เกษตรกรต้นแบบ

"ลิ้ม บัวรอด : ส่งลูกเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยการปลูกข่าออร์แกนิค"

04 กันยายน 2561

4,031

จ.สมุทรปราการ

ชีวิตที่มีความสุข
คือ ชีวิตที่ไม่เป็นหนี้เป็นสินใคร
ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
เลี้ยงปลา ปลูกข่าออร์แกนิคส่งลูกเรียน
จนถึงวันนี้ส่งลูกเรียนจบ
ทำงานกันหมดแล้ว
ถือเป็นความภูมิใจของมาก

ลิ้ม บัวรอด เกษตรกรคนเก่ง ปลูกข่าออร์แกนิค จากจังหวัดสมุทรปราการ

ชีวิตที่มีความสุข คือ ชีวิตที่ไม่เป็นหนี้เป็นสินใคร ...แล้วป้าลิ้ม บุญรอด ก็ได้ชีวิตแบบนี้ไปครอง....

ป้าลิ้มเริ่มต้นการเป็นเกษตรกรด้วยการเลี้ยงปลาเป็นอาชีพหลัก โดยเริ่มที่ปลาสลิด กุ้ง หลังจากนั้นก็มาปลากะพงขาว โดยปลูกข่าเป็นอาชีพเสริมจนสามารถส่งลูกเรียนจบมหาวิทยาลัย ตอนนี้ลูกคนโตเป็นครู ลูกชายคนเล็กเป็นช่าง ป้ายังคงทำงาน มีเงินซื้อกับข้าวกิน แค่นี้ป้าก็สุขใจและภูมิใจกับอาชีพเกษตรกรของตนแล้ว ส่วนลูกจะมาสืบทอดงานของป้าลิ้มหรือไม่ ป้าลิ้มให้เป็นเรื่องของลูก ๆ ที่ตัดสินใจกันเอง แต่ป้าลิ้มภูมิใจกับงานที่ป้าทำเสมอ และหากใครที่อยากกลับมาทำงานที่บ้านเกิด หากมีปัญหาสิ่งใด ป้าลิ้มยินดีให้ตำตอบ ให้คำแนะนำทุกประการ มาถึงที่ได้เลย

การทำการเกษตรนั้น ต้องใจเย็น ขยัน อดทน เมื่อมีปัญหาสิ่งใดเกิดขึ้นให้อดทน และค่อย ๆ แก้ไขไป ไม่ต้องรีบร้อน ทำทีละเล็ก ทีละน้อย ๆ ค่อย ๆ ขยาย แล้วมันจะแก้ได้เอง ในบางครั้งเมื่อมีปัญหากับผู้อื่น ต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้บ้าง แล้วมันจะผ่านไป จะไปลงรายละเอียดกับทุกเรื่องไม่ได้

ป้าลิ้มฝากถึงคนรุ่นใหม่ด้วยว่า หากจะมาทำการเกษตร ต้องสู้ ต้องอดทน และใจเย็นเท่านั้น ความใจเย็นจะช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้คลี่คลายได้

ป้าลิ้ม บัวรอด เกษตรกรผู้เลี้ยงปลา และยึดอาชีพปลูกข่าขายเป็นอาชีพเสริม จนส่งลูกเรียนจบมหาวิทยาลัยและมีงานทำเลี้ยงตัวเองได้ แต่ป้าลิ้มก็ยังสุขใจ ภูมิใจกับการทำงานของป้าเช่นเคย และยังไม่คิดจะหยุดทำ ป้าลิ้มในวัย 54 ปี เริ่มปลูกข่าเป็นอาชีพเสริมตั้งแต่ราว 30 ปีที่แล้ว ป้าลิ้มเรียนไม่สูง เพราะพ่อแม่ไม่ให้ไปไหน ผู้หญิงต้องอยู่บ้าน ไปไหนไม่ได้ คุณพ่อของป้าลิ้มเชื่อแบบคนสมัยก่อนว่า เป็นผู้หญิงจะเรียนไปทำไม เดี๋ยวก็ต้องมีครอบครัว ต้องเลี้ยงลูกแล้ว เมื่อเรียนจบชั้นประถมจึงมาช่วยพ่อทำการเ

ข่า เป็นสมุนไพรและเครื่องครัวที่สำคัญ

เมื่อก่อนเป็นเกษตรกรเลี้ยงปลา เลี้ยงกุ้ง โดยตอนแรกเลี้ยงปลาสลิด แล้วก็มาเลี้ยงกุ้ง ตอนนี้เลี้ยงปลากะพงขาว ส่วนข่าก็ทำมาตั้งแต่คุณพ่อของป้าลิ้มยังอยู่ ปลูกตรงคันบ่อ ทั้งข่า ทั้งตะไคร้ ทำกันเองไม่ได้จ้างใคร บนพื้นที่กว่า 27 ไร่

