เกษตรกรต้นแบบ

"คนเอาถ่าน สถาพร ตะวันขึ้น ถ่านผลไม้ดับกลิ่นกับชีวิตที่ไม่ไร้ค่า"


คุณสถาพร ตะวันขึ้น
 13 มีนาคม 2561 10,231
จ.สมุทรสงคราม
ถ้าเรารู้จักค้นหาตัวเอง แล้วให้มันระเบิดออกมาจากข้างใน เราก็จะได้ค้นพบว่ายังมีอีกหลายอย่างที่เราสามารถทำได้

จากคนที่ไม่เอาเรื่องเอาราวของชุมชนบ้านบางพลับกลับมาเอาถ่านลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองคิดอย่างหนักว่าจะทำอาชีพอะไรดีการคิดนอนฝันจิตนาการไปเรื่อยก็บังเกิดผลพี่หมึกบอกว่า “เวลานอนอย่าเอาหัวหนุนหมอนเพียงอย่างเดียวให้เป็นสถาปนึกอยู่ตลอดนอนคิดจินตนการไปเรื่อยเดี๋ยวก็ได้เรื่องเหมือนที่พี่หมึกทำประจำ” การเป็นคนไม่หยุดคิดมีปัญหาต้องหาทางแก้ไม่ท้อถอยทดลองทำนำข้อบกพร่องมาแก้ไขเหมือนอย่างพี่หมึก สถาพร ตะวันขึ้น เลือกทำงานที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ “ถ่านผลไม้” ด้วยตนเองจนเป็นจุดขายจุดแข็งแห่งชุมชนบ้านบางพลับ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ที่ใครๆก็ต้องแวะเวียนมาจับจ่ายซื้อติดมือกลับบ้านตลอดเวลา

จากเด็กเกเรที่ไม่เอาไหนใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆแบมือขอเงินยายเที่ยวเตร่ไม่ค่ำไม่กลับใช้ชีวิตสนุกสนานอย่างมีความสุขเป็นความสุขที่ดูไร้ค่าไม่ทำงานทำการ จากการว่างงานไม่ทำงานอะไรคุณสถาพร หรือพี่หมึกจึงถูกคัดเลือกให้เป็นตัวแทนชุมชนไปศึกษาดูงานโครงการพัฒนาชุมชน กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มออมทรัพย์ ในองค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ อยู่เสมองานแรกที่ไปจัดโดย สสส. ไปดูงานกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์แบบชีวิตพอเพียง ก่อตั้งโดยพระอาจารย์สุบิน ปณีโต ที่วัดไผ่ล้อม อำเภอเมือง จังหวัดตราด หลังจากนั้นก็ไปที่บ้านพ่อคำเดื่อง ภาษี ปราชญ์ชาวบ้านผู้ทำเกษตรกรรมประณีต แห่งจังหวัดบุรีรัมย์ และอีกหลายสถานที่ทั่วประเทศ การดูงานมากมายแต่ไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์

จนเมื่อทางหน่วยงาน สสส. เขาทวงถามความคืบหน้า จึงบอกเขาว่า อีก 3 เดือนให้คำตอบจากนั้นกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์แห่งบ้านบางพลับจึงถือกำเนิดขึ้น ด้วยจำนวนสมาชิกแรกเริ่มเพียง 14 คน โดยการนำของลุงเก็บ หัตถกรรม ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มในขณะนั้น จากการรวบรวมเงินครั้งแรกได้ 1,400 บาท แม้เป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก แต่ไม่อาจเทียบได้กับความสูงค่าด้านจิตใจและพลังแห่งความพอเพียง ที่ชาวบ้านได้ร่วมใจกันยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต อันเป็นแรงขับเคลื่อนให้กลุ่มนี้สามารถฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ จากเมล็ดพันธุ์เล็ก ๆ จึงค่อย ๆ เติบกล้าเป็นไม้ใหญ่ กระทั่งปัจจุบันในกลุ่มมีสมาชิกนับร้อยคนและมีเงินสะสมราว 5 แสนบาท หากไม่มีวันนั้นก็คงไม่มีวันนี้ ย้อมหลังไปหลายปี นับจากวันที่ 20 พฤศจิกายน 2547 จากนั้นก็เริ่มคิดได้ว่าจะต้องอยู่อย่างมีคุณค่าจะประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองสักที คิดว่าบ้านเรามีเศษไม้จากสวนมากมายลองเผาถ่านขายดีกว่าเพราะจากการอบรมมีเรื่องเผ่าถ่านมาแล้วจึงทดลองสร้างเตาเผาถ่านในราคา 400 บาทขึ้นมาทดลองเผาอยู่หลายครั้งจึงประสบความสำเร็จแปรเปลี่ยนเศษไม้อันไร้ค่ากลายมาเป็นถ่านที่ใช้ในครัวเรือน จากคนไร้ค่ากลับกลายมาเป็นคนเอาถ่านจนถึงทุกวันนี้

