เรื่องเด็ดเกร็ดเกษตร
วันนี้มีผักมาแนะนำ เพื่อช่วยเสริมภูมิคุ้มกันต้านไวรัส ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงรับปี 2564 ผักผลไม้และยาจากสมุนไพรที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่ผ่านการวิจัยออกมาแล้วว่า ช่วยมีฤทธิ์ลดโอกาสติดเชื้อได้ คือ 1. พลูคาว หรือ ผักคาวตอง (มีสาร เควอซิทิน และรูติน) 2.ผลไม้ตระกูล ส้ม ผักผลไม้ที่มีสารเฮสเพอริดิน และรูตินสูง ได้แก่ ผิวด้านในของเปลือกผล ของพืชตระกูลส้ม เช่น ส้ม มะนาว มะกรูด ส้มซ่า) 3.หอมแดง มะรุม ใบหม่อน-ลูกหม่อน ขมิ้นชัน และ กะเพรา ที่มีสารสำคัญที่มีศักยภาพในการป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ นอกจากนี้ มีผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ดอกขี้เหล็ก ยอดมะยม ใบเหลียง ยอดสะเดา มะระขี้นก ฟักข้าว ผักเชียงดา คะน้า มะรุม ผักแพว มะขามป้อม ส่วน เห็ดต่าง ๆ เช่น เห็ดหอม เห็ดนางฟ้า เห็ดออรินจิ เห็ดหลินจือ และตรีผลา (สมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อม) ให้ทำเป็นน้ำต้มดื่ม หากเราเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ออกกำลังกาย ให้ร่างกายแข็งแรง หากได้รับเชื้อมาแล้ว จะมีส่วนทำให้อาการรุนแรงน้อยลงนะจ๊ะ
10 มกราคม 2564
3,691
ปุ๋ยอินทรีย์ หาเองได้ในครัวเรา นั่นก็คือเปลือกกล้วยกับเปลือกไข่ ไปดูกันว่า ทั้ง 2 เปลือกที่ว่า มีอะไรที่มีสารอาหารดี ๆ ต่อพืชอยู่บ้าง สารอาหารที่อยู่ในเปลือกไข่ 1. โพแทสเซียม : เร่งการเจริญเติบโตของราก ใบ หากใช้ในผักกินใบ จะทำให้ใบกรอบ สีเขียวสวย น่ารับประทาน 2. กัมถัน : ในเปลือกไข่มีกัมถันอ่อนๆ ที่มีฤทธิ์ช่วยในการขับไล่ แ ม ล ง บางชนิดได้อีกด้วย 3. แคลเซียม : ช่วยให้ลำต้นแข็งแรง ไม่หักโค่นล้มง่าย เหมาะสำหรับผักสวนครัวที่มีลำต้นเล็ก แต่พุ่มหนาดก หรือ ออกผลเยอะ ทำให้ลำต้นต้องแบกรับน้ำหนักเยอะ เสี่ยงต่อการหักโค่น เช่น มะนาว มะกรูด พริก เป็นต้น วิธีใช้ : นำเปลือกไข่มาบดให้ละเอียด แล้วนำเกลือ กับ ผงชูรสผสมลงไปเล็กน้อย โรยรอบๆโคนต้นไม้ แล้วรดน้ำตาม ประมาณ 7 วันจะเกิดการย่อยสลายซึมลงสู่ดิน สารอาหารจากเปลือกไข่ก็จะเป็นอาหารในดินให้พืชนำไปใช้งาน ช่วยเพิ่ม แคลเซียม โพแทสเซียม และ สารอาหารจำเป็นต่างๆ ช่วยให้พืชผัก แข็งแรง เจริญเติบโตได้ดี ส่วนเปลือกกล้วยนั้น เป็นที่รู้กันดีว่าอุดมไปด้วย โพแทสเซียม และ ฟอสฟอรัส สารอาหารที่มีอยู่มากในเปลือกกล้วย 1. โพแทสเซียม : หนึ่งในธาตุอาหารหลักที่พืชต้องการ ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของราก ใบ หากใช้ในผักกินใบ จะทำให้ใบกรอบ สีเขียวสวย น่ารับประทาน ซึ่งปกติเราอาจต้องซื้อปุ๋ยโพแทสเซียมเสริม แต่เราสามารถทดแทนได้ง่ายๆด้วยเปลือกกล้วย 2. ฟอสฟอรัส : ในเปลือกกล้วยมีปริมาณฟอสฟอรัสมากพอสำหรับพืช ช่วยเรื่องการออกดอก และ ติดผล ทำให้ไม้ดอกไม้ประดับออกดอกสวย