เกษตรกรต้นแบบ

"ธนพร เอี่ยมสมัย : ความสำเร็จ เกิดจากความไม่ย่อท้อ"

 14 พฤษภาคม 2561 5,883
จ.เพชรบุรี
ทำการเกษตร ใช่ว่ามันจะได้กำไรตลอด
บางทีก็ต้องลองผิดลองถูกไปด้วย ต้องทำด้วยความรัก
ควบคู่กับความอดทน
แล้วสิ่งที่เราทำไว้จะงอกงามให้เห็นเอง

คุณธนพร เอี่ยมสมัย กับสวนผักกูดที่เกิดจากความชอบ จนกลายเป็นอาชีพ

อาชีพเกษตรกร เกิดจากการเรียนรู้ลองผิดลองถูก และทำเป็นประจำจนความรู้นั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ดังเช่นเกษตรกรต้นแบบคนนี้ ที่ล้มลุกคลุกคลานจนกระทั่งมาเจอผักมหัศจรรย์ของดีประจำเมืองเพชร จนขยายกิจการเลี้ยงครอบครัวได้อย่างดี และเมื่อเราทำสิ่งใดได้ดี ก็ย่อมเกิดความคิดที่จะส่งต่อองค์ความรู้ไปให้คนอื่น เหมือนอย่างที่เกษตรกรท่านนี้สอนสั่งลูกหลาน ไม่ว่าจะแนวคิดการใช้ชีวิต ไปจนวิชาความรู้ทางการเกษตร

" คนทำการเกษตร นอกจากทำเพราะเป็นอาชีพเก่าแก่ของพ่อแม่แล้ว ยังต้องทำด้วยความรัก ควบคู่กับความอดทน เพราะการทำไร่ทำสวนไม่ใช่ว่ามันจะได้กำไรตลอด มันยังมีต้นทุนอื่น ๆ เกิดขึ้นด้วย ฉะนั้นจึงต้องอดทนทำบางทีก็ต้องลองผิดลองถูกไปด้วย ขอแค่ใจรัก ขยัน อดทน แล้วสิ่งที่เราทำไว้จะงอกงามให้เห็นเอง "

หลักคิดในการใช้ชีวิต
บ่อยครั้งที่ได้ยินคำกล่าวที่ว่า การเป็นเกษตรกรนั้นไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี แต่เชื่อเถอะว่า ผู้คนในประเทศไทยนั้น ล้วนขับเคลื่อนไปด้วยอาหารการกินมากมายที่ผลิตได้ด้วยเกษตรกร เมื่อคิดเช่นนี้แล้วการออกไปทำไร่ดูแลสวนก็ล้วนมีความสุข ดังเช่นคุณติ๋ม ที่มองว่าอาชีพเกษตรกรนั้นมีเกียรติมีคุณค่า ที่สำคัญไม่ว่าจะทำอาชีพใด ทั้งคนทำงานกินเงินเดือน หรือชาวไร่ชาวนาก็เหนื่อยเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับใจของคุณเท่านั้น ว่าจะทำได้ขนาดไหน หากไม่ทำให้เต็มที่คงพูดได้ไม่เต็มปากว่าคุณทำงานในอาชีพนั้นจริงๆ

ส่วนตัวคุณติ๋มนั้น ทำอาชีพเกษตรกรรมมาตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีจนซึมซับและอยากสอนให้ลูกหลานทำอาชีพนี้เช่นเดียวกัน และยังทิ้งท้ายไว้อีกด้วยว่า การได้อาศัยและทำให้ผืนแผ่นดินที่พ่อแม่ให้ไว้เจริญงอกงาม และเราก็ทำกันได้ดีทำด้วยความรักความผูกพันในทุกวัน ทำให้ไม่อยากย้ายไปอยู่ที่อื่น และก็หวังว่าลูกหลานจะสืบทอดสิ่งที่ทำนี้ต่อไปในอนาคต เมื่อพูดถึงการใช้ชีวิต คุณติ๋มเล่าว่าการทำบัญชีครัวเรือนนั้นดีที่สุด เพราะทำให้เรารู้ว่าค่าใช้จ่ายแต่ละส่วนเป็นอย่างไร ตรงไหนจำเป็นต้องใช้ และตรงไหนยังไม่จำเป็นต้องซื้อ

