

"ทำนาข้าวให้รวย"
คุณสุรพร ศรีพลอย
ในอดีตเมื่อนานมาแล้วถ้าใครมีที่นาและทำนามากนั้นถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีอันจะกินมีชีวิตที่มั่นคง แต่เมื่อเวลาผ่านมาในปัจจุบัน ชาวนาหรืออาชีพทำนามักจะถูกมองว่าเป็นอาชีพที่ต่ำต้อยและยากจน มันก็อาจจะจริงอย่างที่คิด เพราะในปัจจุบันทั้งเศรษฐกิจและเทคโนโลยีกับค่าครองชีพนั้นต่างจากอดีต ชาวนาในสมัยก่อนก็ปรับตัวตามไม่ทัน แต่คุณสุรพร ศรีพลอย เกษตรกรหนุ่มรุ่นใหม่จะมาพิสูจน์ให้เป็นว่าการเลือกอาชีพทำนาในปัจจุบันนั้นถ้ามีวิธีการจัดการที่ดีก็สามารถทำให้เป็นชาวนาที่ร่ำรวยได้เหมือนกัน
คุณสุรพร ศรีพลอย จบปริญญาตรีบริหารธุรกิจ จากราชภัฎพระนคร ก่อนหน้าที่จะได้มาทำนาข้าวนั้น คุณสุรพรได้ทำงานให้กับโรงงานมาตลอด ราวๆ5-6ปี ซึ่งตอนที่ทำงานให้กับโรงงานนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ทำงานปกติและมีช่วยที่บ้านทำนาบ้างตามเวลาที่ว่างจากงานหลัก “เงินเดือนจากโรงงานที่ทำอยู่ตอนนั้นล่าสุดก็ 12,000 บาท ถ้าพูดว่าพอกินพอใช้มันก็พอนะ แต่มันไม่พอเก็บ ก็รู้สึกว่าเหมือนชีวิตมันไปเรื่อยๆ ตอนที่ทำงานโรงงาน เมื่อมีเวลาก็มาช่วยที่บ้านทำนาด้วย ก็ได้เรียนรู้การทำนามาตลอด แล้วสาเหตุหลักที่ออกจากงานมาทำนาจริงๆก็คือ แม่เริ่มแก่แล้ว แล้วแม่ก็อยู่คนเดียว เราเลยตัดสินใจว่าจะออกมาทำนาเอง อยากดูแลแม่ด้วย”
ถือได้ว่าจุดเริ่มต้นในการหันมาทำนาข้าวอย่างจริงจังของคุณสุรพรมาจากความเป็นห่วงและความกตัญญู ซึ่งสิ่งนี้แหละที่เป็นหลักยึดให้คนเรามีจุดยืนและเป้าหมายในชีวิตมากขึ้น
“ก็อยู่กับการทำนามาตั้งแต่สมัยเรียน ช่วงหยุดเสาร์อาทิตก็ช่วยแม่ทำนามาตลอดเลยเกิดความผูกพัน ตอนนี้นาที่บ้านเท่าที่เห็นนี่ก็มี 70ไร่ แล้วก็ยังมีอีก40ไร่ อยู่อีกฟากนึงครับ”
คุณสุรพรบอกถึงความแตกต่างจากงานที่เคยทำประจำ มาสู่การทำนาข้าว ว่าจริงๆแล้วตอนที่ออกมาทำนาใหม่ๆนั้นคุณสุรพรก็ไม่ได้ปรับตัวอะไรมาก เพราะเดิมก็ช่วยแม่ทำมาตลอดอยู่แล้ว แต่จะต่างกันหรือต้องปรับตัวก็ในเรื่องของค่าใช้จ่าย รายได้และรายรับ
“ตอนที่ทำงานมีเงินเดือน เราก็จะมีรายได้ที่จำกัดตายตัว ส่วนการทำนารายได้ก็จะขึ้นอยู่กับตัวเรา อยู่กับวิธีการที่เราจะจัดการกับนาข้าวของเรา เรื่องค่าใช้จ่ายก็จะมีการแบ่งแยกเงินไว้อย่างเป็นสัดส่วนชัดเจน ว่าส่วนไหนไว้ใช้ในครอบครัว ส่วนไหนเก็บไว้เป็นทุนทำนา”
เรียกได้ว่าคุณสุรพรมีการวางแผนใช้จ่ายในชีวิตมากขึ้น เพราะการจัดการบริหารที่นาที่มีอยู่ร้อยกว่าไร่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายกับการลงทุนทำนาทั้งหมดร้อยกว่าไร่ก็จะใช้เงินประมาณ 4แสนบาท รวมค่าบริหารจัดการทั้งหมดเลยครับ
