เรื่องเด็ดเกร็ดเกษตร
14 มกราคม 2563
5,247
สิงห์นักกิน แต่กลัวความอ้วน ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะเรามีอาหารที่ช่วยเผาผลาญไขมันมาฝาก - ชาเขียว การที่ดื่มชาเขียวอย่างเป็นประจำวันละ 5 แก้ว สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานการเผาผลาญไขมันได้ดี สุขภาพร่างกายแข็งแรงอีกด้วย - กาแฟ มีคาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นเอ็นไซม์สามารถช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ แต่การดื่มกาแฟเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 1 แก้ว ในมื้อเช้า หรือมื้อกลางวันหลังมื้อเที่ยงก็น่าจะเพียงพอ - ชินนามอน การทานชินนามอน ในปริมาณครึ่งถึง 2 ช้อนชาต่อวัน จะช่วยให้พลังงานและลดระดับน้ำตาลในเลือด อีกทั้งลดระดับคอเรสเตอรอลได้ 10 - 25 % - เกรปฟรุต ผลไม้ตระกูลซิตรัส ที่ช่วยในการเผาผลาญพลังงาน ทำให้คุณรู้สึกอิ่มท้องและกระปรี้กระเปร่า นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์สูงอีกด้วย - น้ำเปล่า เพียงดื่มวันละประมาณ 8-10 แก้ว เป็นประจำ ก็ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญมากกว่าปกติแล้ว
10 ธันวาคม 2562
2,417
หนาวนี้ มีวิธีดูแลผักหรือยัง... เพราะฤดูหนาว เป็นช่วงที่อากาศเย็นลง ทั้งคน สัตว์เลี้ยงหรือแม่แต่พืชที่ปลูก ก็ต้องปรับตัวให้ได้กับสภาวะอากาศที่เย็นลงด้วย บางครั้งหากได้รับการดูแลไม่ดีพอก็อาจป่วย ส่วนพืชก็เกิดโรคได้เช่นกัน วิธีการง่ายๆที่จะช่วยให้พืชของเรา ผ่านพ้นฤดูกาลความหนาวเย็นนี้ไปได้แบบสบาย และกลายเป็นผลผลิตที่ทำเงินให้เราแบบสมบูรณ์คือการดูแลพืชผักเหล่านี้ด้วย สำหรับใครที่ชอบปลูกผักไว้ทานเอง หรือจะปลูกขายให้ได้ราคา เรามีเคล๋็ดลับดี ๆ มาฝาก ในการดูแลพืชผักในช่วงฤดูหนาว ทั้งเรื่องการแต่งกิ่งใบ การให้ปุ๋ย ให้น้ำ เพื่อให้เราได้พืชผักที่สมบูรณ์แข็งแรง ต้านโรคในหน้าหนาวได้ ลองนำไปปรับใช้กันดู
20 พฤศจิกายน 2562
3,806
ไม้ผลที่ปลูกมาเป็นเวลานาน พอต้นเริ่มแก่ ก็เริ่มจะให้ผลผลิตได้ไม่ค่อยดี...แบบนี้ต้องจับมา "ทำสาว" แล้วทำไม? เราต้องทำสาวให้ไม้ผล ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียน มะม่วง เงาะ ส้มโอ ลำไย มะนาว และอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อต้นมีอายุมากขึ้น หรือเริ่มแก่ตัว จะให้ผลผลิตน้อยลงแถมต้นสูง ทรงพุ่มใหญ่ ทำให้การดูแลและการเก็บเกี่ยวยุ่งยากมากขึ้น ดังนั้นเราต้องจัดการด้วยวิธีที่เรียกว่าการทำสาว จะมีประโยชน์และต้องทำอย่างไรบ้าง ไปดูกันค่ะ - ประโยชน์ของการทำสาว ทรงต้นเกิดความสมดุลระหว่างรากและลำต้น ควบคุมขนาดทรงพุ่ม ให้มีการแตกใบอ่อนอย่างสม่ำเสมอ ลดความรุนแรงของโรค ช่วยให้แสงแดดส่องได้ทั่วถึงทรงพุ่ม การปฏิบัติงานในสวนสะดวกขึ้น เช่น พรวนดิน พ่นสารเคมี และเก็บเกี่ยว ช่วยลดอายุการแก่ของต้น ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาปลูกทดแทนต้นเก่า - วิธีการทำสาว ควรตัดแต่งช่วงฤดูฝน - ให้ตัดแต่งเฉพาะกิ่งแขนงหลัง - ตัดกิ่งให้สูงจากพื้นโคนต้นประมาณ 5 - 2 เมตร - ตัดกิ่งที่มีเส้นผ่านศูนย์การไม่เกิน 4 - 6 นิ้ว - ทาสีที่ใช้ทาบ้านตรงส่วนแผลที่ตัด เพื่อช่วยลดความร้อนจากแสงแดด