หลังจากเผาถ่านมีรายได้ไม่ต้องขอเงินยายอีกแล้วก็มีคนในชุมชนเสนอว่าทำไมไม่ลองเอาผลไม้มาเผาล่ะ เพราะบ้านเรามีผลไม้ที่ร่วงหล่นมากมาย พี่หมึกสนใจจึงทดลอง ลองผิดลองถูกลูกแรกลองเผาส้มโอปรากฏว่ารูปลักษณ์สวยงามแต่ข้างในยังไม่เป็นถ่านเลยเอาไปอวดครูสมทรง ปราชญ์ชาวบ้านแห่งชุมชนบางพลับเอ่ยชมว่าสวยดีก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาการเผาถ่านผลไม้ต่อมาจนถึงปัจจุบัน ในช่วงแรกของการเผาถ่านผลไม้ก็ทำการแจกจ่ายคนในชุมชนให้ทดลองเอาไปแช่ในตู้เย็นเพื่อดูดกลิ่นซึ่งก็ได้ผลดีวางไว้ในตู้เย็นได้ไม่เลอะมือแถมยังดูสวยงามอีกต่างหาก ถ่านผลไม้ เป็นการนำผลไม้อ่อน หรือผลไม้ที่หล่น มาแปรรูปเป็นถ่านผลไม้

สำหรับใช้ในการดูดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ในตู้เย็น  หรือในห้อง  ผลพลอยได้อีกอย่างหนึ่งที่ได้จากการเผาถ่าน คือ "น้ำส้มควันไม้"เป็นของเหลวที่เกิดจากการควบแน่นของควันที่เกิดขึ้นในกระบวนการเผาถ่าน น้ำส้มควันไม้จะมีกลิ่นไหม้ ส่วนประกอบส่วนใหญ่จะเป็นกรดอะซิติก สีน้ำตาลแกมแดง น้ำส้มควันไม้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ในหลายด้าน

สำหรับการใช้ประโยชน์ทางด้านการเกษตร ที่กำลังได้รับความนิยมจากเกษตรกรเนื่องจากเป็นสารธรรมชาติ คือ สามารถช่วยลดการทำลายจากแมลงศัตรูพืช และศัตรูสัตว์ได้   ปัจจุบัน คุณสถาพร  ตะวันขึ้น หรือพี่หมึก(ปราชญ์ชาวบ้าน) ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาหาความรู้ ได้จากฐานการเรียนรู้ ณ หมู่ที่ 4  ตำบลบางพรม  อำเภอบางคนที  จังหวัดสมุทรสงคราม นอกจากนี้ยังมีความรู้ในเรื่องเกษตรปลอดสารพิษต่างๆที่น่าสนใจ เช่น การเพาะเห็ดในโอ่ง  การคั่วชาสมุนไพร อีกด้วย