ป้าลิ้มบอกกับเราว่า... การปลูกข่านั้นไม่ยากเลย แค่ขุดหลุม เอาข่าใส่หลุม พรวนดินกลบเท่านั้น หลังจากนั้น ก็ดูแล โดยพรวนดินไป รดน้ำบ้าง พอเป็นต้นแล้วก็ปล่อยได้ เพราะข่าไม่ต้องการน้ำมาก ส่วนเรื่องแมลง เรื่องโรค ก็ดูแลบ้างตามช่วงฤดู หน้าฝนต้องระวังเรื่องแมลง หน้าแล้งไม่มีอะไร

ด้านการตลาด จะมีแม่ค้ามารับซื้อที่บ้าน ไม่เคยต้องออกไปส่ง ทั้งจากตลาดไท ตลาดสี่มุมเมืองก็มาที่บ้านกันหมด เหตุที่เขามาที่บ้าน เพราะป้าลิ้มได้ใบ GAP ทำให้มีรายชื่ออยู่บนอินเตอร์เน็ต จึงเป็นที่รู้จัก เขาจึงตามมาซื้อ แต่การขายของป้าจะอยู่ที่พ่อค้าคนกลาง ราคาจึงเป็นไปตามที่พ่อค้าคนกลางกำหนด ซึ่งตอนนี้อยู่ที่กิโลละ 20 - 21 บาท ป้าจะมีขายทุกวัน วันละประมาณ 50-60 กิโลกรับ แต่ถ้าเป็นของกลุ่ม ก็ราวๆ 500 - 600 กิโลกรัมต่อวัน

" กลุ่มของป้าลิ้มตอนนี้มีอยู่ ประมาณ 8 - 9 คน ทุกบ่าย 2 เขาก็จะมาส่งข่ากันที่บ้านป้า "

ข่าที่ป้า และกลุ่ม ปลูกเป็นข่าพันธุ์ดั้งเดิม ซึ่งเป็นพันธุ์โบราณ แต่เริ่มเอาพันธุ์ใหม่มาแซมบ้าง แต่รอว่าผลจะเป็นอย่างไร พันธุ์ใหม่ ก็มี พันธุ์หัวใหญ่ พันธุ์หน่อแดง พันธุ์หัวใหญ่หน่อไม่แดง เป็นต้น

เทคนิคการทำให้ข่าขาว ขายได้ราคาดี

การปลูกข่าก็เริ่มจาก ขุดหลุม แล้วเอาพันธุ์ข่าที่จะปลูกมาใส่หลุม พรวนดินให้รอบ รดน้ำพรวนดินแล้วจึงนำหญ้ามากลบไม่ให้ดินแห้ง ปุ๋ยจะใส่เมื่อตอนขุดเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็พรวนดิน ใส่ปุ๋ยแล้วก็เอาใบกลบ สักพักก็มาขุดใหม่อีกครั้งหนึ่งถึงจะใส่ปุ๋ยอีกทีหนึ่ง

ปุ๋ยที่ใช้เป็น สูตร 13-13-21 สูตร สูตรใส่หัวมัน และก็มีปุ๋ยอินทรีย์ด้วย เมื่อปีที่แล้วมีทางราชการเอาปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ดมาแจก ซึ่งใช้ได้ดี ทำให้ดินแดงร่วนดี แต่มันหายาก พอเขาไม่เอามาแจกก็ไม่ได้ใช้ ส่วนปุ๋ยเคมีป้าลิ้มใช้บ้าง แต่ไม่เยอะ เมื่อเราให้อาหารดิน พรวนดินจนร่วนแล้ว ข่าที่ได้จะอวบ แต่ตรงไหนที่ดินไม่ร่วนข่าจะคุณภาพไม่ดี คุณภาพข่าขึ้นอยู่ที่ดินด้วย แม้ในร่องเดียวกัน แต่ดินไม่เหมือนกัน คุณภาพข่าก็ต่างกัน

การปลูกข่าของป้านั้น สำหรับป้ามันดีกว่าพืชอื่น ตรงที่ไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย ไม่ต้องฉีดยาฆ่าแมลงเหมือนพืชอื่นๆ การดูแลง่ายไม่ซับซ้อน

เกียรติประวัติ :ใบรับรอง GAP ปลอดสารพิษ

ป้าลิ้มเลือกปลูกข่าแบบออร์แกนิค ปลอดภัย มีใบรับรอง ตลาดต้องการ