เกษตรกรต้นแบบ

"เลี้ยงกระบองเพชรจากความชอบและต่อยอดออกมาเป็นการค้าขาย"


คุณสุดารัตน์ อิ่มเอิบสิน
 13 มีนาคม 2561 9,169
จ.กรุงเทพมหานคร
กระบองเพชรนั้นเป็นพืชที่อมตะ ยิ่งโตยิ่งแพง ยิ่งหายากก็ยิ่งแพงเช่นกัน การเลี้ยงดูก็ง่าย เพราะไม่ต้องดูแลประคบประหงมกันมากมาก

กระบองเพชรเป็นพืชประดับและยังเป็นหนึ่งในจำนวนต้นไม้มงคลที่คนนิยมปลูก ความสนุกและภาคภูมิใจสำหรับผู้เลี้ยงคือตอนที่มันออกดอก กระบองเพชรบางชนิดยังใช้รับประทานได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าการปลูกกระบองเพชรแล้วจะให้โชค ป้องกันภัย

คุณสุดารัตน์บอกว่ากระบองเพชรนั้นเป็นพืชที่อมตะ ยิ่งโตยิ่งแพง ยิ่งหายากก็ยิ่งแพงเช่นกัน การเลี้ยงดูก็ง่าย เพราะไม่ต้องดูแลประคบประหงมกันมากมาก

“เราใช้หลักความสุขในการปลูกเป็นหลักมาก่อนการค้าขาย เพราะแรกเริ่มนั้นปลูกกระบองเพชรเพราะความชอบจริงๆ ต้นแรกของร้านก็เพื่อนของลุงให้มา คือดาวล้อมเดือน แล้วตอนนั้นออกดอกเยอะมากเป็นร้อยดอก และดอกจะส่งกลิ่นหอมมาก มันจะบานตอนกลางคืน สวยและชอบ”

คุณสุดารัตน์ ยังให้ความหมายของดาวล้อมเดือนไว้อย่างน่าสนใจ “คือดาวสล้อมเดือนเนี่ยเป็นไม้พื้นฐานที่คนเล่นแคตัสทุกคนควรมี เพราะความหมายดีด้วย ดาวล้อมเดือนจะเป็นลักษณะของต้นแม่แล้วมีลูกๆล้อม มันหมายถึงครอบครัวที่มีพ่อแม่ปู่ย่าตายายแล้วมีลูกล้อมหน้าล้อมหลัง หมายถึงครอบครัวที่อบอุ่น” คุณสุดารัตน์เล่าให้ฟังพร้อมกับมองเจ้าดาวล้อมเดือนในร้านอย่างมีความสุข

เป็นที่ทราบกันดีว่าคุณสุดารัตน์เริ่มเลี้ยงกระบองเพชรจากความชอบและความรัก จนมีมากขึ้น เมื่อมีคนมาถามซื้อก็ได้ขายให้ แต่เน้นแถมมากกว่า “ตอนแรกๆนั้น วิธีสะสมและขยายของเราคือ ซื้อมาทีละสี่คู่ สองคู่ขายทันที เอาต้นทุนเอากำไรเอาค่าใช้จ่ายกลับมาก่อน อีกสองคู่..คู่นึงเก็บไว้เลี้ยงให้อออกดอกแล้วค่อยผสมดอก เอาเมล็ดไปเพาะ อีกสองปีถึงขายได้ ส่วนอีกคู่นึงก็ตัดค่ะ ตัดหนึ่งมันจะออกหน่อมาอีกห้าหน่อเป้นอย่างน้อย แล้วเอาหน่อมาแยก สรุปคือสี่คู่ จะได้รายได้ระยะสั้นทันที ระยะกลางคือที่เฉือนเอาหน่อแยกหน่อขาย ส่วนระยะยาวคือเอาเมล็ดขยายพัน เราก็แนะนำเด็กรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่ที่เค้าทำการค้าขาย เค้าก็เอาไปทำแบบอย่าง ก็ดีใจ”

