"ปานศิริ ปาดกุล : ปูชุบชีวิต"

มีความสุขอยู่กับครอบครัวอยู่กับพ่อกับแม่ มีความสบายใจ และยิ่งไปกว่านั้นเขาภูมิใจที่ตัวเขาเองสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ ทำให้ชีวิตครอบครัวไม่ลำบาก และอาจจะเรียกได้ว่าสุขสบายขึ้นมากทั้งกายและใจ และตั้งใจจะต่อยอดการสร้างผลิตภัณฑ์ปูไปเรื่อย ๆ เพราะว่าปูนาไม่ได้อยู่แค่ขายเป็นกิโลหรือปูดอง มันสามารถแปรรูปได้หลายอย่างมาก และเขากำลังโกอินเตอร์ไปกับปูนาของเขาอีกด้วย

ปูนาสามารถผสมพันธุ์เทียมได้ มีขายตลอดปี

เป็นเจ้าของฟาร์มปูนานี้ได้อย่างไร...
จ้าของฟาร์มปูนา คนนี้ คือ คุณปานศิริ ปาดกุล มีชื่อเล่นว่า ตูมตาม ด้วยวัยเพียง 25 ปี ตอนนี้เขาเป็นเจ้าของฟาร์มที่ประสบความสำเร็จแล้ว เขาเริ่มมาเป็นเจ้าของฟาร์มปูนานี้ได้อย่างไร

เริ่มแรกคุณปานศิริ หรือ คุณตูมตามทำงานโรงงาน จนกระทั่งคุณพ่อของเขาประสบอุบัติเหตุ จึงได้กลับมาอยู่บ้าน มาทำเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกไร่ ปลูกข้าว และด้วยการที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ได้สังเกตเห็นว่าปูนาเริ่มลดลงจากธรรมชาติ เขาก็เลยคิดจะเลี้ยงปู และค่อย ๆ ศึกษามาจนรู้เรื่องปูรอบด้านในวันนี้

แต่กว่าจะถึงวันที่เขาประสบความสำเร็จ เขาต้องเรียนรู้ถูกผิดกับเรื่องของปูมากเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น
ปัญหาเรื่องน้ำ เพราะว่าน้ำ ถ้าเย็นมากเกินไปปูก็จะมีอาการน็อคตาย ซึ่งก่อนที่เขาจะน็อคตาย แขนขาเขาจะหลุด กว่าจะผ่านจุดนี้มาได้ คุณปานศิริหมดปูไปเยอะมากเพราะไม่รู้วิธีการเลี้ยง แต่ตอนนี้ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เพราะว่ารู้แล้วว่าจะเลี้ยงเขายังไง

“จริง ๆ แล้วหลักการง่าย ๆ เราต้องนึกถึงธรรมชาติ มีดิน มีน้ำ มีผัก มีหญ้าก็สามารถอยู่ได้ แต่ปัญหาของดินเมื่อเจอกับน้ำแล้วมันจะทำให้ปูฟอกอากาศไม่ได้ ปูก็จะตายแต่ถามว่าทำไมในธรรมชาติมันอยู่ได้เพราะในธรรมชาติเวลาปูฟอก อากาศไม่ได้มันจะไปหาแหล่งน้ำใสเพื่อฟอกอากาศ ทำให้มันมีชีวิตอยู่ได้ แต่การเลี้ยงระบบปิด การเลี้ยงระบบฟาร์ม มันจะไม่มีพื้นที่มาก ทำให้ปูไม่สามารถฟอกอากาศได้ มันเลยตาย เพราะฉะนั้นผมจึงแนะนำให้เลี้ยงในบ่อปูนดีกว่า เลี้ยงได้เหมือนกันและปลอดภัยจากการที่ปูจะต้องตายด้วยครับผม”

