Cocoa Valley Resort
ธุรกิจเกษตรสร้างสรรค์ สู่ชุมชนยั่งยืน

พี่เจี๊ยบกลับบ้านพร้อมความตั้งใจที่อยากกลับมาสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับจังหวัดน่านด้วย เพราะน่านโดนตราหน้ามาตลอดว่าเป็นจังหวัดต้นน้ำ แต่กลับมีภูเขาหัวโล้น พี่เจี๊ยบจึงเข้าไปส่งเสริมเกษตรกรบนดอยให้ปลูกโกโก้ ซึ่งนอกจากสร้างรายได้ให้เกษตรกรแล้ว ยังเป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับจังหวัดน่านตามที่ตั้งใจไว้ด้วย

ปัจจุบันทาง Cocoa Valley มีพื้นที่ปลูกโกโก้อยู่ประมาณ 10 ไร่ และมีต้นโกโก้ของเกษตรกรในเครือข่ายรวมกันกว่า 30,000 ต้น บนพื้นที่กว่า 3,000 ไร่

ระหว่างที่รอให้ต้นโกโก้โตพอที่จะสร้างรายได้ พี่เจี๊ยบ และพี่นูญได้เข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัวนั่นก็คือ Cocoa Valley Resort ในปัจจุบัน โดยพี่เจี๊ยบเล่าว่าเดิมที่นี่เป็นเพียงโฮมสเตย์เล็กๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ของพี่นูญ สร้างไว้มีแค่ 4 ห้อง เท่านั้น ทางพี่เจี๊ยบและพี่นูญได้เข้ามาปรับปรุง และทำเป็นรีสอร์ทก่อน พอมีรายได้เพิ่มก็นำเงินส่วนน้ั้นมาเปิดเป็นคาเฟ่เล็กๆมีเพียง 7 ที่นั่งเท่านั้น และเมื่อรีสอร์ทและคาเฟ่สร้างรายได้เพิ่มขึ้น จึงมาสร้างคาเฟ่ใหม่ในปัจจุบัน

Cocoa Valley Resort ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่พัก แต่เป็นที่ให้คนรักโกโก้ ได้เข้ามาดื่มด่ำธรรมชาติที่แสนร่วมรื่น พร้อมกับการเรียนรู้กระบวนการผลิตโกโก้ผ่านกิจกรรม เวิร์กช็อปต่าง ๆ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในรีสอร์ตอีกด้วย

เมื่อโกโก้เริ่มผลิดอกออกผลทางพี่เจี๊ยบก็นำมาแปรรูปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายใน Cocoa Valley Cafe ซึ่งการแปรรูปแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ "ของกิน" ที่มีทั้งเครื่องดื่มและเบเกอรี่ต่างๆ ที่มีโกโก้เป็นส่วนผสม อร่อย หอมละมุน รับรองว่าใครที่ได้มาลิ้มลองต้องติดใจ

ต่อมาเป็นในส่วน "ของใช้" จะมีเครื่องสำอางต่างๆ และผ้าทอโกโก้ที่มีที่เดียวในโลก ที่ได้ทำการจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เป็นของคนไทยจริงๆ

การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากโกโก้ของพี่เจี๊ยบยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ ปัจจุบันมีการขยายส่วนของโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้น และควบคุมมาตรฐานต่างๆ ให้เป็นที่ยอมรับ ในระดับประเทศและระดับสากล

การกลับมาบ้านเกิดของพี่เจี๊ยบ และพี่นูญในครั้งนี้นอกจากจะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเกษตรของตนเองแล้ว ยังช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้คนในชุมชนอย่างยั่งยื่นอีกด้วย

ส่วนใหญ่เราจะเห็นว่าในกระบวนการผลิตโกโก้หรือช็อกโกแลตทั่วโลกจะใช้เครื่องจักร แต่ที่นี่จะใช้เครื่องจักรในบางขั้นตอนเท่านั้น โดยจะจ้างแรงงานผู้สูงอายุในชุมชนกว่า 20 ท่าน ให้มามีส่วนร่วมในขั้นตอนการแยกคัดเปลือกแทนการใช้เครื่องจักร โดยใช้ภูมิปัญญาวิธีการฝัดข้าวสาร ที่ผู้สูงอายุถนัดอยู่แล้ว เป็นการสร้างรายได้ให้ผู้สูงอายุในชุมชนอีกด้วย

นอกจากนี้ในส่วนของ Cocoa Valley Cafe ยังมีการจ้างน้องๆ พนักงานที่เป็นคนในชุมชนเช่นกัน โดยพี่เจี๊ยบจะส่งพนักงานในส่วนของคาเฟ่ไปอบรมเสริมความรู้ต่างๆ เพื่อให้สามารถทำงานบริการได้อย่างเต็มที่และมีความรู้ในด้านงานบริการอย่างแท้จริง

"สิ่งสำคัญอย่างแรกเลยคือต้องเห็นคุณค่าในตัวเองก่อน ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณเห็นคุณค่าในตัวเอง คุณจะสามารถส่งต่อคุณค่านั้นให้กับคนอื่นได้" พี่เจียบบอกกับเราว่าถ้าทุกคนรู้จักหน้าที่ของตัวเอง ก็จะสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเกษตรหรืออาชีพอื่นๆ ถ้าคิดที่จะทำขอให้มีความมุ่งมั่นก่อน ซึ่งพี่เจี๊ยบและพี่นูญ มีหลักปฏิบัติ 2 ข้อ ที่ยึดถือปฏิบัติกันมาตลอดคือ ต้องมีความรู้คุณธรรม ถ้าเราเริ่มต้นด้วย 2 สิ่งนี้ ไม่ว่าจะทำอะไรเราก็ประสบความสำเร็จได้

หลายๆคน ที่เคยเป็นลูกเกษตรกรอย่างพวกพี่เจี๊ยบ อาจรู้สึกว่าไม่อยากทำเกษตร เพราะเห็นพ่อแม่ยิ่งทำยิ่งยากจน มีแต่หนี้สิน แต่ถ้าเราลองมองในมุมกลับกัน ถ้าเราตั้งใจอยากทำให้อาชีพเกษตรเป็นอาชีพที่ทำให้ทั้งตัวเราเองลูกหลานภาคภูมิใจ สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นเหมือนพลังดึงดูดให้เราสามารถขับเคลื่อนให้อาชีพนี้ประสบความสำเร็จ เป็นที่ยอมรับของคนในสังคม ที่สำคัญยังช่วยทำให้เศรษฐกิจในประเทศของเราเจริญก้าวหน้าไปด้วย

ฤดูหนาวมาแล้วใครที่อยากไปสัมผัสลมหนาวที่น่าน พร้อมลิ้มรสโกโก้หอมกรุ่นแสนละมุนใจ สามารถติดต่อจับจองที่พักกันได้ที่ Cocoa Valley Resort ได้เลยครับ