จากสถิติของกรมประมงในเดือนมิถุนายน 2564 พบว่าประเทศไทยได้ส่งออกปลาสวยงามน้ำจืด เป็นจำนวน 6,378,580 ตัว และ มีมูลค่าถึง 46,287,180 บาท เลยทีเดียว และในวันนี้ รักบ้านเกิดจะมาแนะนำ 3 ปลาสวยงามไทย ส่งออกไกลไปต่างแดน ให้เกษตรกรที่สนใจไว้พิจารณาและลองเพาะพันธุ์หรือเลี้ยงกัน
1.ปลากัด
ถ้าจะพูดถึงเรื่องปลาสวยงาม คงขาดปลาสวยงามชนิดนี้ไปไม่ได้ "ปลากัด" ปลาสวยงามที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม มีหลากสีสัน และหลายสายพันธุ์ ส่งให้มันถูกจัดให้เป็น สัตว์นํ้าประจําชาติ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทำให้มันได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น
วิธีการเพาะพันธุ์
- นำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ของปลากัดใส่ขวดวางคู่กัน ประมาณ 4-7 วัน เพื่อกระตุ้นให้ปลาพร้อมผสมพันธุ์
- นำตัวผู้และตัวเมีย อย่างละหนึ่งตัว มาใส่รวมกันภายในภาชนะที่เตรียมไว้
- ใส่พวกใบไม้ อย่าง ใบมะยม ผักต่าง ๆ เพื่อให้ตัวผู้สร้างหวอดได้ง่าย และไว้เป็นที่อยู่ของลูกปลา จากนั้นหาวัสดุต่างๆ มาปิดบนภาชนะ เนื่องจากปลากัดต้องการความเงียบสงบและชอบวางไข่ในที่มืด
- ใช้เวลา 1-2 วัน เพศผู้จะเริ่มต้อนตัวเมีย และรัดตัวเมียตรงอวัยวะสืบพันธุ์ ใข่จะหลุดออกมา เพศผู้จะฉีดน้ำเชื้อเข้าผสม และดูแลไข่เพียงลำพัง
- นำตัวเมียออกจากภาชนะเพื่อไม่ให้ตัวเมียกินไข่
วิธีการเลี้ยง
การเลี้ยงปลากัดก็เลี้ยงได้ง่าย สามารถเลี้ยงในภาชนะอย่าง โหลแก้ว ขวดน้ำ โดยไม่ต้องใช้ออกซิเจนช่วย เพราะปลากัดมีอวัยวะในการช่วยหายใจ ทั้งอาหารที่ใช้เลี้ยงก็สามารถซื้อได้ตามร้านขายอาหารปลาสำเร็จรูป หรืออาหารมีชีวิต อย่างพวกลูกน้ำ ให้อาหารวันละ 1-2 ครั้ง
2.ปลาหางนกยูง
อีกหนึ่งพันธุ์ปลาสวยงาม ที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี โดยเฉพาะบ้านไหนที่ต้องการจะกำจัด ยุง หรือ ลูกน้ำ ก็จะนำ "ปลาหางนกยูง" มาเลี้ยงไว้ที่บ้าน แต่ด้วยความสวยงาม ลวดลายที่ปลายหางของมัน เป็นที่สะดุดตาให้แก่ผู้คนที่พบเห็น ทำให้ ปลาหางนกยูง เป็นปลาสวยงามอยู่คู่กับบ้านเรือนของคนไทยมาโดยตลอด
วิธีการเพาะพันธุ์
- เตรียมบ่อซีเมนต์ขนาด 1 - 4 ตารางเมตร ระดับน้ำลึก 30 - 50 เซนติเมตร ใส่พุ่มเชือกฟางตะกร้าหรือฝาชี เพื่อให้ลูกปลาใช้เป็นที่ปลาหลบซ่อน
- ปล่อยรวมกันในอัตรา 120-180 ตัวต่อลูกบาศก์เมตร ในสัดส่วนเพศผู้ : เพศเมีย เท่ากับ 1:3 หรือ 1:4 ระหว่างการเพาะพันธุ์ให้ไรแดงเป็นอาหารในตอนเช้า และให้อาหารสำเร็จรูปในตอนเย็น สังเกตจุดสีดำบริเวณท้องในตัวเมียที่ได้รับการผสมแล้ว
- หลังจากแม่ปลาได้รับการผสมพันธุ์ประมาณ 26 - 28 วัน จะมีลูกปลาวัยอ่อนเกิดขึ้น และซ่อนอยู่ตามวัสดุที่มาใส่ไว้ในบ่อ
