เกษตรกรต้นแบบ

"หน้าวัวตัดดอก ตลาดต้องการใช้ต่อเนื่อง ทำเงินได้ตลอดปี"


คุณธรรมนิจ ชอุ่มผล
 23 สิงหาคม 2559 9,364
จ.ชุมพร
ไม่ท้อถอย ไม่ถอดใจ ตั้งใจทำจริงจัง แล้วจะพบกับหนทางแห่งความสำเร็จ

คุณธรรมนิจ ชอุ่มผล หรือ ผอ.แอ๊ด อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนศรียาภัย จ.ชุมพร ผันตัวเองจากการเลี้ยงไก่มาปลูกดอกหน้าวัว ไว้ตัดดอกขาย เนื่องจากเกิดปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นที่เกิดจากการเลี้ยงไก่ในเขตชุมชน และมองว่าตลาดดอกหน้าวัวนั้นยังไปได้อีกไกล เพราะมีความต้องการใช้อย่างต่อเนื่้อง ในการจัดช่อดอกไม้ จัดสถานที่แต่งงาน งานบวช งานศพ และ พวงหรีดต่างๆ จากคุณสมบัติเด่นของดอกหน้าวัว ที่มีความทนทานในการนำไปใช้งานและมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ จึงหันมาปลูกเลี้ยงอย่างจริงจัง เพียง 2 ปี คืนทุน และ เก็บเกี่ยวกำไรได้ต่อเนื่องยาวนาน มีรายรับสบายๆ เดือนละ 40,000 บาท

ธรรมนิจ ชอุ่มผล เจ้าของฟาร์มหน้าวัวตัดดอก

ไม้ตัดดอก ยังคงเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการจัดงานพิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสถานที่ จัดเข้าช่อ จัดซุ้ม จัดเวทีในงานแต่งงาน ก็ล้วนแล้วแต่ต้องการความสวยงามที่มีอยู่ในไม้ดอกแต่ละชนิด ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มสีสันความสวยงามให้กับสถานที่นั้นๆ สำหรับดอกหน้าวัว จัดว่าเป็นไม้ตัดดอกชั้นแนวหน้าที่ผู้คนเลือกใช้ในงานต่างๆ ไม่แพ้ไม้ดอกชนิดอื่นๆ ตลาดดอกไม้ให้ความสำคัญ กับดอกหน้าวัวมาก เพราะมีความคงทน สีสันสดใส ใช้งานได้ยาวนาน เมื่อนำมาจัดรวมกับไม้ดอกหรือไม้ใบอื่นๆ แล้วทำให้ดูมีสีสันมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีเกษตรกรหันมาปลูกหน้าวัวตัดดอกจำหน่ายเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวกันอยู่ไม่น้อย ดังเช่นฟาร์มหน้าวัวตัดดอกของคุณธรรมนิจ ชอุ่มผล ที่ปลูกหน้าวัวตัดดอกจำหน่ายในพื้นที่ จ.ชุมพร

ก่อนจะมาเป็นฟาร์มหน้าวัวตัดดอกอย่างในปัจจุบัน : หลังจากเกษียณอายุราชการมา 5 ปี คุณธรรมนิจ ชอุ่มผล หรือ ลุงแอ๊ด ได้เริ่มต้นทำธุรกิจฟาร์มไก่เนื้ออยู่พักหนึ่ง แต่เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของกลิ่นรบกวนที่ไม่สามารถจะแก้ไขได้เด็ดขาด เนื่องจากฟาร์มอยู่ในเขตชุมชน จึงได้เลิกการเลี้

ในการเพาะปลูกหน้าวัวตัดดอกช่วงแรกๆจะประสบกับปัญหาเรื่องรากเน่าเป็นอย่างมาก จึงได้มีการปรับเปลี่ยนวัสดุในการเพาะปลูก เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในพื้นที่ จ.ชุมพร ซึ่งมีความร้อนชื้นและฝนตกชุก จนประสบความสำเร็จ ในการปลูกหน้าวัวตัดดอกจำหน่ายให้กับร้านดอกไม้ในพื้นที่จังหวัดชุมพรและร้านดอกไม้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ออกดอกขายได้ตลอดทั้งปี

การปลูกหน้าวัวตัดดอก : ลุงแอ๊ด เล่าให้ฟังว่าทางฟาร์มได้สร้างโรงเรือนไว้ด้วยกัน 3 โรงเรือนบนเนื้อที่ครึ่งไร่โดยซื้อต้นพันธุ์ที่นำเข้าจากประเทศฮอลแลนด์กับสายพันธุ์ที่เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างพันธุ์ Pistache (เขียวเข้ม) Rosa (ชมพู) Tropica l(แดงสด) Fantasia (ครีม) จำนวน 5,700 ต้น ปลูกในโรงเรือนเมื่อเลี้ยงที่จัดทำระบบน้ำและมีหลังคาพรางแสง ดุแลให้ปุ๋ยน้ำไปประมาณ 5-6 เดือน ก็สามารถตัดดอกขายทำเงินได้ สำหรับธุรกิจฟาร์มหน้าวัวตัดดอกนี้อาจจะต้องใช้เงินลงทุนสูงในช่วงแรกแต่หลังจาก 2 ปีไปแล้ว ก็สามารถคืนทุนได้ ส่วนเวลาที่เหลืออีก 4 ปี คือกำไรทั้งนั้น

