เกษตรกรต้นแบบ

"เรียม ทองคำ : ล้มแล้วลุก ปลูกฝรั่งกิมจู สู่ความสำเร็จ"

 18 เมษายน 2560 21,255
จ.ปทุมธานี
ไม่ท้อ ความขยันและลงมือทำเท่านั้นค่ะ
ทำได้ 3 อย่างนี้
ชีวิตเราก็จะไม่มีวันตกอับแน่นอนค่ะ

เรียม ทองคำ เกษตรกรผู้ล้มแล้วลุก ปลูกฝรั่งกิมจู สู่เศรษฐกิจพอเพียง

คนเรานั้นมักจะยอมรับความล้มเหลวได้เพียงไม่กี่ครั้งในชีวิต แต่สำหรับคุณเรียม ทองคำ เกษตรกรจาก ต.คำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ที่ผ่านการลองผิดลองถูก ทำการเกษตรกับพืชมาหลายชนิด ล้มเหลวมาหลายหน แต่ด้วยคำว่าไม่ย่อท้อ ทำให้คุณเรียมได้พบกับสิ่งที่เหมาะกับตัวเองในการเป็นเกษตรกรและพลิกชีวิตขึ้นมามั่นคงได้ด้วยผลไม้มาแรงที่ชื่อว่าฝรั่งกิมจู

หลักคิดในการใช้ชีวิต

สำหรับหลักคิดในการใช้ชีวิตของคุณเรียมนั้น คุณเรียมยึดถือเรื่องของความไม่ท้อ ขยันและลงมือทำ “การไม่ท้อ ความขยันและต้องลงมือทำเท่านั้นค่ะ ประกอบกัน 3 อย่าง แล้วชีวิตเราก็จะไม่มีวันตกอับแน่นอนค่ะ”

ฝรั่งกิมจูที่เริ่มผลิดอกออกผล

คุณเรียมบอกว่าก่อนที่จะมาประสบความสำเร็จกับฝรั่งกิมจูนั้น คุณเรียมเคยทำสวนส้มเขียวหวานมาก่อน ทำอยู่หลายปีแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ หลังจากที่คิดว่าจะเริ่มทำอะไรต่อดีที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้น คุณเรียมก็ได้มีโอกาสไปเรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และได้แนวคิดมาพอสมควร คุณเรียมเริ่มจากการขุดบ่อน้ำซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำการเกษตรเพื่อลดต้นทุนในการใช้น้ำและหันมาปลูกผักหลากหลายชนิด การเริ่มต้นใหม่ก็ดูเหมือนว่าจะไปได้ดี แต่คุณเรียมก็บอกว่ามันยังมีข้อเสียอยู่

“คือเราทำตัวคนเดียว สามีก็มีหน้าที่การงานไม่ได้ว่างมาช่วยทำเท่าไหร่ การปลูกผักต้องใช้แรงงานหลายคนมาช่วย ค้าใช้จ่ายก็เลยมากไปด้วย เดือนๆหนึ่งอาจขายได้ดี แต่ก็ไม่เหลือ”

คุณเรียมเล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากได้ทดลองหันมาปลูกผักขาย เมื่อปัญหามันเกิดคุณเรียมก็คิดหาวิธีดูใหม่ว่าจะทำอะไรที่ต้นทุนต่ำและใช้แรงงานไม่มาก

“เราก็คิดหาวิธีนะคะ ระหว่างนั้นต้องบอกก่อนเลยว่า เมื่อก่อนไม่เคยคิดสนใจการปลูกฝรั่งเลยค่ะ เพราะคิดว่าใช้แรงงานเยอะแน่นอน แต่พอได้ไปดูไปศึกษาสวนฝรั่งของพี่สาว ความคิดก็เปลี่ยน ก็เริ่มสนใจขึ้นค่ะ”

คุณเรียมบอกว่าพี่สาวปลูกฝรั่งพันธุ์แป้นสีทอง แต่คุณเรียมนั้นชอบฝรั่งกิมจูมากกว่าโดยที่ตอนแรกนั้นคุณเรียมเองก็ปลูกไร่หนึ่งแบบทิ้งๆขว้างๆด้วยซ้ำ โดยไม่ใช้สารเคมี เมื่อถึงเวลาคุณเรียมก็ได้เก็บขาย

“ตอนนั้นยังไม่เลิกปลูกผักค่ะ ก็ขายกิมจูพร้อมกับผักปลอดสารพิษ ไปขายที่ธรรมศาสตร์ คนติดใจบอกว่ารสชาติดี ตอนนั้นเราก็เริ่มใจชื้นแล้ว ฝรั่งกิมจูเป็นฝรั่งที่หวานกรอบ เม็ดน้อย ฝรั่งอื่นๆที่เค้าใช้สารเคมีส่งผลให้ลูกมันใหญ่แต่รสชาติจะสู้กิมจูลูกเล็กของเราไม่ได้ ลูกค้าจะชอบมากกว่า”

