เกษตรกรต้นแบบ

"เรณู สุขเนตร : ปลูกดอกมะลิ ร้อยมาลัยชีวิต"

 17 ตุลาคม 2561 5,369
จ.นครปฐม
คำที่มีอยู่ในใจเสมอ
คือ สู้ สู้ไปเรื่อยๆ
เพราะเชื่อว่าสักวันต้องสำเร็จ
ต่อให้วันข้างหน้าไม่ได้ปลูกมะลิ
ก็ยังจะสู้อยู่ดี

เรณู สุขเนตร เกษตรกรผู้ปลูกมะลิส่งดอกขาย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

การทำสวนมะลิของคุณเรณูนั้น สร้างความภูมิใจให้เจ้าตัวมากทีเดียว เพราะมะลิสวนนี้เป็นความภูมิใจ สุขใจที่ได้ตื่นขึ้นมาเห็น เมื่อต้นมะลิเจริญเติบโต เมื่อดอกมะลิผลิบาน เสมือนชีวิตของคุณเรณูได้ผลิบานไปพร้อมกันด้วย มันหมายถึงการมีเงินมาเลี้ยงครอบครัว เลี้ยงพ่อแม่ เลี้ยงลูกสองคน และคนงานอีกสิบชีวิต

สวนมะลิเป็นเสมือนตัวแทนของความฝันที่ลงมือทำแล้วเกิดเป็นภาพจริงตรงหน้า คุณเรณูบอกว่าตอนแรกฝันอยากทำโน่นทำนี่ รวมทั้งสวนมะลิด้วย แต่สำหรับสวนมะลิเมื่อลงมือทำแล้วมันเหมาะกับคุณเรณูด้วย เหมาะที่จะเป็นอาชีพของเธอ เป็นสิ่งที่ทำแล้วไม่เหนื่อย ไม่ท้อ วันไหนมะลิราคาถูกก็สู้ สู้ไปเรื่อยๆ เพราะเชื่อว่าสักวันจะสำเร็จ และวันนี้ สวนมะลิก็เป็นความสำเร็จดั่งตั้งใจของคุณเรณู

หลักคิดในการใช้ชีวิต

การเกษตรต้องทำด้วยใจรัก ต้องนึกอยู่เสมอว่าเราทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีลูกจ้างหรือคนงาน ต้องมีใจรัก ต้องหมั่นศึกษาเรียนรู้ และเข้าใจได้ว่ามะลิต้องการอะไร คนที่อยากกลับมาปลูก ให้เริ่มปลูกทีละเล็กทีละน้อยก่อน พอเราทำได้ ค่อยขยายไปเรื่อย ๆ ในช่วงต้นๆ หากท้อแท้ก็ขอให้สู้ต่อไป

ในส่วนของคุณเรณูนั้น เมื่อท้อแท้ ก็นึกเสมอว่าเรามีครอบครัวอยู่ข้างหลัง มีพ่อ มีแม่ มีลูกอีกสองคนจึงท้อไม่ได้ ต้องเข้มแข็งเท่านั้น

คำที่คุณเรณูมีไว้ในใจเสมอ คือ “สู้” สู้ไปเรื่อย ๆ เพราะเชื่อว่าสักวันต้องสำเร็จ และเพราะการสู้ไม่ถอยของคุณเรณูนี้เอง ทำให้กว่าสิบปีที่ผ่านมา สวนมะลิแห่งนี้ได้เลี้ยงดูครอบครัวของเธอ ส่งเสียให้ลูกของเธอเรียนจนจบปริญญาตรี เลี้ยงดูครอบครัวคนงานอีก 10 ชีวิต และคุณเรณูยังย้ำอีกว่า ต่อให้วันข้างหน้าไม่มีมะลิ เธอก็ยังสู้ไม่ถอยอยู่ดี

ดูแลมะลิทุกต้นด้วยใจรัก และภูมิใจ

ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับตัวเกษตรกร

งานแรกของแต่ละคน ใช่ว่าจะเป็นงานที่ประสบความสำเร็จเสมอไป ต้องมีโอกาสได้ลองผิดลองถูกกันบ้าง คุณเรณู สุขเนตร เกษตรกรสวนมะลิก็เช่นกัน