แม้จะฟังดูตัวเงินการลงทุนนั้นมากเป็นหลักแสน แต่รายรับที่ได้กลับมาจากการลงทุนทำนานั้นก็ไม่ใช่น้อยเช่นกันถ้าเทียบกับเวลาที่เสียไป กำไรหักค้าใช้จ่าย(ต้นทุน4แสน)ทั้งหมดแล้ว ต่อ1ฤดูการก็จะได้กำไรอยู่ที่4แสนบาทครับ หนึ่งฤดูการทำนา 4 เดือน กำไรก็ตกถึงเดือนละแสนครับ เวลาหลังจากสี่เดือนก็ทำอย่างอื่นหารายได้ต่อ
คุณสุรพรยังเสริมอีกว่า ถ้าฟังจาสกข่าวหรือที่พูดกันมักจะบอกว่าทำนาแล้วจนนั้นไม่จริง เคล็ดลับทำนาแล้วให้รวยอยู่ที่การบริหารจัดการที่ดีต่างหาก
“ใช่ครับ การบริหาร การวางแผน การหาความรู้เพิ่มคือสิ่งสำคัญ เสียดายที่ชาวนาที่เป็นคนเก่าแก่เค้าก็จะใช้วิถีตามที่เคยทำมาแต่เก่าก่อน จนลืมไปว่าสมัยนี้ต้องรู้จักประยุคควบคู่ไปกับการจัดการที่ดี”
สิ่งที่คุณสุรพรกำลังสื่อก็คือ การทำเกษตรแบบสมัยใหม่ ซึ่งมีวิธีการเรียนรู้และการจัดการที่ควบคู่กันไปด้วย โดยจะช่วยให้ชาวนาลดต้นทุนได้และช่วยเพิ่มกำไรไปอีกทาง
“ถามถึงความสุขในการทำนา คือเราได้เป็นนายตัวเอง จะมีช่วงเหนื่อยหน่อยก็แค่ตอนเริ่มกับตอนเก็บเกี่ยว ซึ่งหลังจากช่วงแรกก็แค่ดูแลเรื่องน้ำเรื่องปุ๋ยอย่างเดียว ส่วนช่วงว่างจากการทำนาเราก็ได้ทำอาชีพเสริม ซึ่งยึดหลักตามแนวทางพอเพียง เลี้ยงกบ เลี้ยงปลาไปพอมีรายได้ และที่สำคัญที่สุดสำหรับผมความสุขจริงๆคือการได้อยู่ใกล้และได้ดูแลแม่ ครับ”
ช่องทางการตลาด : ในเรื่องของการตลาดการขายข้าวนั้นคุณสุรพรยึดหลักง่ายๆทั่วไป ไม่ได้ยุ่งยากต้องขายผ่านเว็บผ่านเน็ตอย่างเกษตรกรคนอื่นๆ
“ก็ยึดหลักแบบไม่คิดมาก ไม่ยุ่งยากไม่ปวดหัวครับ คือก็ขายตามปกติ ของผมนี่ก็อย่างที่เห็นปลูกร้อยกว่าไร่ ก็ไปขายที่โรงสี แล้วก็จะมีลูกค้าที่มาผูกติดขอซื้อถึงที่นาเลยก็มีครับ แล้วก็เหลือไว้ขายเอง ส่งขายตามร้านค้าบ้าง แค่นี้ก็พอเพียงแล้วครับ”
ก็ถือว่าแนวทางของคุณสุรพรนั้นเป็นหลักการขายที่เป็นพื้นฐานเบสิค แต่มีความแข็งแรงในเรื่องของการตลาดที่ไม่ซับซ้อนซ่อนอยู่ ซึ่งหลักการง่ายอย่างนี้ทำให้คุณสุรพรไม่เครียดและมีความสุขในการทำนาข้าวเป็นอาชีพหลัก
ข้อเสนอแนะจากเกษตรกร : คุณสรพรมีข้อเสนอแนะต่อเกษตรกรรุ่นใหม่ที่สนใจอยากจะลองหันมาทำนาเป็นอาชีพหลัก “สำหรับผมแล้ว การทำเกษตรไม่ว่าจะทำหรือปลูกพืชอะไร อันดับแรกเลยต้องศึกษาให้ดีก่อน มีผลดีมันก็มีเสียอยู่ ถ้าศึกษาดูไม่ดีก็อาจจะแย่ได้ อยากให้เริ่มจากทำเล็กๆน้อยๆก่อน เมื่อมีความชำนาญและมั่นใจแล้วค่อยลงมือทำให้สุด”
ช่องทางการติดต่อ : หากใครสนใจอยากที่จะเรียนรู้หลักและวิธีในการทำนาข้าวอย่างจริงจังสามารติดต่อปรึกษาคุณสุรพรได้ที่ เลขที่ 30/2 ม.16 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หรือโทร. 0861321292

