู่มากมายละลายหายไป คุณลุงจึงกินผลที่คุณสมปอง ภรรยาของคุณลุง เก็บกลับมาด้วยต่อไปอีก และพบว่าอาการที่เคยทรมานจากถุงลมโป่งพองค่อยๆ หายไป เมื่อลองศึกษาค้นคว้าก็พบว่า มะม่วงหาวมะนาวโห่มีสารแอนโธไซยานิน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีสรรพคุณช่วยป้องกันมะเร็งและเบาหวาน รวมถึงสารอื่นๆ ที่มีประโยชน์อีกมากมาย คุณลุงจึงตัดสินใจหาต้นพันธุ์มาปลูก และเดินหน้าเปลี่ยนสวนมะพร้าวที่เริ่มออกลูกน้อย มาเป็นสวนมะม่วงหาวมะนาวโห่จนเต็มพื้นที่ 40 ไร่

ต้นมะม่วงหาวมะนาวโห่เป็นไม้โบราณจึงปลูกง่าย ดูแลง่าย แทบไม่มีต้นทุนอะไรมากในการดูแล แถมยังอายุยืน ต้นหนึ่งๆ อยู่ได้ราว 15 ปี โดยการปลูกอาจปลูกด้วยการเพาะเมล็ด ซึ่งมีข้อเสียคือจะโตช้า และต้องรอประมาณ 5 ปี จึงจะให้ลูก แต่ทางสวนได้จำหน่ายกิ่งตอนสำหรับผู้ที่สนใจนำไปปลูก เพราะกิ่งตอนจะสามารถช่วยร่นระยะเวลาให้ต้นเริ่มออกผลได้ตั้งแต่ปีที่ 3 ซึ่งรวดเร็วขึ้นมาก มะม่วงหาวมะนาวโห่ชอบแสงแดดจัดเช่นเดียวกับไม้ยืนต้นทั่วไป ชอบดินร่วนซุย ไม่อุ้มน้ำ และไม่ต้องการน้ำมาก จะมีต้องรดน้ำบ้างก็ในช่วงที่กำลังจะออกผล อย่างที่บ้านสวนมะนาวโห่ลุงสิริเองมีการชักท้องร่องเอาไว้ตั้งแต่สมัยทำสวนมะพร้าว จึงแทบไม่จำเป็นต้องรดน้ำ เวลาปลูกแนะนำว่าควรปลูกให้ห่างกันประมาณ 5 เมตร และควรหมั่นตัดแต่งทรงพุ่มไม่ให้ต้นสูงเรับประทานไป ไม่อย่างนั้นจะเก็บผลลำบาก

ในส่วนของการดูแล ที่นี่ใช้ปุ๋ยคอกธรรมดาๆ เท่านั้น และปุ๋ยที่แนะนำก็มีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน คือปุ๋ยขี้หมูที่ผ่านการหมักก๊าซชีวภาพมาแล้วเพื่อกำจัดกลิ่น มีคุณสมบัติช่วยให้ต้นออกดอกดก ส่วนอีกชนิดนึงคือปุ๋ยขี้วัว ที่แม้จะมีข้อเสียคือมีกลิ่นบ้างเวลาที่โดนน้ำ และมักทำให้มีหญ้าขึ้นเยอะตามมาด้วย แต่มีคุณสมบัติที่ดีคือช่วยบำรุงต้นและใบ โดการใส่ปุ๋ยคอกยจะใส่เพื่อบำรุงปีละครั้งก่อนต้นออกดอก พร้อมๆ กับการตัดแต่งกิ่ง ในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี แม้แต่การกำจัดวัชพืชก็ใช้คนงานลงสวนตัดหญ้าเอาเท่านั้น เพราะที่นี่เน้นว่าต้องการจำหน่ายผลให้คนนำไปรับประทานเพื่อสุขภาพ จึงหลีกเลี่ยงสารเคมีทุกชนิดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของคนรับประทานตามมา คุณทสม์บอกว่า บำรุงแค่นี้ก็ได้ผลผลิตแล้ว 1,800 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี เพราะมะม่วงหาวมะนาวดกเป็นไม้ที่ให้ลูกดกนั่นเอง