และยังป้องกันการเข้าทำลายของโรคและแมลง - ประมาณ 1 เดือน หลังจากการทำสาว จะเกิดยอดใหม่ออกมา และปล่อยให้แตกกิ่งใหม่ 3-4 กิ่งรอบต้น - ต้นจะเจริญเติบโตและออกดอกในปี ที่ 2 การตัดแต่งกิ่งหรือการทำสาว นอกจากจะทำให้ใบได้รับแสงอย่างทั่วถึงแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้รากมีการเจริญเติบโตมากขึ้น ทำให้มีการดูดน้ำ และธาตุอาหารได้ดีขึ้น มีการแตกกิ่งใบใหม่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งกิ่งใบที่แตกใหม่นี้ จะเป็นกิ่งที่ออกดอกติดผลในฤดูถัดมา ใบชุดใหม่จะมีการสร้างอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีการสะสมอาหารในต้นมากขึ้น และเมื่อต้นได้รับการตัดแต่งที่เหมาะสมแล้วก็ไม่ต้องส่งอาหารไปเลี้ยงกิ่งแก่ และ ใบที่อ่อนแอ ทำให้ต้นแข็งแรง และมีโครงสร้างดี สะดวกต่อการเข้าปฏิบัติงาน ลดการใช้สารเคมี และปุ๋ย จะมีการออกดอก ติดผลกระจายทั่วทรงพุ่ม คุณภาพผลดีทั้งเรื่องขนาดและรสชาติ
22 ตุลาคม 2562
6,689
ถ้าพูดถึงปัญหาเรื่องดินถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเกษตรกร เพราะปัจจัยพื้นฐานในการเพาะปลูกคือดิน...หากดินไม่ดี เปรี้ยวไป เค็มไป หรือว่าจืดเกินไป พืชผักที่ปลูก ไม่ได้ดั่งใจเราแน่นอนหละคะ . เพราะฉะนั้น...จัดนักก็ต้องปรับลด...เพื่อให้เราได้ดินที่ดีพร้อมต่อการเพาะปลูก ดินเค็มจัด (น้ำล้างดิน - ไถพรวน - ใส่วัสดุปรับปรุงดิน) ++ใช้น้ำชะล้างเกลือจากดิน การใช้น้ำสำหรับล้างดินมีทั้งแบบต่อเนื่องและแบบขังน้ำเป็นช่วงเวลา ช่วยปรับฟื้นฟู ทำให้ดินชื้นอยู่เสมอ น้ำใต้ดินถูกดึงขึ้นมาที่ผิวหน้าดิน จะทำให้เกลือถูกดึงขึ้นมาตามผิวดินด้วย ++ไถพรวน ทำการพรวนหน้าดินให้มีความร่วนซุย อากาศและน้ำถ่ายเทได้สะดวกขึ้น ++ใส่วัสดุปรับปรุงดิน นำเศษหญ้า ใบไม้ ฟางข้าว หรือวัสดุธรรมชาติอื่นๆ แต่ถ้าเป็นฟางข้าวจะให้ผลดีที่สุด นำมาปกคลุมดินไว้เพื่อรักษาความชื้นในดินไม่ให้ระเหยออกไป . ดินเปรี้ยวจัด (ให้น้ำขัง - ใช้ปูนขาว) ++ให้น้ำขัง ใช้น้ำชะล้างดินเพื่อล้างกรดทำให้ค่า pH เพิ่มขึ้น โดยวิธีการปล่อยน้ำให้ท่วมขังแปลง แล้วระบายออกประมาณ 2-3 ครั้ง โดยทิ้งช่วงการระบายน้ำประมาณ 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง การใช้น้ำชะล้างความเป็นกรดต้องทำต่อเนื่องและหวังผลในระยะยาว ไม่ใช่ทำเพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น ++ใช้ปูนขาว การใช้ปูนผสมคลุกเคล้ากับหน้าดิน ใช้ปูนมาร์ล ปูนขาวหรือโดโลไมต์ หว่านให้ทั่ว 1-4 ตันต่อไร่ แล้วไถแปรหรือพลิกกลบดิน ปริมาณของปูนที่ใช้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของความเป็นกรดของดิน . ดินจืดจัด (ปลูกพืชหมุนเวียน - ใส่ปุ๋ยบำรุง) ++ปลูกพืชหมุนเวียน พวกตระกูลถั่ว หรืออาจเป็นต้นก้ามปู ปลูกให้ถี่ๆ เพื่อทำให้ต้นก้ามปูตั้งตรงสูง ทิ้งไว้ 10-20 ปี เมื่อตัดต้นก้ามปูไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นแล้ว จึงหันมาปลูกมันสำปะหลังใหม่ ++ใส่ปุ๋ยบำรุง ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ โดยโรยปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปุ๋ย กทม. จะต้องใส่ถึง 12 ตันต่อไร่ พร้อมด้วยการเพิ่มปุ๋ยเคมีที่มีโปรแตสสูงๆ เข้าไปด้วย
24 กันยายน 2562
14,639