

"บุญมี ชูแสง : ผู้รอบรู้ด้านสมุนไพรไทย ใช้รักษาแพะ"

ก็สามารถรักษาสัตว์ได้เหมือนกัน
เราเป็นคนที่มีต้นทุนน้อย
ต้องใช้เงินทุนที่มีอยู่อย่างรู้คุณค่า


นักภูมิปัญญาท้องถิ่น รอบรู้ด้านสมุนไพรไทยรักษาแพะ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
บุญมี ชูแสง เจ้าของฟาร์มแพะ บุญมีฟาร์ม หรือที่รู้จักของคนในชุมชนว่า ป้าบุญมีนักภูมิปัญญาท้องถิ่น มีความเชี่ยวชาญการนำสมุนไพรมาใช้เลี้ยงแพะ ป้าบุญมี มีแพะในฟาร์มจำนวน 300 ตัว ปัจจุบันประสบความสำเร็จในการเลี้ยงแพะ เป็นที่ยอมรับของกลุ่มสมาชิกผู้เลี้ยงแพะ แพะทุกตัวมีสุขภาพดีดูอุดมสมบูรณ์ ปราศจากโรค เพราะแพะของป้าบุญมีเลี้ยงจากฟาร์มที่ได้รับมาตราฐาน ยกเรือนสูงเน้นรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ป้าบุญมีได้เลี้ยงแพะแบบปลอดสารเคมีทั้งอาหารและยารักษา โดยจะใช้พืชที่มีอยู่ตามธรรมชาติและหาได้ในท้องถิ่นและชุมชน ซึ่งป้าบุญมีได้กล่าวว่า พืชสมุนไพร มีอยู่มากมายรอบตัวเราในท้องถิ่น โดยที่เราไม่ทันสังเกตและมองเห็นถึงประโยชน์ของพืช ซึ่งการใช้สมุนไพรนอกจากใช้เป็นยารักษาโรคในคนแล้ว ยังสามารถนำมาใช้รักษาโรคในสัตว์ อีกทั้งสมุนไพรยังมีราคาถูกกว่ายาแผนปัจจุบัน ป้าบุญมีเลี้ยงแพะแบบเน้นประหยัดต้นทุนนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้
จากชาวบ้านธรรมดาที่ปลูกผักสวนครัวขาย อย่างเช่น ผักบุ้ง แตงกวา ก็ได้ขยับขยายมาปลูกปาล์ม เมื่อปลูกปาล์มแล้วทำให้ป้าบุญมี มีความคิดว่าน่าจะทำอาชีพเสริมเพิ่มขึ้นอีกที่สามารถทำควบคู่ไปกับการปลูกปาล์มได้ จึงคิดที่จะเลี้ยงแพะ เพราะแพะสามารถเลี้ยงแบบปล่อยในสวนปาล์มได้ มูลแพะก็มีประโยชน์อย่างมากกับต้นปาล์ม เริ่มเลี้ยงแพะแค่ 4 ตัวเท่านั้น ด้วยผลตอบรับจากการเลี้ยงแพะที่ดีขึ้น ทำให้ป้าบุญมีเพิ่มจำนวนแพะ มาเป็น 300 ตัว รายได้จากการเลี้ยงแพะ ก็ตกประมาณ 30,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว ด้วยหลักปฎิบัติในการใช้ชีวิตด้านการเลี้ยงแพะแบบการอนุรักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับธรรมชาติ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เลี้ยงแพะจะเลี้ยงแบบธรรมชาติไม่ใช้สารเคมีใดๆ ในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของแพะใช้พืชในท้องถิ่นและวัสดุเศษเหลือใช้ทางการเกษตรใช้ในการเลี้ยงแพะ เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการผลิต และเป็นการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เช่น ใบกระถิน หยวกกล้วย ใบกระท้อน ซังข้าวโพด เป็นต้น
ป้าบุญมีกล่าวว่า อยู่อย่างพอเพียง ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นอย่างรู้คุณค่า ไม่เบียดเบียนต่อสิ่งแวดล้อมและผู้อื่น รวมถึงการดูแลรักษาแพะ จะใช้สมุนไพรจากธรรมชาติมารักษาปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงและผู้บริโภค อีกอย่างให้รู้จักคิดแนวทางในการประหยัดและลดต้นทุนการผลิตให้มากที่สุด ในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำ ต้องรู้จักสังเกตสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา เพราะในท้องถิ่นมีสิ่งที่มีประโยชน์มากมาย แต่ถูกทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ หากรู้จักใช้ของที่มีอยู่และใช้มันอย่างคุ้มค่า เราย่อมสามารถใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตนเองได้