สีสันงดงาม วิธีใช้ : ให้นำเปลือกกล้วยมาขูดบริเวณเปลือกออกจะได้เป็นขุยที่ติดตรงเปลือก และ ตัดเปลือกเป็นชิ้นเล็ก ให้นำทั้งสองส่วนนี้มาหมักรวมกันไว้ในน้ำเปล่า 7 วัน จุลิ นทรีย์ในนั้นจะช่วยย่อยสลายเปลือกกล้วยให้ใช้งานได้เร็วยิ่งขึ้น ( สังเกตว่าสีน้ำที่หมักไว้เปลี่ยนไป ออกเหลืองๆคล้ายๆสีเปลือกกล้วย เป็นอันว่าใช้ได้ ) แล้วนำไปรดต้นไม้ 1 ครั้ง/สัปดาห์ หรือ หากใครขี้เกียจทำก็ให้นำเปลือกกล้วยตัดเป็นชิ้น แล้วนำไปโรยไว้ที่รอบโคนต้นไม้ แล้วรอให้เปลือกกล้วยย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยไปตามกระบวนการทางธรรมชาติ ( วิธีนี้อาจได้ผลช้ากว่าการหมักในน้ำ ) เพื่อให้ได้ผลดี ควรใช้ทั้งสองวิธี น้ำหมักเปลือกกล้วยรด และ โรยเปลือกไข่ไว้บริเวณรอบๆโคนต้นไม้ไปพร้อมๆกัน เป็นการเพิ่มธาตุอาหารต่างๆในดินให้พืชได้เป็นอย่างมาก
20 ธันวาคม 2563
23,442
แมลงศัตรูพืช ตัวร้าย เราเห็นไม่ได้เป็นต้องกำจัด แต่ดูกันดี ๆ มันมีแมลงดี มีประโยชน์ต่อการทำเกษตรอยู่ด้วยนะ ช่วยป้องกันต้นไม้ของคุณได้และสร้างสมดุลตามธรรมชาติได้อย่างดีด้วย มีแมลงอะไรอะไรบ้าง ไปดูกันเลย 1. แมลงวันทาชินิต ตัวอ่อนของแมลงวันชนิดนี้จะขุดเข้าไปฝังตัวในศัตรูพืชหลายชนิด และทำลายแมลงพวกนั้นจากภายใน 2. แมลงช้างปีกใส แมลงช้างปีกใสสามารถกินเพลี้ย หนอนผีเสื้อ หนอนแมลง เพลี้ยไฟและศัตรูพืชอีกหลากหลายชนิด วิธีที่จะทำให้สวนมีแมลงชนิดนี้มาอาศัยคือการปลูกต้นตังกุย ตาเสือ คอสมอสและอลิสซั่ม เอาไว้ เป็นแมลงตัวห้ำที่สำคัญสามารถกินศัตรูพืชได้หลายชนิด 3. ด้วงดิน มันจะกินพวกทาก หอยทาก หนอน หนอนกะหล่ำปลี และศัตรูพืชอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในสวนของคุณ รู้หรือไม่ว่า ด้วงดินเพียงตัวเดียว สามารถกินแมลงต่าง ๆ ได้ถึงจำนวนมากกว่า 50 ตัวอีกด้วย 4. เต่าทอง มันจะกินเพลี้ย ไร และแมลงที่เป็นศัตรูพืชเป็นอาหาร แมลงเต่าทองจัดเป็นแมลงสำคัญชนิดหนึ่ง ในระบบนิเวศ ซึ่งบางชนิดเป็นแมลงตัวห้ำที่คอยจับกินศัตรูพืชในแปลงเกษตร ช่วยลดปริมาณแมลงศัตรูพืช ได้เป็นอย่างดี มันชอบอาศัยอยู่ตามต้นตังกุย ตาเสือ ผักชีฝรั่ง ยี่หร่า และยาร์โรว์ 5. มินิทไพเรท แมลงที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว จะโจมตีเหล่าศัตรูพืชเกือบทุกชนิด ถ้าอยากดึงดูดพวกมันสู่สวนของคุณ ลองปลูก ต้นสร้อยทอง เดซี่ อัลฟัลฟ่า และยาร์โรว์ 6. ด้วง Soldier Beetles ด้วงชื่นชอบกินเพลี้ยและหนอน ช่วยกำจัดศัตรูพืชและไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ดึงดูดพวกมันได้ด้วยการปลูก แคทนิป สร้อยทอง และไฮเดรนเยียไว้ภายในสวน ด้วง หรือ แมลงปีกแข็งนั้น นับเป็นแมลงที่มีจำนวนมากที่สุดในโลก จำหน้าตาเจ้าแมลงเหล่านี้ไว้ให้ดี ๆ เวลาเจอแมลงเหล่านี้ในสวน จะได้ปล่อยให้มันทำหน้าที่ ปกป้องสวนของเรา และปล่อยให้ธรรมชาติดูแลธรรมชาติด้วยกันเอง เพื่อรักษาระบบนิเทศน์ให้ดียิ่งขึ้น
