เรื่องเด็ดเกร็ดเกษตร

Top 5 สินค้าเกษตรไทย ทำไมนิยมกันทั่วโลก

02 กันยายน 2563
15,800
แผ่นดินไทย แผ่นดินที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เพราะเต็มไปด้วยพื้นที่ทางการเกษตร ผืนดินอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูก ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เมืองไทยมีผลผลิตทางการเกษตร ที่ขึ้นชื่อและส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก วันนี้เราจะมาดูกันว่า 5 อันดับแรกคืออะไร และทำไมถึงนิยมกันทั่วโลก
ข้าว เป็นสินค้าเกษตรที่มีการส่งออกไปยังตลาดอาเซียนสูงเป็นอันดับ 5 ของไทยเลยก็ว่าได้ เพราะข้าวนั้นเป็นสิ่งที่มีความต้องการจากนานาประเทศ เป็นของสำคัญสำหรับมื้ออาหารของพวกเราทุกคน และเหตุผลที่ข้าวได้รับการส่งออกมากขนาดนี้ก็เพราะว่าบางประเทศไม่ค่อยมีพื้นที่ทำการเกษตร และมีประชากรมาก จนไม่สามารถผลิตให้เพียงพอได้ ตัวอย่างเช่นประเทศจีน ที่มีประชากรมากทำให้ข้าวไม่เพียงพอต่อคนอันมหาศาล
ทุเรียน มาถึงผลไม้ขึ้นชื่อที่มีรสชาติดี พร้อมกับกลิ่นหอมที่โด่งดังก้องโลกกันเลยทีเดียว ถือเป็นผลไม้ที่เป็นที่นิยมของชาวจีน รวมทั้งประเทศแถบเอเชียเป็นอย่างยิ่ง ดูจากผลการจัดอันดับสินค้าการเกษตรนั้นกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนไปถึงทางยุโรป เนื่องจากประเทศในทวีปเหล่านั้นเพิ่งเคยลองทานทุเรียนได้ไม่นาน ทำให้พวกเขาติดใจขึ้นมา กลายเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่ชาวต่างชาติชอบ

การที่ทุเรียนไทยมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศเป็นเพราะทุเรียนไทยมีคุณภาพและความอร่อยของแต่ละพันธุ์เป็นเอกลักษณ์และมีความจำเพาะเหนือกว่าทุเรียนที่ผลิตในในอินโดนีเซีย หรือในประเทศฟิลิปปินส์ ทั้งนี้เพราะพันธุ์ทุเรียนที่เพาะปลูกในประเทศไทยมีการพัฒนาการมาอย่างยาวนานโดย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเก็บภาษีที่สวนในอดีตทั้งในสมัยกรุงศรีอยุทธยาและในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยเป็นการเก็บภาษีต่อต้นของผลไม้ ทำให้เกษตรกรที่ทำสวนผลไม้ มีการเก็บและคัดเลือกพันธุ์ที่ดีในการเพาะปลูก เนื่องจากพันธุ์ที่มีคุณภาพดีย่อมจะขายได้ในระดับราคาที่เหนือกว่าพันธุ์ที่ด้อยคุณภาพ
มันสำปะหลัง อีกหนึ่งผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นพืชสำคัญของเศรษฐกิจประเทศไทย สร้างรายได้มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เนื่องจากมีสารอาหารสูงและเป็นที่นิยมของประเทศเขตร้อน อย่างเช่น แอฟริกา อินเดียเป็นอย่างมาก ทำให้พวกเราต้องพึ่งพาในผลผลิตซึ่งกันและกัน เพื่อเติมเต็มความต้องการทางด้านอาหารให้กับประชาชนในประเทศดังกล่าว แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ใช่ประเทศที่ผลิตมันสำปะหลังมากที่สุดในโลก แต่ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังรายใหญ่ที่สุดของโลก ครองอันดับ 1 มาโดยตลอด โดยมีประเทศ เวียดนาม ไนจีเรีย กัมพูชา อินโดนีเซีย และ บราซิล เป็นประเทศผู้ส่งออกรองลงมา ส่วนแบ่งการตลาดของปริมาณผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังส่งออกไปยังตลาดโลก ประมาณร้อยละ 70-80 ของผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังรวมทั้งหมดของโลก เป็นการส่งออกจากประเทศไทย ทั้งนี้เนื่องจากมันสำปะหลังที่ผลิตได้ทั้งในประเทศไนจีเรีย บราซิล และอินโดนีเซีย จะใช้มันสำปะหลังเป็นอาหารหลักบริโภคภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ประมาณร้อยละ 90 ของผลผลิตทั้งหมด ส่วนประเทศไทย มันสำปะหลังไม่ใช่อาหารหลัก จึงใช้บริโภคในประเทศน้อย เพียงร้อยละ 25-30 ของปริมาณผลผลิตที่ผลิตได้เท่านั้น ผลผลิตส่วนใหญ่ร้อยละ70-75 จะส่งออกในรูปผลิตภัณฑ์แปรรูปขั้นพื้นฐาน ได้แก่ แป้งมันสำปะหลัง รวมทั้งมันสำปะหลังเส้นและมันสำปะหลังอัดเม็ด
ยางพารา ถือเป็นสินค้าที่เจาะตลาดต่างประเทศได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากสามารถนำไปแปรรูปต่อยอดเป็นผลผลิตต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย โดยหลักหลักจะแบ่งการส่งออกเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มยางกึ่งสำเร็จรูป เช่น การทำยางเป็นแท่งๆและส่งออก ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือยางสำเร็จรูป เช่น ยางรถยนต์ ท่อยาง หรือถุงยางอนามัย เป็นต้น ทำให้ทุกวันนี้บ้านเรามีอุตสาหกรรมผลิตยางที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