- รวบรวมลูกปลาออกทุกวันสะสมไว้ในบ่ออนุบาล ประมาณ 4-5 วันต่อบ่อ เพื่อให้ลูกปลามีขนาดใกล้เคียงกัน โดยปล่อยลูกปลาในอัตราความหนาแน่น 140-300 ตัวต่อลูกบาศก์เมตร ให้ไรแดงเป็นอาหารในตอนเช้าและเย็นทุกวันเป็นระยะเวลา 2 อาทิตย์ จากนั้นจึงให้อาหารสำเร็จรูป เมื่อลูกปลามีอายุประมาณ 3 อาทิตย์ ซึ่งเป็นระยะที่เริ่มแยกเพศได้ โดยปลาเพศเมีย สังเกตจุดสีดำบริเวณรูเปิดช่องท้อง ส่วนปลาเพศผู้ หากมองจากด้านบนจะมีรูปร่างเรียวยาวกว่าเพศเมีย
- คัดขนาดและแยกเพศปลา นำไปแยกเลี้ยงในบ่ออัตรา 200-300 ตัวต่อลูกบาศก์เมตร ให้กินไรแดงเป็นอาหารในตอนเช้าส่วนตอนกลางวันและตอนเย็นให้กินอาหารสำเร็จรูป ใช้เวลาเลี้ยง 3 เดือน
- คัดขนาดและเลือกปลาที่แข็งแรงสมบูรณ์ เพื่อนำไปเลี้ยงไว้ในบ่อพักปลาเพื่อเตรียมส่งจำหน่ายต่อไป
.วิธีการเลี้ยง
ควรเลี้ยงแยกเพศเพื่อป้องกันไม่ให้ผสมพันธุ์กันเอง โดยภาชนะที่ใช้เลี้ยง ก็สามารถเลี้ยงได้ในอ่างซีเมนต์ ตู้กระจก และควรมีอุปกรณ์เพิ่มออกซิเจนในน้ำ และน้ำควรมีอุณหภูมิ 25-29 องศาเซลเซียส อาหารที่ใช้เลี้ยงก็หาง่าย เช่น ลูกน้ำ ไรแดง ไรทะเล หรืออาหารสำเร็จรูป โดยให้อาหารวันละ 2 ครั้ง
3.ปลาสอด
ปลาสอด หรือ ปลามอลลี่ อีกหนึ่งพันธุ์ปลาสวยงาม ที่สวยงามไม่แพ้พันธุ์อื่น เป็นปลาสวยงามน้ำจืดที่มีมูลค่าการส่งออกในไทยเป็นรองเพียงปลากัด และปลาหางนกยูงเท่านั้น จุดเด่นของมันคือสีสันที่สวยงาม ดูสดใสสะดุดตา ปลายหางที่คล้ายกับดาบ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ ปลาสอด ที่เพี้ยนมาจากคำว่า "Sword" ในภาษาอังกฤษที่แปลว่า "ดาบ" นั่นเอง โดยปลาสอดมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้แถบเม็กซิโก เวเนซูเอล่า
วิธีการเพาะพันธุ์
- ภาชนะในการเลี้ยงต้องมีความเหมาะสมกับขนาดและจำนวนปลาที่จะเลี้ยง เช่นในตู้ปลา กะละมัง อ่างบัว บ่อซีเมนต์หรือบ่อน้ำจืด
- ควรเตรียมวัสดุที่เหมาะสมในการพรางตัวลูกปลา เพราะปลาสอดเป็นปลากินลูก
- น้ำที่ใช้เพาะเลี้ยง ไม่ควรเป็นน้ำที่มีคลอรีน
- ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เพื่อล้างเศษอาหาร ช่วยลดกลิ่นเน่าเหม็นที่เกิดขึ้นภายในบ่อ และช่วยป้องกันการเกิดโรคระบาด
- ควรให้อาหารลูกปลาเป็นไรแดงอบแห้ง หรือ ผสมอาหารปลาสำเร็จรูปกับไข่แดงบดให้เข้ากัน วันละ 2 ครั้ง เมื่ออายุประมาณ 2 อาทิตย์ เปลี่ยนเป็นอาหารเม็ดที่มีขนาดพอดีกับปากปลา
วิธีการเลี้ยง
ปลาสอดเป็นกลุ่มปลาสวยงามที่ออกลูกเป็นตัวแบบเดียวกับปลาหางนกยูง ดังนั้นวิธีการเลี้ยงก็จะคล้ายกันโดยอาหารที่ใช้เลี้ยงก็จะเหมือนกันคือพวก ลูกน้ำ ไรแดง ไรทะเล หรืออาหารสำเร็จรูป โดยให้อาหารวันละ 2 ครั้ง
เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับปลาสวยงามน้ำจืด 3 พันธุ์ ที่รักบ้านเกิดนำมาแนะนำให้เพื่อนๆ กันในครั้งนี้ สวยงามถูกใจใครกันบ้าง ทั้งปลากัด ปลาหางนกยูง ปลาสอด ต่างก็มีลักษณะและความสวยงามที่แตกต่างกัน แถมยังมีมูลค่าการส่งออกที่สูงอีกด้วย ใครสนใจที่จะเพาะเลี้ยงพันธุ์ปลาสวยงามก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เผื่อศึกษาตลาดและความต้องการในอนาคต แต่รักบ้านเกิดรับรองว่าปังแน่นอน!