กว่า 3 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้ฟาร์มปูนาของคุณปานศิริโกอินเตอร์แล้ว เพราะว่ามีการส่งออกไปที่ประเทศต่าง ๆ มากมาย และมีลูกค้าเข้ามารับซื้อเยอะมาก ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าปูของคุณปานศิริเลี้ยงในระบบฟาร์มหรือระบบปิด ทำให้ปูมีเนื้อแน่นไม่ฝ่อ พอปูเนื้อแน่น ใคร ๆ ก็อยากทาน ใครๆ ก็นิยม และที่สำคัญปูที่นี่ปลอดจากสารเคมี ไม่มีพยาธิ ไม่มีปลิง ลูกค้าก็เลยให้การตอบรับดี ตอนนี้ลูกค้าของคุณปานศิริมีเกือบทั่วประเทศแล้ว เฉพาะแม่ค้าคนกลาง 40-50 คน แล้ว ซึ่งถือว่าเยอะมาก มีกระจายทั่วประเทศแล้ว และตอนนี้เพิ่งมีส่งไปเกาหลีเป็นชุดทดสอบถ้าผ่าน ก็จะได้รับออเดอร์เพิ่มขึ้นอีกจากประเทศเกาหลี

อีกที่หนึ่ง ที่จะมาดูงานประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้ ก็คือมาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนนี้เขาต้องการผลิตภัณฑ์ที่สามารถแปรรูปได้ ส่งออกได้ ซึ่งตอนนี้ฟาร์มปูนาสามารถแปรรูปได้หลากหลายชนิด อาทิ น้ำพริกมันปู น้ำพริกเผาปูนา กะปิมันปู น้ำพริกผัดปูนา น้ำพริกนรกปูนา ปูดอง ปูเขย่า ก้ามปูขาย เนื้อปู และอีกมากมาย ซึ่งตอนนี้หน้าร้านที่ขายก็เป็นที่บ้านของคุณปานศิริเอง นอกจากนั้นมีลูกค้ามาทดลองชิมแล้วรับซื้อไปขายต่อก็อีกเยอะมากเช่นกัน ซึ่งทำให้รายได้ของคุณปานศิริจากฟาร์มปูนา จะมีรายได้เฉลี่ยวันละ ประมาณ 30,000 บาทในตอนนี้

ท่านใดที่สนใจ ติดตามได้ที่ page ของเขาชื่อฟาร์มปูนานายตูมตาม และทางเพสบุ๊คก็ใช้ชื่อนี้ด้วยเช่นกัน
นอกจากการให้ข้อมูล ความรู้ ข่าวสารเกี่ยวกับการเลี้ยงปูนา สำหรับเรื่องการลงทุนเขาก็ยินดีแบ่งปันข้อมูลด้วยเช่นกัน เมื่อมีคนสนใจถาม เขาจะถามก่อนเลยว่าต้องการเลี้ยงเป็นธุรกิจหรือว่าทดลองเลี้ยง ถ้าจะเลี้ยงเป็นธุรกิจก็ต้องลงปูเยอะหน่อย ซึ่งมันจะต้องมีการลงทุนอยู่ประมาณ 10,000 ถึง 20,000 บาท ถามว่ามันโอเคไหม มันก็โอเค คุ้มกับผลที่ได้รับตอบแทนแน่นอน เพราะว่ามีลูกค้ากลุ่มผู้บริโภคสนใจเยอะมาก ตลาดไม่ตันแน่นอน ถ้าลงทุนเลี้ยงเบื้องต้นก็จะได้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไป รวมถึงการทำบ่อเลี้ยงครบชุด สามารถเลี้ยงได้เลย ส่วนวิธีการเลี้ยงเขาจะบอกอย่างละเอียด มีปัญหาอะไรก็สามารถซักถามทางเฟสทาง LINE ได้เลย

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเปลี่ยนแนวมาทำอาชีพแบบเขา เขาจะแนะนำว่าให้มาศึกษาดูงานที่บ้านเขาก่อน มาเห็นของจริงก่อน มาคุยกันเรื่องการเลี้ยง เรื่องของตลาดด้วย เพราะว่าทุกคนที่เข้ามาส่วนมากจะกลัวเรื่องตลาด แต่เขามีตลาดให้แน่นอน เพราะฉะนั้นอยากจะให้เข้ามาคุยกันก่อน เขาพร้อมจะให้คำแนะนำและเชื่อได้ว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ดี

นายปานศิริ ปาดกุล (ตูมตาม)
ฟาร์มปูนา บ้านเลขที่ 71/2 หมู่ 3
ต.โพทะเล อ.ค่ายบางระจัน
จ.สิงห์บุรี 16150