การเก็บเกี่ยวดอกหน้าวัว : หลังปลูกไปได้ประมาณ 4 เดือน หน้าวัวจะเริ่มออกดอกให้เก็บเกี่ยวได้ การเก็บเกี่ยวก็จะตัดขายเป็นไซส์ขนาด S M L ซึ่งจะคัดกันตามความสมบูรณ์ของดอกและขนาด ราคาขายจะอยู่ที่ดอกละ 8-20 บาท อีกส่วนหนึ่งที่ทางร้านดอกไม้ต้องการคือ ใบ ซึ่งทางฟาร์มสามารถตัดใบขายให้กับร้านที่ต้องการ ในราคาใบละ 1 บาท ได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งถ้าคิดกำไรแบบไม่มาก จากต้นหน้าวัว 5,700 ต้น ในฟาร์ม ตัดได้อย่างน้อยประมาณ 4,000 ดอก/เดือน คิดคร่าวๆ ดอกละ 10 บาท จะได้กำไรประมาณ 40,000 บาท/เดือน ก็สามารถอยู่ได้สบายๆ

บำรุงด้วยปุ๋ยออสโมโค้ทพร้อมให้ปุ๋ยน้ำฉีดพ่นทางใบผสมยากันรากเน่า 7 วัน/ครั้ง เพื่อป้องกันเชื้อราสาเหตุโรครากเน่าโคนเน่า และตัดแต่งต้นให้เหลือเพียงต้นละ 3 - 4 ใบช่วงปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปี เพื่อให้โคนต้นระบายอากาศดี ช่วยลดการสะสมของโรคและแมลง

ระยะปลีเปลี่ยนสี เกสรจะชูขึ้นเหนือดอก

ต้นทุนการผลิต

ด้านต้นทุนการผลิตของฟาร์มหน้าวัวตัดดอก ของลุงแอ๊ด สำหรับโรงเรือน 1 โรงเรือน ขนาด 10 x 10 x 5 เมตร นั้นใช้วัสดุโครงเหล็ก ติดตั้งระบบน้ำแบบสปริงเกอร์ พร้อมขึงด้วยสแลน เป็นเงินทุนประมาณ 50,000 บาท วัสดุในการปลูกคือถ่านไม้ 20,000 บาท สามารถปลูกหน้าวัวตัดดอกได้ 1,700 ต้น ค่าปุ๋ยเม็ดบำรุงดอกและฉีดใบ 2,000 บาท/เดือน ค่าน้ำประมาณ 400 บาท/เดือน ค่าไฟฟ้าประมาณ 500 บาท/เดือน แต่ถ้าในช่วงหน้าฝนค่าน้ำ-ค่าไฟจะไม่มี

แผนการตลาด

การตลาด ก็จะมองกลุ่มเป้าหมายหลักของฟาร์มในระยะแรกคือร้านขายดอกไม้ใน จ.ชุมพรและตลาดดอกไม้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่ได้มีการวางเป้าหมายเพิ่มไปยังกลุ่มโรงแรมหรือร้านที่จัดพรีเว็ดดิ้งหรือหน่วยงานที่จัดงานออแกไนซ์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีปริมาณการใช้ดอกไม้ในการตกแต่งสถานที่สูงและต้องการดอกไม้ที่มีคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสม โดยจะเน้นให้กลุ่มเป้าหมายเพิ่มปริมาณการใช้ดอกหน้าวัวทดแทนดอกไม้อื่นๆที่มีปริมาณการใช้มากๆอย่างกล้วยไม้ กุหลาบ แต่มีราคาค่อนข้างสูง เพิ่มทัศนคติที่นำดอกหน้าวัวมาเพิ่มสีสันในงานตามโอกาสต่างๆด้วย

ปลูกหน้าวัวตัดดอกขาย คืนทุนใน 2 ปี อีก 3 ปี กำไรล้วนๆ

บทสรุป/ข้อเสนอแนะ

ดอกหน้าวัวเป็นดอกไม้ที่ทนต่อการใช้งานดี และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้นานก็จริง แต่ถ้าดอกหน้าวัวมีลักษณะดอกช้ำมีตำหนิที่ดอกก็จะทำให้ราคาต่อดอกต่ำลงหรือทางร้านไม่รับซื้อ ทำให้เกษตรกรอาจจะเสียกำไรโดยใช่เหตุ ดังนั้นลุงแอ๊ด ได้แนะนำวิธีการเก็บรักษาดอกหน้าวัวที่ตัดแล้วก่อนส่งไปยังร้านดอกไม้ไว้ดังนี้ว่้า หลังจากล้างทำความสะอาดกแล้ว ให้ถนอมดอกระหว่างรอการจำหน่ายหรือขนส่ง ด้วยการนำถุงพลาสติกใสขนาดใหญ่กว่าดอกหน้าวัว มาสวมที่ดอกแล้วนำแม็กมาเย็บที่มุมด้านล้างจัดทำเป็นกำ กำละ 10 ดอก แล้วใช้ยางรัดแบบหลวมๆ เพียงเท่านี้ก็จะได้ดอกหน้าวัวมีคุณภาพดีพร้อมจำหน่ายได้ราคาดีอีกด้วย

เรื่อง/ภาพโดย: นงพงา ไกรวิลาศ จนท.ศูนย์ประสานงานร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด จ.ชุมพร