คุณเรณูจบชั้นประถมศึกษา และมาทำงานด้านการเกษตรเลย โดยเริ่มแรกทำสวนผัก ปลูกพริก ปลูกผักหวาน ปลูกผักมะเขือ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็เลยคิดว่าจะทำอะไรดีให้รายได้ดีกว่าเดิม ก็เลยเห็นว่าเกษตรกรแถวนี้เขาปลูกดอกไม้ไปขาย ผลผลิตก็ดี มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ก็เลยตัดสินใจลองทำดู โดยเริ่มจาก 5 ไร่ ก่อน แล้วก็ลองผิดลองถูกอยู่พักหนึ่ง ประมาณหนึ่งปี ถึงจะทำแล้วได้ผลผลิตดี จึงนำไปขายเองที่ตลาด ก็เห็นว่าธุรกิจนี้ดี สามารถทำต่อยอดได้ จึงทำเพิ่มอีก 5 ไร่ และเพิ่มไปเรื่อยๆ จนตอนนี้มีประมาณ 23 ไร่ ที่เป็นสวนมะลิ โดยมีพันธุ์เพชร 10 ไร่ พันธุ์ปทุมธานีอีก 13 ไร่ ปลูกคู่กันไป โดยที่พันธุ์เพชร ดอกจะแหลมยาว ถ้าดอกพันธุ์ปทุมจะอ้วนกลม แล้วน้ำหนักจะดีกว่าพันธุ์เพชรบุรี

เมื่อเริ่มทำ คุณเรณูต้องศึกษาเอง ทดลองเอง อยู่ประมาณ 2 ปี หลังจากปลูกไปตอนแรกขาดทุน หลังจากนั้นเริ่มมีประสบการณ์มากขึ้น ก็เริ่มขยายจาก 5 ไร่ เป็น 10 ไร่ พอเริ่มจาก 10 ไร่ ปลูกได้ปีกว่าๆ เกิดวิกฤติการณ์น้ำท่วม ปลายปี พ.ศ. 2553 ขึ้นปี 2554 หลังจากนั้นก็หยุดไปอีกสามเดือนแล้วจึงได้กลับมาทำใหม่ และย้ายจากที่เดิมมาอยู่ตรงที่ปัจจุบันจนถึงทุกวันนี้

ส่วนองค์ความรู้ที่ได้มาตอนแรก คุณเรณูอาศัยดูจากที่คนอื่นทำ ไปดูเขาทำ เมื่อมาทำเอง เริ่มแรกก็ไปกู้ธนาคารมาลงทุน โดยที่ต้องเริ่มทุกอย่างใหม่หมด ต้องเผชิญปัญหาเริ่มแรกในการปลูกมะลิ คือพวกศัตรูพืช หนอน แมลง หน้าแล้งจะมีเพลี้ยไฟ ไรแดง แล้วก็หนอนแมลง ถ้าช่วงฝนตก หนอนแมลงก็จะขึ้นไปกัดกินดอกมะลิ วิธีแก้ไขปัญหาแมลงก็คือจะต้องฉีดยา แล้วเก็บดอกที่เสียทิ้ง เก็บใบออก การเด็ดใบออกก็คือเด็ดใบแก่ออกเพื่อจะได้ดูแลง่าย เด็ดทิ้งให้เหลือแต่ดอก แล้วก็เด็ดดอกที่เสียออก และใช้ยาฆ่าแมลงทั้งที่เป็นเคมีและชีวภาพ ช่วงที่ต้องฉีดยาฆ่าแมลง คือช่วงหน้าฝน เพราะช่วงนั้นจะมีหนอนรบกวนเยอะ แล้วก็ช่วงที่น้ำค้างลงในหน้าหนาว แต่ถ้าหน้าแล้งไม่ต้องฉีดยา

