เกษตรกรต้นแบบ

"ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ : เกษตรกรคือความภูมิใจ คือรางวัลยิ่งใหญ่ในชีวิต"

 05 พฤศจิกายน 2561 4,315
จ.พิจิตร
การตลาดต้องนำหน้าการผลิต
โดยส่วนใหญ่เกษตรกรไทย
มักจะทำอะไรตามๆ กัน
สิ่งสำคัญที่ควรทำ
คือหาตลาดรองรับ แล้วจึงปลูก
จึงจะสามารถทำการเกษตรรอด
และยึดเป็นอาชีพได้

ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ เจ้าของสวนคุณลี พันธุ์ไม้แปลกและหายาก

สวนคุณลีของคุณทวีศักดิ์ เกิดขึ้นเพราะ เขาอยากให้งานเกษตรบ้านเรามีความก้าวหน้าไม่แพ้ต่างประเทศ นับเป็นความฝันสูงสุดของเขาเลยทีเดียว อย่างน้อยก็ให้สู้ไต้หวันได้ หรือให้เอาแบบไต้หวันมาใช้กับบ้านเราได้ เพราะการเกษตรบ้านเราในมุมของเขานั้นไร้ทิศทาง เขาจึงต้องปลูกที่มันแปลกกว่าคนอื่น

แต่ถึงแม้วันนี้ การเกษตรบ้านเราจะยังไม่ไปถึงจุดที่เขาต้องการ แต่สิ่งที่เขาได้ในวันนี้ ตอนนี้ คือ ความสุข สุขที่ได้เห็นอะไรใหม่ๆตลอด อย่างวันนี้ เพราะเสร็จรายการนี้ผมก็จะไปดูแล้เดี๋ยวก็ไปดูมะม่วงนั้นมันเป็นอย่างที่เราคิดไหม สับปะรดที่เตรียมพันธุ์ไว้จะเป็นอย่างไร ชีวิตมันตื่นเต้นตลอด และเขาเชื่อว่าถึงแม้โลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร คนก็ต้องอยู่ที่เกษตรกรรม ทุกคนต้องกินถึงแม้เทคโนโลยีจะไปไกลขนาดไหน เขาว่าเรื่องเกษตรกรรมเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด เขาเลยซื้อที่มากขึ้น เอาไว้ทำในสิ่งที่อยากทำใหม่ๆ และนั่นก็คือความสุขของเขา

หลักคิดในการใช้ชีวิต
เหตุที่เขามาทำสวนคุณลี ไม่ใช่การตั้งต้นจากการอยากรวยหรืออะไร แต่เนื่องจากการเดินทางไปทั่วประเทศ ได้พบประสบการณ์หลากหลาย จึงอยากทำศูนย์การเรียนรู้ด้านการเกษตร เพื่อให้บุคคลทั่วไป รวมทั้งเกษตรกรทั่วทุกภูมิภาคได้มาเรียนรู้ เป็นการแลกเปลี่ยนและเพิ่มเติมประสบการณ์ให้ซึ่งกันและกัน

เขาอยากเห็นเกษตรกรเข้มแข็ง อยากเห็นเลยว่าต่อไปนี้เกษตรกรจะต้องเป็นคนกำหนดราคาสินค้าเอง ไม่ใช่พ่อค้ามากำหนด เขาไปไต้หวันได้เห็นภาพเกษตรกรนั่งอยู่บนเวที พวกข้าราชการนั่งอยู่ข้างล่าง แล้วถูกตำหนิว่ากันว่าทำไมคุณไม่ทำโน่นทำนี่ อันนั้นน่าจะเป็นเรื่องสหกรณ์ที่ทำให้เกิดภาพแบบนี้ได้ สหกรณ์ต้องเข้มแข็ง สหกรณ์ที่ไต้หวันเกิดจากการรวมตัวของตัวเกษตรกรเอง มีอำนาจต่อรอง ตั้งแต่ตลาดซื้อสารปราบศัตรูพืชต่างๆนานา แต่ของไทยเราไม่มีอำนาจต่อรองแบบนั้น เขาจึงหวังว่ามันจะมีสหกรณ์หรือองค์กรที่เข้มแข็งแบบนั้นบ้างที่เมืองไทย