อยู่อย่างพอเพียงไม่เบียดเบียนต่อผู้อื่น
ป้าบุญมีมุ่งเน้นการนำภูมิปัญญาพื้นบ้านมาใช้ โดยการนำสมุนไพรในการรักษาแพะไม่พึ่งยาแผนปัจจุบันตามท้องตลาด เช่น แพะมีอาการท้องเสีย ก็จะนำสมุนไพรโดยใช้ใบกระท้อนตำผสมกับเกลือให้แพะกินอาการท้องเสียของแพะก็จะหาย และหากแพะได้สัมผัสหรือรับสารพิษเข้าร่างกาย ป้าบุญมีก็จะใช้ใบรางจืดที่มีอยู่รอบบ้านมาตำผสมกับน้ำให้แพะกิน ใบรางจืดจะขับพิษในร่างกายแพะทำให้แพะมีอาการดีขึ้น นอกจากนี้รอบๆฟาร์มแพะของป้าบุญมีก็จะเต็มไปด้วยพืชผัก เช่น ปาล์ม ผักสวนครัว สมุนไพร แต่ละต้นอุดมสมบูรณ์เพราะป้าบุญมีปลูกแบบธรรมชาติ โดยใช้ปุ๋ยจากมูลแพะ ด้วยความสามารถและความรอบรู้ของป้าบุญ เน้นการประหยัดต้นทุน ปัจจุบันทำให้ป้าบุญมีประสบความสำเร็จในการเลี้ยงแพะเป็นเจ้าของฟาร์มแพะเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับของกลุ่มผู้เลี้ยงแพะ จึงมีผู้เลี้ยงแพะหลายกลุ่มเดินทางมาขอคำปรึกษาและคำแนะนำในการเลี้ยงแพะ
จากเกษตรผู้ปลูกผักสวนครัวธรรมดาจนพลิกผลันตัวเองมาเป็นเจ้าของฟาร์มแพะปัจจุบันป้าบุญมีทำหน้าเป็นเจ้าหน้าที่อาหารและเวชภัณฑ์ ของกลุ่มวิสาหกิจกลุ่มเลี้ยงแพะอำเภอเชียรใหญ่ มีบทบาทในการถ่ายทอดความรู้ด้านยาสมุนไพรให้กับสมาชิกกลุ่มผู้เลี้ยงแพะและผู้ที่มาศึกษาดูงานจากหน่วยงานต่างๆ เป็นวิทยากรบรรยายความรู้ให้เกษตรกรและผู้ที่สนใจเลี้ยงแพะ และเปิดฟาร์มให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเลี้ยงแพะให้กับคนในชุมชนศึกษาเพื่อนำความรู้ไปใช้และพัฒนาปรับปรุงฟาร์มแพะที่เลี้ยงอยู่ ความสำเร็จและความภาคภูมิใจของป้าบุญมีเป็น รางวัลชนะเลิศ วิสาหกิจชุมชนดีเด่น(แพะ)ระดับสำนักงานปศุสัตว์เขต8 ประจำปี 2557 รางวัลชนะเลิศ กลุ่มเกษตรเลี้ยงสัตว์ดีเด่น ระดับจังหวัด ประจำปี 2557
พยายามเรียนรู้ในสิ่งที่ทำ แล้วลงมือทำชีวิตก็จะประสบความสำเร็จ