เมื่อเริ่มทำสวนมะลิ ปัญหาส่วนมากที่คุณเรณูเจอ จะเกิดขึ้นมาจากแมลงแล้วก็หนอน เพราะว่าถ้าฝนตกเยอะ อากาศชื้น ก็จะมีหนอนและแมลงมารบกวนดอกมะลิ แต่ถ้าเป็นหน้าแล้ง อากาศไม่ชื้น ฝนไม่ตกอากาศแบบนี้ไม่ต้องลงทุนและไม่ต้องทำอะไรเลย มะลิจะมีดอกให้เก็บทั้งปี แต่ราคาก็จะถูก การลงทุนต่อไร่นั้น ช่วงที่ปลูกใหม่ต้องเตรียมดิน ขุดร่องแบบทั่วไป คือแบบร่องต่อ 5 ไร่ มีทั้งตั้งคันล้อม ยกร่อง ตักดิน ไถดิน เตรียมดิน และปลูกกิ่งลงไป

จาก 5ไร่ เป็น 10ไร่ และ 23ไร่ในปัจจุบัน

การดูแลรักษาไปจนมะลิเก็บได้ก็ประมาณ 200,000 บาท มะลิจะเก็บได้เต็มที่ก็ประมาณตอนต้นใหญ่ ต้องดูแลรักษากันประมาณ 7 เดือนหลังจากปลูกไป

การดูแล ไม่ต้องประคบประหงมมาก เพราะว่าเป็นพืชที่มีความแข็งแรง ปลูกแล้วอยู่ได้นาน ถ้าไม่ไปฟันต้นทิ้งหรือทำอะไรก็จะอยู่ไปได้ประมาณ 10 กว่าปี หรือจะอยู่ไปจนขนาดว่าไม่มีดอกเลย แก่แห้งไปเองเลย ประมาณ 10 กว่าปี แต่ที่สวนนี้เจอน้ำท่วม ตอนที่ปลูกช่วงนั้น ก็เลยต้องปลูกใหม่ จากที่ปลูกหลังจากน้ำท่วมจนถึงปีนี้ก็ประมาณ 6 ปี

ส่วนเรื่องการตลาดนั้น คุณเรณูปลูกเองขายเอง ไปขายที่ปากของตลาด ที่ตลาดยอดพิมาน ขายเองประมาณเจ็ดปีแล้ว ที่ไปขายเองทุกวันเพราะการส่งพ่อค้าคนกลางจะถูกกดราคา ได้ราคาที่ไม่ได้มาตรฐาน เลยตัดสินใจทำเอง เพราะการลงทุนมันสูง ยังต้องใส่ยา ใส่ปุ๋ย เลยยังต้องทำเองทำเองขายเอง

ราคาโดยทั่วไป ในฤดูร้อน จะอยู่ที่ประมาณลิตรละ 50 บาทถึง 100 บาท ถ้าราคาเป็นกิโลก็ประมาณ 100 ถึง 150 บาท จะอยู่ที่ราคานี้ไปหลายเดือน แล้วหลังจากนั้นจะมีช่วงดี คือ ช่วงเทศกาลวันต่างๆ เช่นพวกตรุษจีน เข้าพรรษา ออกพรรษา สารทจีน วันแม่ วันพ่อ ช่วงเทศกาลแบบนี้ ราคาจะแพงตามท้องตลาด แต่แพงที่สุดจะอยู่ในช่วงหน้าหนาว คือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน จนถึงธันวาคม ราคาจะสูง กิโลกรัมหนึ่งประมาณเป็นพันๆ แต่ผลผลิตในสวนจะไม่ค่อยมีดอก ผลผลิตน้อยเป็นช่วงที่มะลิไม่ค่อยออกดอก ถึงราคาดี แต่ก็มีขายไม่เยอะ

มะลิจะให้ดอกทุกฤดู ช่วงเทศกาลจะมีราคาสูง โดยเฉพาะวันแม่ ราคาจะสูงมาก

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

คุณเรณู สุขเนตร
5/3 ม.4 ต.บางพระ
อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
73120

คุณเรณู สุขเนตร กับสวนมะลิ ปลูกเอง ขายเอง สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว

เทคนิคการทำให้ดอกมะลิสะอาด แข็งตัว กรอบ ง่ายต่อการร้อยพวงมาลัย

เรื่อง/ภาพโดย: ณัฏฐ์ คำวิชัย ทีมงานรักบ้านเกิด