สำหรับคนทำงานประจำที่คิดอยากมาเป็นเกษตรกร สิ่งที่เขาอยากฝากไว้ คือ


1. ความตั้งใจ ต้องตั้งใจจริง เพราะระหว่างทางคุณต้องพบอุปสรรคปัญหาต่างๆ แน่นอน หากไม่ตั้งใจจริงอาจล้มเลิกกลางคันได้
2. การเกษตรเหมือนน้ำไม่เต็มแก้ว คุณต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ลองผิดลองถูกตลอด กว่าจะได้องค์ความรู้มา
3. หลักที่สำคัญที่สุด คือ การตลาดต้องนำหน้าการผลิต อย่าทำเกษตรเอาฮือฮาเท่านั้น
4. ต้องไม่มองเชิงบวกมาก ต้องคิดลบ แต่คิดลบนี้ไม่ใช่ว่ามีอคติ อย่าคิดว่ามันจะเป็นอย่างที่เราคิด บางครั้งมันอยู่เหนือการควบคุมของเราจริงๆ อย่างเช่นธรรมชาติ เขาตัวอย่างให้ฟังว่า ตอนที่เขาปลุกพริก มีเจอแมลงปีกขาว มันไม่เคยมีปัญหามาก่อน แล้วมันก็มีแมลงปีกขาวมาลง ก็ต้องหาความรู้ ไปหาวิธีแก้ เพราะฉะนั้นความรู้มันไม่จบ เพราะฉะนั้นก็เลยจะฝากกับเกษตรกรรุ่นใหม่ว่า คนในแต่ละวัยนี่มันสะสมประสบการณ์ไม่เหมือนกัน แต่ว่า ต้องเรียนรู้ และเรื่องการเอาใจใส่นี่เขาให้อันดับ 1 เลยนะ เรื่องตลาดเป็นอันดับ 2

สิ่งที่คุณทวีศักดิ์ยึดถือเสมอในการทำการเกษตรคือ “การตลาดต้องนำหน้าการผลิต” เพราะโดยส่วนใหญ่เกษตรกรไทยมักจะทำอะไรตามๆ กัน เห็นคนอื่นปลูกพืชตัวนี้แล้วกำไรดี ก็เห่อปลูกตามๆ กัน โดยที่ตัวเองไม่ได้หาตลาดรองรับผลผลิตของตัวเองก่อน สิ่งสำคัญที่ควรทำ คือหาตลาดรองรับ แล้วจึงปลูก จึงจะสามารถทำการเกษตรรอด และยึดเป็นอาชีพได้

พืชผักผลไม้แปลกๆที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก

ประวัติและความเป็นมาเกี่ยวกับตัวเกษตรกร
คุณทวีศักดิ์ เรืองชัยยศ มาเป็นเจ้าของสวนคุณลีก็เนื่องจากการที่เขาเป็นคอลัมนิสต์ มีโอกาสพูดคุย ไปดูงานเกษตรในที่ต่าง ๆ ได้เห็นความแตกต่างของการเกษตรในหลายๆ พื้นที่ แล้วก็ทำงานที่เกี่ยวกับมูลนิธิพัฒนาเกษตรกรและชุมชนมาก่อน นอกจากนั้น ยังทำชมรมเผยแพร่ความรู้ทางด้านการเกษตร เก็บสะสมความรู้มานาน ก่อนที่สวนคุณลีจะเกิดขึ้น

คุณทวีศักดิ์จบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้านเคมี แต่ด้วยประสบการณ์ที่ทำงานคลุกคลีกับวงการเกษตรมา ไม่น่าจะต่ำกว่า 30 ปี ด้วยการเป็นคอลัมนิสต์ ซึ่งตอนนี้ก็ยังทำอยู่เขียนให้ทั้งเดลินิวส์และมติชน ประสบการณ์ต่างๆ คือจุดที่สร้างให้เปลี่ยน ด้วยเพราะเขาได้ไปสัมผัสกับเกษตรกรทั่วไป เข้าไปในพื้นที่การเกษตรต่าง ๆ ทั่วประเทศและในต่างประเทศ จึงคิดฝันเหมือนกับคนทั่วไปว่าอยากเป็นเกษตรกร แต่สิ่งที่เขารู้สึกว่าเขามีเหนือกว่าเกษตรกรทั่วไปคือ มีความรู้ มีผู้สนับสนุน และเพราะทั้งสองอย่างนี่เอง เขามาทำสวนโดยไม่ต้องกู้เงินสักบาทเดียว

จากการได้ไปเห็นพื้นที่การเกษตรทั่วประเทศ ทำให้เขาอยากมีศูนย์เรียนรู้ และขายต้นไม้ด้วย เป็นทั้งศูนย์เรียนรู้ที่เป็นสวนเปิด ใครจะเข้ามาหาความรู้ก็ได้ ไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีทำงานเชิงธุรกิจไปด้วยในเวลาเดียวกัน เขามีต้นทุนที่ได้รู้จักชาวสวนทั่วประเทศ ตอนไปสวนส้มธนาธรตอนนั้นเขายังมีที่ดินอยู่เพียง 30 ไร่ ก็บอกเขาว่าอยากปลูกส้ม จะไปเอากิ่งแท้ได้ที่ไหน ทางสวนส้มก็จัดมาให้เลย 2,000 กิ่ง ซึ่งถือเป็นทุกขลาภ เพราะว่าดูแลยากมาก ทั้งสภาพอากาศทั้งการจัดการ ทำไปได้ 4-5 เดือน ผิวส้มแตกเพราะเปลือกมันบาง แม้มันจะอร่อยมากก็ตามที แต่ไม่คุ้มกับการลงทุน พอปี 2554 น้ำท่วม สวนส้มไปหมดเลยทั้ง 2,000 ต้น สำหรับเขาในตอนนั้นถือว่าเป็นโชคดี