6 ธันวาคม 2563
5,067
สูตรการทำอาหารเสริมปลาเพื่อลดต้นทุนการเลี้ยงปลา โดยใช้วัตถุดิบที่หาง่ายในบ้านเราเอง สูตรนี้จะช่วยให้ปลาที่เลี้ยงเนื้อหวาน อร่อย และที่สำคัญโตเร็ว ไปเตรียมส่วนผสมแล้วลุยกันเลย ส่วนผสม 1.กล้วยน้ำหว้าสุก 1หวี 2.รำข้าว 2 กก. 3.เนื้อมะพร้าวแก่ขูด 1 กก. วิธีการทำ นำกล้วยสุกมาปลอกเปลือกแล้วนำมาบดรวมกันกับรำข้าวแล้วนำมาคลุกเคล้ากับเนื้อมะพร้าวขูดที่เตรียมไว้ให้เข้ากันจนสามารถปั้นเป็นก้อนได้หลังจากนั้นนำไปตากแดดให้แห้งแล้วนำมาเก็บไว้เพื่อเป็นอาหารปลาต่อไป การนำไปใช้ อาหารเสริมปลาสูตรเนื้อหวานโตเร็วเกษตรกรสามารถให้เป็นอาหารเสริมปลาไปพร้อมๆกับการให้อาหารปลาสำเร็จรูปที่ให้เป็นประจำทุกวัน เพราะสูตรอาหารเสริมปลาสูตรนี้จะเร่งให้ปลาโตเร็วกว่าปกติ ปลามีขนาดใหญ่ และ แข็งแรงมีน้ำหนักดี และที่สำคัญเนื้อปลามีรสหวาน เกษตรกรสารมารถจับปลาขายได้เร็วกว่าการเลี้ยงด้วยอาหารเม็ดทั่วๆไป ดังนั้นเกษตรกรจึงสามารถลดต้นทุนในการซื้ออาหารปลาไปได้มากกว่าการเลี้ยงแบบเดิมๆ
29 พฤศจิกายน 2563
3,080
สูตรทำสครับผิว จากข้าวหอมมะลิ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ไร้ริ้วรอย วัตถุดิบที่ต้องเตรียม 1.ข้าวหอมมะลิบดละเอียด 1 ส่วน 2.ขมิ้นผงบดละเอียด 1/2 ส่วน 3.ดินสอพองบดละเอียด 1 ส่วน 4.น้ำผึ้งแท้ หรือ โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ส่วน วิธีการผสม 1.นำข้าวหอมมะลิบดละเอียด ผสมรวมกันกับ ขมิ้นผง และดินสอพอง คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำไปร่อนให้ละเอียดที่สุดอีกครั้ง 2.จากนั้นเทน้ำผึ้งแท้ หรือ โยเกริ์ต ลงไปผสมจนออกมาเป็นเหมือนเนื้อครีมข้นๆหนืดๆ เตรียมนำไปใช้ได้ การนำไปใช้ ใช้สครับข้าวหอมมะลิที่ผสมแล้ว ขัดผิวบริเวณที่ต้องการ หรือ ใช้ขัดผิวหน้าเบา ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง จะช่วยให้ผิวเรียบเนียน ขาวใส และปลอดภัยจากสารเคมีที่เป็นอันตราย
15 พฤศจิกายน 2563
3,899
้บ้านไหนสับปะรดเยอะ มีเปลือกสับปะรด สามารถนำมาทำน้ำหมักสารพัดประโยชน์ได้ และหลังจากที่เราได้น้ำหมักสับปะรดมาแล้ว ก็ไปดูวิธีใช้กันเลย ++ วิธีการใช้ ++ - นำน้ำหมัก 30 ซีซี (3 ช้อนโต๊ะ) ต่อ น้ำ 1 ลิตร แช่ผ้า 20-30 นาที ซักขยี้แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด - น้ำหมัก:น้ำ = 1:1000 นำมารดน้ำต้นไม้ - ส่วนกากนำไปใส่บริเวณโคนต้น ++ การเจือจางน้ำหมัก ++ น้ำหมักสับปะรด 1 ส่วน น้ำตาลทราย 1 ส่วน และน้ำ 10 ส่วน หมักไว้อย่างน้อย 3-7 วัน จึงสามารถนำไปใช้ผสมน้ำรดต้นไม้ได้ ข้อดี : 1. ทำความสะอาดส่วนต่าง เช่น ล้างห้องน้ำ ล้างรถ เช็ดกระจก ซักผ้า 2. นำผสมกับน้ำรดต้นไม้ ทำให้ต้นไม้สมบูรณ์ 3. ทำปุ๋ย ใช้ในการเกษตร 4. ใช้ใส่แผลฟกช้ำ ช่วยบรรเทาอาการ 5. ประหยัดค่าใช้จ่าย 6. ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
25 ตุลาคม 2563
11,707