คุณสุดารัตน์บอกว่าเด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะทำการค้าแบบซื้อมาขายไป เค้าบอกไม่ได้หรือให้ข้อมูลกับลูกค้าไม่ได้เพราะไม่ได้ศึกษา จะไม่ค่อยมีความรู้ นั่นจะทำให้ลูกค้าไม่ค่อยประทับใจ

นอกจากความรู้แล้ว ของที่นี่เราเน้นว่าต้องต้นสมบูรแข็งแรง เพราะลูกค้าซื้อไปถ้าตาย เค้าก็ไม่เลี้ยงแล้ว ไม่กลับมาซื้อด้วย ลูกค้าที่เค้ามาซื้อถ้าเค้าได้คำแนะนำที่ดี ถ้าเค้าเลี้ยงได้ออกดอกเค้าก็ถ่ายรูปมาให้ดู นี่ก็คือสิ่งที่มีความสุขอย่างหนึ่งส่วนเรื่องรายได้นี่ บางร้านได้เดือนเป็นแสน แต่เราทำแบบความสุข เราแจกเราแถม กำไรของเราคือความสุข

“อะไรที่เรารู้จักพอ จะทำให้เรามีความสุข เมื่อมีความสุขแล้วต้องแบ่งปันความสุข อย่ามีความสุขคนเดียว”

เคล็ดลับคือต้องทำด้วยใจรัก อันไหนที่ไม่รักอย่าไปทำ.. ไม่รุ่ง.. และทำแล้วอย่าลืมเผื่อแผ่แบ่งปันด้วย จะมีความสุขและมีเพื่อนเยอะ พยายามอย่าเป็นแก่ตัวเกินไป และอย่าคิดว่าคนอื่นโง่กว่าเรา เพราะคนเรามีความเก่งความถนัดต่างกัน วันนี้เค้าพึ่งเรา วันหนึ่งเราอาจได้พึ่งเค้า

ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับกระบองเพชร :กระบองเพชร ยังถูกเชื่อแบบผิดๆ เกี่ยวกับการเลี้ยง ทั้งแสงแดด และการให้น้ำ

1.  กระบองเพชรเป็นไม้ทะเลทรายชอบแดดมากๆ ?

กระบองเพชรเป็นพืชที่เลี้ยงง่าย และอดทนต่อสภาพอากาศแล้งได้สูงก็จริง แต่ก็ต้องการการดูแลเอาใจใส่ รดน้ำ ใส่ปุ่ย ได้แสงแดดที่เหมาะสม จึงจะเติบโตสวยงาม
หากแสงน้อยจะมีลักษณะดังนี้

1.1 ลำต้นยืดยาวกว่าปกติ ผิดจากรูปทรงที่ควรเป็น

1.2 หนามหดสั้นกว่าปกติ หรือบางทีหนามก็หายไปเลย หรือผิดรูปร่าง

1.3 รากเน่า เนื่องจากได้รับแดดน้อย ความชื้นในดินมีมาก ระบายน้ำได้ไม่ดี

1.4 เกิดเชื้อรา

หากได้รับแสงมากเกินไป ลำต้นอาจเหลือง หรือเหี่ยวย่น หรือแคระเกร็นได้ โดยเฉพาะต้นที่ยังเล็กๆ จะต้องการแสงแดดน้อยกว่าต้นที่ใหญ่แล้ว

แสงแดดครึ่งวันเช้า เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดของกระบองเพชร ลองสังเกตมุมไหนของบ้านที่มีแดดส่องตอนเช้า 3-5 ชั่วโมง น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับกระบองเพชร จะเป็นมุมชายคาบ้านที่มีแดดส่องถึง หรือจะเอาไว้นอกบ้านและมีหลังคาใสๆ ให้แดดส่องผ่านแต่ป้องกันน้ำ ก็ถือว่าใช้ได้

2. กระบองเพชรเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมาก

จริงอยู่กระบองเพชรอาจไม่ต้องการน้ำมาก ถ้าน้ำมากไประบายได้ไม่มีอาจเกิดเชื้อรา หรือเน่าได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากระบองเพชรไม่ต้องการน้ำ เวลาไปร้านขายกระบองเพชรหลายร้านแนะนำว่า รดน้ำอาทิตย์ละครั้งก็พอ อันนี้แหละความเชื่อผิดๆล่ะ มันเป็นแค่เวลาโดยประมาณเท่านั้นว่าความชื้นในกระถางจะยังมีอยู่เพียงพอ

วิธีสังเกตง่ายๆ ว่าสมควรรดน้ำกระบองเพชรหรือยัง ลองดูที่ดิน ถ้ายังชุ่มชื้นอยู่ก็ยังไม่ต้องรด แต่ถ้าดินระบายน้ำได้ดีมากๆ ซึ่งขึ้นกับวัสดุที่ปลูก หรือได้รับแสงแดดในแต่ละวันเยอะ ก็ทำให้ดินแห้งไว อันนี้ก็คงต้องรดน้ำบ่อยกว่าอาทิตย์ละครั้งแน่ๆ

กระถางกระบองเพชรส่วนใหญ่นิยมโรยหินสีๆ เพื่อความสวยงาม และรักษาความชื้นไว้ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าดินแห้ง ลองใช้ไม้จิ้มฟันแห้งๆ จิ้มลงไปในดินลึกพอสมควร แล้วดึงขึ้นมาดู ถ้าไม้จิ้มฟันมีความชื้นติดขึ้นมา แสดงว่ายังไม่ต้องรดน้ำก็ได้ แต่ถ้าไม้จิ้มฟันออกมาแห้งๆ ก็ถึงเวลารดน้ำได้แล้ว นอกจากนี้ยังขึ้นกับสายพันธุ์กระบองเพชรด้วย โตไว โตช้า ชอบน้ำมากน้อยก็แตกต่างกัน

3. กระบองเพชรต้องการพื้นที่ไม่มากกระบองเพชรเป็นต้นไม้ขนาดกะทัดรัด สามารถเลี้ยงไว้ในกระถาง ย้ายไปมาสะดวก แต่กระบองเพชรก็มีการเจริญเติบโต เมื่อเค้าโตเต็มกระถาง ก็ควรเปลี่ยนกระถางใบใหม่ เพราะหากไม่เปลี่ยน    กระบองเพชรก็จะหยุดการขยายขนาด หรือเรียกง่ายๆ ว่าโตตามกระถางนั่นเอง

ปกติก็ควรเปลี่ยนดิน ย้ายกระถางปีละครั้ง หรือทุกครึ่งปี แล้วแต่ว่าพันธุ์ไหนโตเร็วโตช้ำ หรือการดูแล ใส่ปุ๋ยดีก็จะทำให้กระบองเพชรโตเร็ว ต้องเปลี่ยนกระถางบ่อยหน่อย

งั้นอย่างนี้ก็ปลูกใส่กระถางใบใหญ่ๆ ไปเลยดีไหม?

ตอบ : อาจเน่าได้ เพราะขนาดกระถางใบใหญ่ ดินกักเก็บความชื้นได้สูง ถ้าต้นเค้าเล็กดูดน้ำไม่ทัน ดินก็จะชื้นตลอดเวลา เป็นสาเหตุให้รากเน่าได้ง่ายๆ นอกจากนี้ธาตุอาหารในดินก็จะลดลงเรื่อยๆ จึงควรใช้ขนาดกระถางให้เหมาะสมกับขนาดของต้นจะดีกว่า