พอน้ำท่วมเขาก็ไปดูงานต่างประเทศ ทั้งออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ได้มันมาเพาะและส่งขายห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ หลังจากนั้นก็ไปเอาชมพู่สตรอเบอรี่ ฟริค และไม้หน้าตาแปลก ๆ มาปลูกขาย ตอนนี้เขามีพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด 85 ไร่ ที่นำไม้แปลกๆ มาปลูก ในขณะเดียวกันก็เขียนหนังสือไปด้วย

เส้นทางสายเกษตร...
การเริ่มต้นของคุณทวีศักดิ์ดูแล้วก็อาจจะเหมือนเกษตรกรทั่วไป คือทำสวนแบบเชิงเดี่ยว เริ่มจากชอบผลไม้ชนิดไหนก็ปลูกผลไม้ชนิดนั้น แต่หลังจากที่ไปดูงานหลายที่ ทั้งต่างประเทศและในประเทศ จึงคิดว่าเอาจุดที่คนมาดูแล้วเห็นว่าเราแตกต่างจากที่อื่นดีกว่า จึงนำไม้พันธุ์แปลก ๆ เข้ามา แล้วก็มายึดหลักการตลาด คือสร้างตลาดเอง จะไม่ทำพูดตามคนอื่น

บรรยากาศภายในสวนคุณลี

การทำสวนครั้งแรกของคุณทวีศักดิ์ต้องมีคนดูแล เพราะว่าตัวเขาเองทำงานหลายอย่าง แต่ตัวเขาเองก็เข้ามาดูด้วย เพราะคนที่เป็นเจ้าของสวนต้องรู้ว่าอะไรเป็นอะไร พืชตัวแรกที่เขาปลูก คือ ส้มโชกุน อันนี้ปลูกเพราะใจรัก แต่พอปลูกไปสัก 2 – 3 ปี ก็เริ่มมีปัญหา ในขณะที่มีปัญหา ก็ยังไม่สามารถไปโค่นมันทิ้งได้ เพราะว่ายังไร้ทิศทาง ส้มยังให้ผลผลิตได้ไม่เต็มที่ ขณะเดียวกันเขาก็เริ่มซื้อที่เพิ่มเติม ต่อไปก็ไม่ปลูกส้มแล้ว ก็มาปลูกมัน ไปออสเตรเลียเห็นมันเทศก็เอามันเทศมาปลูก ไปที่ไหนเห็นมะม่วง ก็เอามะม่วงมา แหล่งนี้เป็นแหล่งที่ปลูกมะม่วงมาก เขาทำงานกับมะม่วงมานานก็ปลูกมะม่วง มีพันธุ์น้ำดอกไม้ แต่สุดท้ายทำสวยสู้เกษตรกรจริงๆ ไม่ได้ เพราะว่าด้วยสภาพพื้นที่ที่มันชื้น มันต้องห่อถึงจะสวย ไม่ห่อแล้วไม่สวยขายไม่ได้ ทุกวันนี้มะม่วงทั้งหมดเขาจึงเปลี่ยนมะม่วงเป็น พันธุ์ r2e2 ทั้งสวน ถือเป็นพืชหลักอยู่

ในช่วงเริ่มแรกส่วนคุณลีมีรายได้น้อยมาก ถ้าหวังจากผลผลิตมันไม่ได้อะไรเท่าไร ถือว่าน้อย จะมาได้ก็ตรงได้เพราะพันธุ์พืช ทำเมล็ดพันธุ์ ที่พอเลี้ยงคนงานได้ ทุกวันนี้สวนคุณลีก็เลี้ยงคนงานได้ เพราะที่นี่เริ่มต้นแบบไม่ได้กู้เงินเลย พอไม่กู้ เงินมันก็ไม่มีภาระ แต่คุณทวีศักดิ์ไม่ท้อ เพราะเขามีอาชีพคอลัมนิสต์ควบคู่อยู่ จึงไม่ทำให้เดือดร้อน

หนึ่งในสามพืชเศรษฐกิจของโอกินาว่า คือ มะระขี้นกยักษ์โอกินาว่า

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ หมู่ที่ 2 บ้านดงชะพลู ตำบลคลองคะเชนทร์ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร

สวนคุณลี ศูนย์รวมไม้ผล ไม้แปลกและไม้หายาก

วิธีเก็บเมล็ดพันธุ์มะระขี้นกโอกินาว่า ให้อยู่ได้นานกว่า 2 ปี

เรื่อง/ภาพโดย: ณัฏฐ์ คำวิชัย ทีมงานรักบ้านเกิด