"ปรุง ป้อมเกิด : ที่สุดของผู้ปลูกมะละกอแขกดำ"

นอกจากทั้งสองสิ่งนี้แล้วการเป็นคนที่ใฝ่รู้ไม่ยอมหยุดที่จะค้นหาความรู้เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการพัฒนาต่อยอดอย่างไม่หยุด คุณปรุงมักชอบพูดว่าผมจบแค่ป.4 ความรู้ไม่มีแต่ผลงานที่ผ่านมาของคุณปรุงในการเป็นผู้เชี่ยวชาญการปลูกมะละกอแขกดำสายพันธุ์นายปรุงนั้นเกินระดับปริญญาเอกไปเสียแล้ว การที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพจึงมิใช่ว่าจะต้องเรียนสูงเสมอไปขอเพียงใฝ่รู้ไม่หยุดที่จะคิดพัฒนาใช้ใจทำงาน ทำด้วยความรักและมุ่งมั่นไม่ท้อถอยเหมือนอย่างที่คุณปรุง ป้อมเกิด ทำกับมะละกอแขกดำสายพันธุ์นายปรุงรับรองว่าสำเร็จอย่างแน่นอน

หุ้มห่อมะละกอด้วยผ้าซับในป้องกันแดด

กว่าจะมีมะละกอพันธุ์นายปรุง...
เป็นเวลากว่า 30 ปีที่คุณปรุง ป้อมเกิดปลูกมะละกอแขกดำจุดเริ่มต้นเมื่อครั้งอดีตมีแม่ค้าในตลาดนำมะละกอแขกดำมาให้ภรรยาของคุณปรุงมาชิมทั้งสองชอบใจในรสชาติ จึงนำเมล็ดมะละกอลูกนั้นมาเพาะขยายพันธุ์ในตอนแรกที่ผลผลิตออกมายังไม่ค่อยได้รับความนิยม แต่คุณปรุงก็ไม่ย่อท้อพยามปลูกพร้อมคัดพันธุ์มะละกอแขกดำมาอย่างต่อเนื่องจนสายพันธุ์นิ่งให้รสชาติหวานหอมอร่อยมากจนได้ชื่อว่า “มะละกอแขกดำสายพันธุ์นายปรุง” สิ่งนี้เป็นเครื่องสะท้อนความมุ่งมั่น ความพยายามที่มีต่ออาชีพเกษตรกรการคัดเมล็ดพันธุ์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 30 ปีเป็นเรื่องไม่ง่ายเพราะต้องใช้ความอดทนอย่างมากจึงจะประสบความสำเร็จ

การปลูกมะละกอแขกดำของคุณปรุงเป็นการปลูกแบบครบวงจรตั้งแต่การคัดเมล็ดพันธุ์ การเพาะกล้า ปลูกลงดิน เก็บเกี่ยวผลผลิตทั้งหมดนี้คุณปรุงและภรรยาทำกัน 2 คนโดยมีลูกชายมาช่วยเป็นบางครั้ง บนพื้นที่ในปัจจุบันเพียง 16 ไร่เท่านั้น นอกจากผลมะละกอคุณปรุงยังจำหน่ายเมล็ดพันธุ์มะละกอแขกดำ เมล็ดละ 1 บาท ,เพาะลงถาดเพาะกล้า 6 ถาดราคา 300 บาท,เพาะลงถุงชำถุงละ 10 บาท มะละกอแขกดำสายพันธุ์นายปรุง ดูที่ผลมีความยาวพอประมาณ โคนผลเล็ก ตรงกลางใหญ่ ปลายเรียว แต่ไม่แหลมจนเกินไป ปลายควรทู่พอสมควร ผิวผลสวย ขนาด 1.5-2 กิโลกรัมต่อผล นี่เป็นลักษณะภายนอก เมื่อผ่าผลเนื้อต้องแดงแน่น สำคัญที่สุดรสชาติต้องหวาน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว สามารถบอกได้เลยว่า มะละกอสวนนี้เป็นมะละกอแขกดำสายพันธุ์นายปรุง

ในช่วงที่ต้นยังเล็กการดูแลรักษาต้นมะละกอสามารถใช้น้ำส้มควันไม้ฉีดไล่แมลงได้แต่ถ้าถึง 5 เดือนห้ามฉีดน้ำส้มควันไม้เด็ดขาดเพราะจะทำให้รสชาติมะละกอเปลี่ยนไปไม่อร่อย ใส่ปุ๋ยมูลไก่,ปุ๋ยมูลค้างคาว รดน้ำให้ชื้นห้ามแฉะโดยให้น้ำ 2-3 วันครั้งครั้งละ 30 นาทีด้วยระบบสปริงเกอร์ สังเกตุดูว่าถ้าพื้นดินรอบโคนต้นแห้งแข็งก็จะต้องให้น้ำทันทีแต่ถ้าชื้นๆก็ไม่ต้องให้ก็ได้

เมื่อมะละกอติดผลจะต้องใช้ไม้ไผ่มาค้ำลำต้นเพื่อกันลมพัดต้นหัก มะละกอจะทยอยออกมาเรื่อยๆจนสุดคอ(หมายถึง 1 รอบ จะทำการห่มผ้าซับในสีขาวเพื่อป้องกันแสงแดด แมลงวันทอง ทำให้ผิวสวยประมาณ 3 เดือนก็ทำการตัดมะละกอได้เมื่อได้ผลจะต้องทำการสวมโฟมตาข่ายเพื่อป้องกันผิวช้ำเตรียมบรรจุลงกล่องจำหน่ายต่อไป โดยมะละกอขนาดใหญ่จะส่งห้างสรรพสินค้าชื่อดังขนาดน้ำหนักราว 1.5-2 กิโลกรัมต่อ 1 ลูก,ส่วนขนาดเล็กลงมาจำหน่ายตามตลาดซึ่งทั้งสองขนาดจะมีคนมารับซื้อถึงสวน ในราคากิโลกรัมละ 40 บาทตลอดทั้งปี

หลังจากที่มะละกอออกลูกคุณปรุงจะใช้ผ้าซับในสีขาวหุ้มลำต้นปิดผลมะละกอ การหุ้มห่อมะละกอด้วยผ้าซับในนี้ดีคือทำให้ผิวมะละกอสวยไม่ไหม้จากความร้อนแดด ไม่มีแมลงวันทองเจาะทำไมถึงใช้ผ้าซับในเพราะว่าเป็นผ้าผืนบางเบาเหนียวแข็งแรง แห้งไว ไม่ติดผิวมะละกอที่สำคัญคือทนทานใช้งานได้นาน

คุณปรุง ป้อมเกิด
บ้านเลขที่ 63/4 หมู่ 2 ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170