ประเทศไทยเป็นผู้ผลิต และส่งออกยางธรรมชาติ รายใหญ่ที่สุดของโลกมาตั้งแต่ ปี 2534 มีสัดส่วนการผลิตประมาณร้อยละ 30 ของผลผลิตรวมของโลก และมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณร้อยละ 40 ของปริมาณการส่งออกยางธรรมชาติในตลาดโลก ผลิตภัณฑ์ยางพาราที่ไทยส่งออกแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ ผลิตภัณฑ์ยางกึ่งสำเร็จรูปหรือผลิตภัณฑ์ยางแปรรูปขั้นต้น เป็นผลผลิตจากการแปรรูปขั้นต้นจากน้ำยางที่กรีดได้ให้อยู่ในรูปแบบต่าง ๆ ที่จะนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางต่อไป ผลิตภัณฑ์ยางสำเร็จรูป เป็นผลผลิตที่ได้จากการแปรรูปยางขั้นต้น เป็นสินค้าสำเร็จรูปประเภทต่าง ๆ เช่น ยางยานพาหนะ ถุงมือยาง ถุงยางอนามัย สายพาน ท่อยาง ฯลฯ
มังคุด อีก 1 ผลไม้ที่มีความต้องการของประเทศต่างชาติเป็นอย่างยิ่งเพราะมังคุด นิยมปลูกกันในประเทศเขตร้อนทำให้ประเทศแถบยุโรปอย่างเช่น ประเทศออสเตรเลีย ชอบกินมังคุดเป็นชีวิตจิตใจ แต่เสียดายที่ไม่สามารถเพาะปลูกได้ในประเทศของตน จึงสั่งการส่งออกมังคุดจากประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยมีรายได้จากการส่งออกมังคุดปีละหลายร้อยล้านบาท นอกจากนี้ยังเป็นผลไม้ที่จีนยังไม่สามารถเพาะปลูกได้ในเชิงการค้า อย่างไรก็ตาม มีการริเริ่มปลูกในมณฑลไห่หนานของจีนแต่ได้ผลผลิตไม่มากนัก ทั้งนี้ จีนอนุญาตนำเข้ามังคุดได้จากไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเมียนมาร์ โดยในปี 2557 จีนนำเข้ามังคุดจากไทยมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 93.24 ของปริมาณการนำเข้าจากประเทศต่าง ๆ และเป็นปีแรกที่มีการนำเข้ามังคุดผ่านเส้นทาง R3A อย่างไรก็ตาม ไทยมีแนวโน้มในการส่งมังคุดไปเวียดนามเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 และปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกมังคุดไปเวียดนามมากเป็นอันดับหนึ่ง คาดว่าน่าจะมีมังคุดไทยที่ได้รับการแปลงเป็นมังคุดเวียดนามแล้วส่งต่อเข้าไปยังจีน ทำให้อัตราการส่งออกผลไม้ของไทยไปเวียดนามเพิ่มมากขึ้น และเป็นผลให้ส่งออกไปจีนลดลง
แหล่งอ้างอิงข้อมูล :
ขอขอบคุณ : http://www.thairiceforlife.com/export/ricetype? ,http://www.eastasiawatch.in.th/th/articles/politics-and-economy/302/ ,https://www.freightexpress.co.th/บทความ/สินค้าเกษตรส่งออกของไท-2 ,farmerspace