การเผาถ่านผลไม้เป็นเทคนิคเฉพาะที่พี่หมึกเรียนรู้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง การเลือกผลไม้ที่จะทำใช้ผลไม้อะไรก็ได้จะผลอ่อนผลแก่ได้หมดห้ามเอาผลไม้เน่าผลไม้สุกมาเผาเท่านั้นเอง อย่างมะนาว มะพร้าว ส้มโอ ทุเรียนฯลฯผลอ่อน ผลเขียวได้หมด จากนั้นนำมาใส่ปี๊บใส่ให้เต็มแล้วปิดด้วยใบตองไม่ให้ควันไฟจับปิดฝาให้ดีนำเข้าเตาเผาแล้วค่อยๆเรียงฟืนให้มีช่องว่างน้อยที่สุดเรียงฟืนจนเต็มเตาจากนั้นจิดปดไฟเผาฟืนเมื่อติดดีแล้ว กระบวนการเผาไหม้จะต้องควบคุมให้ดีด้วยการเลื่อนเดช่องอากาศหรือลิ้นเปิดปิด ในช่วง 1-2 ชั่วโมงแรกจะมีควันสีขาวที่เรียกว่าควันบ้าลอยออกจากปล่องควันเต็มไปหมด รอจนกว่าควันบ้าหายไปจึงทำการเก็บน้ำส้มควันไม้ด้วยการทำให้เกิดการควบแน่นโดยใช้ผ้าชุบน้ำหุ้มปล่องควันน้ำส้มควันไม้จะหยดลงกระป๋อง เทคนิคการเผาถ่านผลไม้ฟืนที่ใช้กับถ่านผลไม้ต้องสัมพันธ์กันถ้าฟืนน้อยถ่านผลไม้ไม่เกิด อากาศต้องควบคุมการเป็นถ่านต้องให้ฟืนค่อยๆถูกเผาไหม้อย่างช้าๆถ้าเปิดลิ้นอากาศมากการเผาไหมจะรุนแรงฟืนกลายเป็นเถ้าต้องค่อยๆหรี่ช่องอากาศให้ค่อยๆเผาไหม้ทิ้งเอาไว้ราว 8 ชั่วโมงจนฟืนดับเอง เมื่อเปิดเตาออกมาเราจะได้ถ่านเชื้อเพลิง,เปิดปี๊บออกมาจะได้ถ่านผลไม้ ,ขี้เถ้าที่อยู่ด้านล่างนำมาร่อนเป็นผงละเอียดเอาไปเป็นส่วนผสมพอกไข่เป็ดทำเป็นไข่เค็มได้อีก ส่วนสุดท้ายของการเผาถ่านคือน้ำส้มควันไม้ที่ต้องรอให้ตกตะกอนอีก 3 เดือนก็สามารถนำมาผสมน้ำฉีดพ่นต้นไม้เพื่อไล่แมลงได้อีกด้วย จะเห็นได้ว่าการเผาถ่านแต่ละครั้งได้ผลผลิตหลายอย่างเลยทีเดียว

ช่องทางการตลาด : การเผาถ่านผลไม้ 1 เตาจะได้ผลผลิต 4 อย่างด้วยกันคือถ่านเชื้อเพลิง,ถ่านผลไม้,น้ำส้มควันไม้และขี้เถ้าที่ใช้พอกไข่เค็ม จะได้ถ่านเชื้อเพลิง 1 กระสอบๆละ 100 บาท ,ถ่านผลไม้แล้วแต่ขนาด รูปร่างซึ่งราคาพี่หมึกจะเป็นผู้กำหนดเองว่าควรจะมีราคาเท่าไหร่ยกตัวอย่างสัปปะรดเผาต่อครั้งได้ 20 ลูกราคาขั้นต่ำ 30 บาทได้ 600 บาท,น้ำส้มควันไม้จะได้ประมาณ 10 ลิตรบรรจุขวด 500 ซีซี ขายขวดละ 50 บาทได้ 1,000 บาท ส่วนขี้เถ้าเป็นของแถม 1 เตาจะมีรายได้ถึง 1,700 บาทซึ่งพี่หมึกมีเตาอยู่ 2 เตาจึงมีรายได้ต่อวันอย่างต่ำวันละ 3,400 บาทโดยที่ไม่มีต้นทุนอะไรเลยเพราะฟืน,ผลไม้มาจากสวนที่เขาทิ้งอยู่แล้ว การเผาถ่านเราสามารถเผาได้ทุกวันเพราะกระบวนการเผาเพียง 8 ชั่วโมงเท่านั้นพี่หมึกจะเผาถ่านในช่วงกลางคืน เช้าค่อยเปิดเตาดังนั้นจึงมีเวลาในช่วงกลางวันทำงานอย่างอื่นได้อีก

ขายถ่านอย่างไงก็ไม่ขาดทุน เพราะถ่านไม่เน่าเสียเป็นธาตุคาร์บอนคงอยู่ตลอดไปตราบใดที่เราไม่เอาไปจุดไฟขายได้ตลอด เป็นธุรกิจมืดชนิดเดียวที่ไม่มีใครแย่งทำและไม่ผิดกฏหมาย การขายถ่านเชื้อเพลิงและถ่านผลไม้จะขายอยู่ที่บ้านซึ่งจะมีคนในชุมชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมทุกวัน

ที่อยู่และช่องทางการติดต่อ :คุณสถาพร ตะวันขึ้น โทร.08-5192-2995 บ้านเลขที่21 หมู่ที่ 4 ตำบลบางพรหม อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม 75120

คนเอาถ่าน ถ่านผลไม้ดับกลิ่น
เรื่อง/ภาพโดย : ทีมงานรักบ้านเกิด.คอม