และแน่นอนว่า หลังจากที่เราได้เส้นไหมมาเพื่อทอเป็นผ้าไหมผืนสวยแล้วนั้น สิ่งหนึ่งที่หลงเหลือไว้ในรังไหมนั่นคือ "ดักแด้" ที่ต้องบอกเลยว่า รสชาติเป็นที่ถูกอกถูกใจหลาย ๆ คนเป็นอย่างมาก ถือเป็นอาหารสุขภาพของคนยุคใหม่ ที่มีโปรตีนสูง ที่สำคัญศูนย์วิจัยและพัฒนาการแพทย์ทางเลือกแบบบูรณาการ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำการวิจัยแล้วว่า ดักแด้ไหมสามารถเพิ่มการเรียนรู้และความจำและสามารถป้องกันภาวะความจำบกพร่องที่พบในโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซม์เมอร์ (Alzheimer's disease) ได้
และยังมีรายงานว่าดักแด้ไหม ได้กลายเป็นอาหารของนักบินอวกาศไปแล้ว เนื่องจากดักแด้ไหมเองนั้นอุดมด้วยโปรตีนที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และนอกจากดักแด้ไหมจะถูกนำไปใช้เป็นอาหารที่ใช้ในการบริโภคทุกวันและอาหารสำหรับมนุษย์อวกาศแล้ว ดักแด้ไหมยังถูกนำมาใช้เป็นอาหารสุขภาพ แต่โบราณในประเทศจีนมีการนำดักแด้ไหมมาใช้เป็นสมุนไพรบำรุงตับ ปอด ใช้ระงับอาการชัก ทำให้สงบ มีฤทธิ์ระงับอาการคัน อาการปวด ในประเทศอินเดียเองก็มีการนำดักแด้ไหมไปเป็นส่วนผสมของยาสมุนไพรรักษาความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือด
และผลงานล่าสุด ต้องยกให้เป็นผลงานนวัตกรรมชิ้นเอก นั่นก็คือ "ซุปก้อนปรุงรสจากหนอนไหม" ที่ผลิตจากกากหนอนไหมเหลือทิ้งในกระบวนการผลิตไหม นำมาพัฒนาเป็นซุปก้อนปรุงรส เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับอาหารประเภทต่างๆ ที่สำคัญคือไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล และปราศจากโมโนโซเดียมกลูตาเมทหรือผงชูรสอีกด้วย...ว้าวววว
"กากหนอนไหม" วัตถุดิบที่เหลือทิ้งในกระบวนการผลิต อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินบี 1 และ 2 และเกลือแร่หลายชนิด รวมถึงมีกรดไลโนเลอิคและกรดไลโนเลนิค ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นมีประโยชน์ต่อร่างกาย "ซุปก้อนปรุงรสจากกากหนอนไหม" ได้รับการพัฒนาคิดค้นเพื่อใช้ประโยชน์จากกากหนอนไหมที่เหลือทิ้งในกระบวนการผลิตไหม โดยนำมาพัฒนาเป็นซุปก้อนปรุงรสสำหรับเพิ่มรสชาติให้กับอาหารประเภทต่างๆ ไม่มีส่วนผสมของโมโนโซเดียมกลูตาเมนหรือผงชูรส มีรสหวานจากธรรมชาติ ไม่ใส่น้ำตาล ช่วย ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ยังรอการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีร่วมกับผู้ประกอบการที่สนใจก่อนผลิตเพื่อลงทุนในเชิงพาณิชย์ต่อไป หากเกิดขึ้นได้จริงต้องบอกว่า นี่ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมเลี้ยงไหม รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงไหมได้อีกทางหนึ่งด้วย
"กากหนอนไหม" วัตถุดิบที่เหลือทิ้งในกระบวนการผลิต อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินบี 1 และ 2 และเกลือแร่หลายชนิด รวมถึงมีกรดไลโนเลอิคและกรดไลโนเลนิค ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นมีประโยชน์ต่อร่างกาย "ซุปก้อนปรุงรสจากกากหนอนไหม" ได้รับการพัฒนาคิดค้นเพื่อใช้ประโยชน์จากกากหนอนไหมที่เหลือทิ้งในกระบวนการผลิตไหม โดยนำมาพัฒนาเป็นซุปก้อนปรุงรสสำหรับเพิ่มรสชาติให้กับอาหารประเภทต่างๆ ไม่มีส่วนผสมของโมโนโซเดียมกลูตาเมนหรือผงชูรส มีรสหวานจากธรรมชาติ ไม่ใส่น้ำตาล ช่วย ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ยังรอการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีร่วมกับผู้ประกอบการที่สนใจก่อนผลิตเพื่อลงทุนในเชิงพาณิชย์ต่อไป หากเกิดขึ้นได้จริงต้องบอกว่า นี่ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมเลี้ยงไหม รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงไหมได้อีกทางหนึ่งด้วย