4. กระบองเพชรชอบดินปนทรายจริงๆ แล้วดินที่ใช้ปลูกกระบองเพชรก็ไม่ได้มีสูตรตายตัว ว่าต้องใช้ดินกี่ส่วน ทรายกี่ส่วน ขึ้นอยู่กับดินด้วยว่าอุ้มน้ำได้ดีแค่ไหน ขอให้ระบายน้ำได้ดี มีธาตุอาหารเพียงพอ ก็ใช้ได้แล้วใช้ดินร่วน ทราย ใบไม้ผุ ขุยมะพร้าว หรือแกลบ ผสมกัน ลองผสมดินในสูตรของเราเองดูก็ได้

5. กระบองเพชรเป็นพืชที่อดทนแม้ว่ากระบองเพชรจะทนแดด ทนแล้งได้ดี แต่กระบองเพชรก็มีโรคพืชได้เหมือนกัน เช่น เชื้อรา หรือรากเน่าเป็นต้น

ขั้นตอนการปลูกกระบองเพชรหรือแคคตัส :

1. ใส่วัสดุรองกันกระถาง เพื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านได้ดีโดยใส่ประมาณ 1/3 ของกระถาง แต่ก็ขึ้นอยู่กับความลึกของกระถาง และความยาวของราก 

2. ตักดินปลูกแคคตัสลงไปปลูก กะความลึกให้พอดีกับต้นและราก

3. นำแคคตัสลงไปปลูก จัดแคคตัสให้อยู่กึ่งกลางของกระถาง และค่อย ๆ ตักดินใส่รอบ ๆ ต้น โดยใส่ดินให้ต่ำกว่าขอบกระถางประมาณ 1 เซนติเมตร

4. ใส่ปุ๋ย เราจะใส่ปุ๋ยออสโมโค้ท (Osmocote) หรือปุ๋ยละลายช้าปริมาณเล็กน้อย แต่ถ้าไม่มีปุ๋ยก็สามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปได้ค่ะ เพราะในดินปลูกแคคตัสก็มีสารอาหารและแร่ธาตุอยู่แล้ว

Tipช่วงฤดูหนาวอาจจะไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ย เพราะแคคตัสบางสายพันธุ์จะพักตัว หยุดเจริญเติบโต รากของเขาก็จะไม่ดูดซึมอาหาร แต่ก็มีแคคตัสที่เจริญเติบโต และออกดอกในหน้าหนาว เช่น สกุลแมมิลลาเรีย (Mammillaria) นอกจากนี้การใส่ปุ๋ยควรใส่ทุก 3-6 เดือน และควรระวังเพราะถ้าใส่มากเกินไปอาจทำให้แคคตัสตายได้ค่ะ

5. โรยหินให้ทั่ว ใช้ช้อนตักและโรยหินให้ทั่ว โดยไม่ต้องโรยหนาเกินไป แค่ไม่เห็นดินก็พอแล้วค่ะ

Tipไม่ควรเปลี่ยนกระถางในช่วงฤดูฝน เพราะจะเสี่ยงต่อการเน่ามากที่สุด นอกจากนี้เมื่อเปลี่ยนกระถางใหม่ไม่ควรรดน้ำทันที ควรทิ้งไว้ประมาณ 5-7 วัน จึงจะรดน้ำตามปกติ แต่ถ้าเราผึ่งรากให้แห้งสนิทแล้วก็สามารถรดน้ำได้เลย หลังจากปลูกเสร็จค่ะ และหลังจากเปลี่ยนกระถางใหม่หมาด ๆ ควรนำแคคตัสไปไว้ในที่ที่มีแดดรำไรก่อน และค่อย ๆ ฝึกออกแดดช่วงเช้าและเย็นเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนจะนำไปเลี้ยงรวมกับแคคตัสต้นอื่น ๆ

ดูแลกระบองเพชรด้วยใจ ค้าขายด้วยรัก
เรื่อง/ภาพโดย : ทีมงานรักบ้านเกิด.คอม