จากครีเอทีฟรายการทีวี สู่วิถีเกษตรกร
อดีตพี่ปุ๊เคยทำงานเป็นครีเอทีฟรายการโทรทัศน์เกือบ 10 ปี ก่อนจะผันตัวมาเป็นเกษตรกร สานต่อสวนมะม่วงหาวมะนาวโห่อินทรีย์ของคุณพ่อที่ปลูกไว้เพื่อกินบรรเทาอาการเจ็บป่วยของตนเอง
"ตอนเป็นครีเอทีฟ พี่ทำงานเยอะสุขภาพก็ไม่ค่อยดี บวกกับตอนนั้นคุณพ่อป่วย แกเลยอยากกินอะไรที่ทำให้สุขภาพดีขึ้น จนมาเจอว่ามะม่วงหาวมะนาวโห่มันช่วยเรื่องเบาหวาน ความดันและไตได้ แกก็เลยลองกิน จากเดิมที่หลังจากฟอกไตจะไม่มีแรง กลายเป็นแกกลับมาลุกเดินได้ ตั้งแต่วันนั้นคุณพ่อเลยตัดสินใจปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ โดยเริ่มต้นปลูกประมาณ 300 ต้น"
หลังจากปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ได้ 2 ปี คุณพ่อก็เสียชีวิตทำให้พี่ปุ๊ตัดสินใจลาออกจากงาน ขายบ้าน และมาสร้างชีวิตใหม่ที่จังหวัดนครพนม สานต่อสวนมะม่วงหาวมะนาวโห่ของคุณพ่อ พร้อมเรียนรู้การแปรรูปเพิ่มมูลค่าผลผลิต จนได้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์มะม่วงหาวมะนาวโห่มากมายไม่ว่าจะเป็น มะม่วงหาวมะนาวโห่แช่อิ่ม มะม่วงหาวมะนาวโห่เชื่อม แยมมะม่วงหาวมะนาวโห่ น้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่ โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดสามารถตอบโจทย์ทั้งด้านสุขภาพของพี่ปุ๊เองที่ป่วยเป็นโรค SLE และช่วยเสริมรายได้อีกด้วย
"ตอนนั้นเป็นช่วงที่มะม่วงหาวมะนาวโห่ให้ผลผลิตเต็มต้น เราเลยคิดว่าจะทำอย่างไรกับมันดี เลยได้มีโอกาสเข้ามาเป็น Young smart farmer ของจังหวัดนครพนม ได้อบรมเกี่ยวกับการแปรรูปผลผลิต การสร้างแบรนด์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ จนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะม่วงหาวมะนาวโห่ ภายใต้แบรนด์ นพรัตน์ ฟาร์ม"
เกษตรวันหยุดที่ "นพรัตน์ ฟาร์ม"
แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันพี่ปุ๊ประสบทั้งวิกฤตโควิดและเศรษฐกิจต่างๆ ค้าขายทางออนไลน์ลำบากและไม่มีรายได้จากการออกบูทจำหน่ายสินค้า ทำให้จากเดิมที่พี่ปุ๊เป็นเกษตรกรนักแปรรูปมะม่วงหาวมะนาวโห่แบบฟูลไทม์ ก็ต้องผันตัวมาเป็นเกษตรกรวันหยุดแทน พร้อมทำงานประจำอื่นควบคู่ไปด้วย
"ตอนนี้พี่มาทำกราฟฟิก แต่สวนก็ยังทำอยู่ ยังขายผลผลิตอยู่ เมื่อไหร่ที่โควิดมันโอเคพี่ก็จะกลับไปทำเกษตร 100% เหมือนเดิม พี่ไม่อยากทิ้งวิชาชีพที่ตัวเองเรียนมา ตอนแรกเราทำสวนอย่างเดียว พอเจอโควิด เจอปัญหาหลายอย่าง ปัญหาฤดูกาล ในช่วงระหว่างที่รอผลผลิตโต เราก็ต้องมีงานทำ เราจะรอจากเกษตรทั้งหมดไม่ได้"
พี่ปุ๊ได้ฝากถึงคนที่อยากเริ่มต้นทำเกษตรว่า ให้พิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจมาทำเกษตร หากมีงานประจำอยู่แล้ว อยากให้ลองมาทำเกษตรวันหยุดเฉพาะเสาร์อาทิตย์ดูก่อน ไม่อยากให้ทิ้งงานประจำมาทำเกษตร 100% เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรที่ผันผวนแทบทุกวัน หรือหากใครที่ทำเกษตรอยู่แล้ว ในช่วงที่รอผลผลิตโต ก็ควรหารายได้เสริมอื่นๆ ไปด้วย และแนะนำให้ทำเกษตรแบบผสมผสาน สร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับตัวเองอย่างการทำ "โคก หนอง นา"
ทำเกษตรยั่งยืนด้วย โคก หนอง นา
บนพื้นที่ 3 ไร่ของนพรัตน์ ฟาร์ม พี่ปุ๊ได้แปลงพื้นที่ตามฉบับโคกหนองนาโมเดล มีการปลูกพืชผักอื่นๆ ควบคู่ไปกับมะม่วงหาวมะนาวโห่ พร้อมทั้งขุดบ่อปลา เลี้ยงกบ เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงหอยเชอร์รี่สีทอง เพื่อเสริมรายได้และสร้างความมั่นคงทางอาหารในช่วงที่ไม่มีผลผลิตหรือไม่ใช่ช่วงฤดูกาลมะม่วงหาวมะนาวโห่ รวมถึงทำคลองไส้ไก่รอบสวน เพื่อให้มะม่วงหาวมะนาวโห่ได้น้ำอย่างเต็มที่และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ไม่ขม พร้อมสู่การแปรรูป
เรื่องราวการทำเกษตรของพี่ปุ๊ คงเป็นแรงบันดาลใจและให้ข้อคิดกับคนที่อยากเบนเข็มมาทำเกษตรกันนะครับ ว่าการทำเกษตรไม่ง่ายเลย อย่างพี่ปุ๊เองก็เจอทั้งปัญหาและอุปสรรคมากมาย การที่เราจะลงใจลงแรงมาทำเกษตรแบบเต็มตัว เราจึงควรศึกษาสิ่งที่จะปลูกให้ดี ศึกษาตลาดของผลผลิตนั้นๆ หรือหากมีงานประจำอยู่ การทำเกษตรวันหยุดก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจและสามารถสร้างรายได้ให้เราเช่นกันนะครับ