ผักกูด ผักพื้นบ้านรสชาติเยี่ยม

ผ่านประสบการณ์มากว่า 40 ปี
คุณธนพรเริ่มต้นอาชีพเกษตรกรตั้งแต่เด็ก ในเบื้องแรกก็ช่วยเหลือผู้ใหญ่คอยดูคอยจดจำวิธี จนโตขึ้นก็ล้มลุกคลุกคลานลองผิดลองถูก ปลูกตั้งแต่กล้วย กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ ปลูกสับปะรด ปลูกว่านหางจระเข้ เรียกได้ว่าทำทุกอย่างที่อยู่ในกระแส คุณธนพรเรียกว่าใครว่าอะไรดีก็ทำ ทำตามเขา ทำไปตามกระแส ซึ่งผลที่ได้ก็ใช่ว่าจะดี เพราะขาดทุนเสียก็บ่อย จังหวัดเพชรบุรีขึ้นชื่อเรื่องมะนาวประจำจังหวัด คุณธนพรก็ปลูกด้วยเช่นกัน แต่เวลาต่อมาเส้นทางการปลูกมะนาวดูจะไม่ราบรื่น เนื่องจากต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเรื่อย ๆ จุดเปลี่ยนที่ทำให้ตัดสินใจมาทำเกษตรกรรมแนวใหม่อย่างการปลูกผักกูด ก็เนื่องจากได้ลองรับประทานผักกูดที่บ้านเพื่อน ซึ่งมีรสชาติอร่อยติดใจ ต่อมาก็ชักชวนสามีออกไปหาต้นกล้าในป่ามาปลูกได้พื้นที่เพียงเล็กน้อย โดยที่ไม่ได้ใส่ใจอะไร คุณธนพรเล่าด้วยความประทับใจ ว่าผักกูดที่แทงยอดออกมาตอนนั้นให้เพื่อนมาเก็บไปขายได้เงินมา 50 บาท ดูสิอยู่บ้านเฉยๆ ก็ทำเป็นเงินแล้ว ก็เลยเก็บผักกูดขาย ผักกูดรุ่นแรกนี้เองที่จุดประกายให้ขยับขยายพื้นที่ปลูกจนกว้างถึง 5 ไร่ เก็บขายไปเรื่อยๆ จนปัจจุบันก็ 10 ปีแล้ว จากเดิมที่เก็บยอดไปนั่งขายเอง ก็กลายเป็นเก็บยอดขายส่งแม่ค้า และขายให้โรงแรมภายในพื้นที่แก่งกระจาน เดิมคุณติ๋มบอกว่าผักกูดยังไม่เป็นที่รู้จัก ก็มาบูมขึ้นเรื่อย ๆ เพราะแถวนี้รีสอร์ทเยอะ คุณติ๋มนำผักกูดไปเสนอขาย รีสอร์ทนำไปปรุงให้แขกที่มาพัก นานวันเข้ารีสอร์ทเหล่านี้ก็เสนอผักกูดขึ้นเป็นเมนูแนะนำ

เทคนิคภูมิปัญญาอันโดดเด่น

ไม่ว่าจะเป็นการทำเกษตรกรรมแบบใด ต้องขับเคลื่อนไปด้วยใจรัก และผืนแผ่นดินที่เรามี การปลูกผักกูดก็เช่นกัน หาก มีใจรัก ดินที่ปลูก และน้ำที่รดล้วนเป็นปัจจัยสำคัญทั้งสิ้น คุณติ๋มเล่าว่า หากดิน และน้ำในพื้นที่เพาะปลูกของเราไม่สู้ดี เราต้องนำมาปรับสภาพเสียก่อน ทำให้ดินดีขึ้นด้วยปุ๋ยหมักขี้ไก่ ขี้วัว มาผสมในดินที่ต้องการปรับสภาพ

กลายเป็นเมนูแนะนำประจำรีสอร์ทไปแล้ว

การอดทนปรับสภาพดินให้ดีขึ้น ดีกว่าไม่ต่อสู้และทิ้งพื้นที่ให้รกร้างไร้ประโยชน์ เป็นสิ่งที่คุณติ๋มยึดถือปฎิบัติ เธอกล่าวว่าในหลวงท่านยังปรับพื้นที่ของห้วยทรายใต้จากดินทรายแห้งแล้ง และพื้นที่ของห้วยผึ้งที่เป็นดินดานให้กลายเป็นแหล่งทำกินของชาวบ้านจนถึงปัจจุบันนี้ได้เลย แล้วถ้าเรามีพื้นที่ของเราเอง ดินไม่ดีทำให้ดี เราก็สามารถปลูกพืช ทำการเกษตรหาเลี้ยงครอบครัวของเราต่อไปได้

การปลูกผักกูดนั้น ต้องเตรียมดินให้เป็นดินทรายร่วนจะทำให้โตไว เพราะธรรมชาติของผักกูดจะขึ้นริมแม่น้ำ ใช้เวลาปลูกประมาณ 5 เดือนก็สามารถเก็บยอดได้แล้ว ระบบน้ำของแปลงผักกูดคุณติ๋มจะใช้ระบบสปริงเกอร์ทั้งหมด การใส่ปุ๋ยบำรุงต้นจะใช้ปุ๋ยขี้ไก่เดือนละครั้งเนื่องจากต้องเก็บยอดทุกวัน หากใส่เยอะจะทำให้ยอดผักกูดออกน้อยไม่เพียงพอต่อการขาย นอกจากนี้ยังฉีดฮอร์โมนเร่งโตให้ผักอวบอิ่ม โดยใช้น้ำหมักสูตรเฉพาะตัวที่คุณติ๋มคิดค้นขึ้นเองอีกด้วย

การวางแผนในอนาคต คุณติ๋มบอกว่าได้มีการพูดคุยกับเกษตรกรท่านอื่น ๆ ในการนำผักกูดขายส่งขึ้นห้างสรรพสินค้า เป็นขยายตลาดผักกูดให้ผู้ซื้อที่อยู่นอกพื้นที่แก่งกระจาน เพราะจากคำบอกเล่าของลูกค้าส่วนใหญ่จะหาซื้อผักกูดไม่ได้ นอกจากนี้ผักกูดเป็นพืชที่ชอบความเย็น เมื่อนำมาขายในห้างจะทำให้ยืนอายุการขายได้อีกหลายวันขยายโอกาสให้ลูกค้าในการหาซื้อนั่นเอง

ผูดกูดชอบความชื้น ดูแลไม่ยาก ปลูก 5 เดือนก็สามารถเก็บขายได้

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

นางธนพร เอี่ยมสมัย (ติ๋ม)
บ้านเลขที่ 14 หมู่ 6 บ้านวังนางนวล
ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน
จังหวัดเพชรบุรี 76170

ธนพร เอี่ยมสมัย ปลูกผักกูดขาย จากความชอบกลายเป็นอาชีพ

ทำฮอร์โมนบำรุงยอดผักกูด ให้ยอดอ่อน อวบ อ้วน น่าทาน

เรื่อง/ภาพโดย: ณัฏฐ์ คำวิชัย ทีมงานรักบ้านเกิด