สำหรับคนทั่วไปที่ต้องการปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่เอาไว้เพื่อรับประทานบำรุงสุขภาพหรือรักษาโรคภัยของตัวเองที่บ้าน คุณทสม์แนะนำว่า เก็บผลสดรับประทานวันละ 6-7 ผล ทุกวัน ก็ให้ผลดีแล้ว แต่ถ้ารสชาติเปรี้ยวเรับประทานไป ก็แก้ได้ด้วยการผ่าคว้านเมล็ดออก แล้วนำไปทำเป็นมะม่วงหาวมะนาวโห่แช่อิ่มเก็บไว้รับประทานได้นานขึ้นด้วย

ช่องทางการตลาด :

ก่อนที่คุณทสม์จะเข้ามารับช่วงต่อ บ้านสวนมะนาวโห่ลุงสิริจำหน่ายแต่ต้นพันธุ์ต้นละ 150 บาท และผลสดกิโลกรัมละ 200 บาท กับน้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่เล็กๆ น้อยๆ แต่คุณทสม์ได้เข้ามาพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปเพิ่มขึ้นมากมาย จากเครื่องดื่มธรรมดา ก็มีเพิ่มสูตรหวานน้อยเพื่อให้รับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เข้าไปด้วย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่นๆ อีกกว่า 20 อย่าง ตั้งแต่แยม, ชา, ไซเดอร์, ไอศกรีม, ไปจนถึงน้ำพริก และนอกจากตัวผลมะม่วงหาวมะนาวโห่แล้ว ก็ยังมีการดัดแปลงเอาใบและดอกมาแปรรูปเพิ่มมูลค่าเป็นชาพร้อมดื่มและชาบรรจุกระป๋องได้อีก ผลิตภัณฑ์แปรรูปทั้งหมดนี้ ใช้ชื่อยี่ห้อว่า “สิริสมปอง” ซึ่งมาจากชื่อของคุณพ่อคุณแม่รวมกัน โดยรับประกันว่าผลิตภัณฑ์ทุกชนิดปราศจากสารเคมี ได้รับมาตรฐาน อย. และผ่านการตรวจ GMP

ขณะเดียวกัน คุณทสม์ก็พัฒนาพื้นที่ของตัวสวนให้กลายเป็นแห่งท่องเที่ยว ตกแต่งสวนให้ร่มรื่น มีมุมพักผ่อน มุมถ่ายรูป เพื่อให้คนได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศจริงๆ ในสวน ใช้สวนเป็นช่องทางในการสื่อสาร สร้างความประทับใจดีๆ ให้กับลูกค้า เปิดโอกาสให้ได้ลองชิมผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของทางสวน เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติที่ว่ามะม่วงหาวมะนาวโห่มีรสเปรี้ยว ขม รับประทานยากออกไป และสร้างมุมมองความเป็น “ของฝากแสดงถึงความห่วงใย” ช่วยเพิ่มโอกาสในการจำหน่ายให้มากขึ้น แต่คุณทสม์บอกว่า ที่สำคัญกว่านั้นคือกำลังพยายามทำตลาดผ่านโซเชียลมีเดียและจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์อย่าง Line และ Facebook อย่างจริงจัง และจัดส่งสินค้าผ่านไปรษณีย์ไทยและ Kerry Express ซึ่งนี่จะเป็นช่องทางการจำหน่ายที่ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของบ้านสวนมะนาวโห่ลุงสิริได้กว้างขวางมากขึ้นหลายเท่า

ที่อยู่และช่องทางการติดต่อ :บ้านสวนมะนาวโห่ลุงสิริ คุณทสม์ เจริญช่าง
โทร.0-3471-0789,08-0566-5124 www.สวนมะนาวโห่ลุงสิริ .com ,FB:manowho
29/8 บางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม 75120

ทสม์ เจริญช่าง เกษตรกรรุ่นใหม่ต่อยอดได้ไม่มีจน
เรื่อง/ภาพโดย : ทีมงานรักบ้านเกิด.คอม