จากตอนแรกที่ปลูกแบบทิ้งขว้างไร่นึง คุณเรียมก็เริ่มหันมาสนใจฝรั่งกิมจูอย่างจริงจัง ตอนแรกที่เริ่มปลูกฝรั่งก็จะใช้เรือรดน้ำ คุณเรียมก็เปลี่ยนมาเป็นระบบน้ำหยดที่โคนต้น ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการจ้างคนรดน้ำด้วย ส่วนพันธ์ฝรั่งกิมจูคุณเรียมก็ใช้วิธีการตอนเพื่อขยายเพิ่มจาก1เป็น4ไร่

“ฝรั่งของเราจะออกดอกออกลูกได้ทั้งปีค่ะ ก็ได้ห่อลูกทุกวันเลย ห่อด้วยถุงพลาสติกแล้วก็เอากระดาษห่ออีกชั้น ตอนนี้รายได้ก็ดีขึ้นมั่นคงขึ้นแล้วค่ะ 1ไร่เฉลี่ยผลผลิตก็50โลต่ออาทิตย์ ขาย โลละ40 อยู่ได้สบาย ส่วนเรื่องรายจ่ายค่าแรงที่ลงทุนก็น้อยกว่าที่เคยคิดไว้ค่ะ หักลบกลบหนี้แล้วก็เรียกได้ว่าชีวิตมั่นคงขึ้น”

การปลูกฝรั่งกิมจูแบบคุณเรียม
การปลูกฝรั่ง หลังจากที่เลือกพื้นที่ปลูกได้แล้ว ถ้าต้องการจะปลูกเป็นสวนก็ควรจะจัดระยะปลูกระหว่างแถวและระหว่างต้นประมาณ 3 x 3 เมตรในเนื้อที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ประมาณ 160 ต้น 

ฝรั่งกิมจู ลูกเล็ก หวาน กรอบ ปลอดภัย

การเตรียมดิน
การปลูกฝรั่งในพื้นที่ลุ่ม น้ำท่วมถึงควรทำการยกร่องปลูก โดยยกร่องให้มีขนาดความกว้างของหลังร่องประมาณ 6 เมตร มีคูน้ำกว้างประมาณ 1.5 เมตร ความยาวของสันร่องแล้วแต่พื้นที่ ความสูงไม่จำกัด แต่ถ้าเป็นที่ดอนไม่จำเป็นต้องยกร่อง จากนั้นก็ปรับปรุงดินโดยการตากดินเพื่อฆ่าเชื้อโรค และเมล็ดวัชพืช ใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักในปริมาณเท่า ๆ กัน อัตราปุ๋ย 1 ส่วนต่อดิน 2 ส่วน เพื่อให้ดินร่วนซุย

วิธีปลูก
หลังจากเตรียมหลุมปลูกเรียบร้อยแล้ว ให้นำกิ่งพันธุ์ที่ชำไปปลูกลงในหลุม กลบดินให้แน่นพอสมควร แล้วใช้ไม้ปักเป็นหลักผูกกันลมโยกและรดน้ำทันที จากนั้นใช้ทางมะพร้าวมาคลุมพรางแสงแดดให้แก่ต้นฝรั่งจนกว่าต้นฝรั่งจะตั้งตัวได้ 

การเตรียมหลุมปลูก
    ขนาดของหลุมปลูกควรกว้าง 0.5 เมตร ยาว 0.5 เมตร และลึก 0.5 เมตร ที่จำเป็นต้องขุดหลุมกว้างเพื่อเปลี่ยนสภาพดินในหลุมให้ดีขึ้น ดังนี้

1. ควรขุดดินโดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ดินบนและดินล่าง 
    - ดินบน เป็นส่วนที่มีอินทรีย์วัตถุมากอยู่แล้ว ให้แยกไว้ส่วนหนึ่ง 
    - ดินล่าง คือดินที่เมื่อขุดลึกลงไปแล้วพบว่าดินมีสีจางลงเป็นชั้นที่ไม่มีอินทรีย์วัตถุ 
    2. ตากดินไว้ 10-15 วัน เพื่อให้แสงแดดส่องฆ่าเชื้อโรคในหลุมปลูกและในดิน 
    3. กลบดินบนลงในหลุม 
    4. ผสมปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วนต่อดินล่าง 2 ส่วน และรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยร็อคฟอสเฟต 0.50 กิโลกรัม แล้วจึงกลบลงไปในหลุมทับชั้นดินบน จนมีระดับสูงกว่าระดับพื้นดินธรรมดาประมาณ 10 เซนติเมตร การที่ต้องกลบดินให้สูงกว่าระดับดินเดิมนั้น เพื่อที่เมื่อเวลาปลูกแล้วดินจะยุบตัวลงเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้พอดีกับระดับดินเดิม ถ้าไม่เผื่อไว้จะเป็นแอ่งและมีน้ำขังทำให้รากเน่าตายได้

การปฏิบัติดูแลรักษา
การให้น้ำ หลังจากปลูกฝรั่งแล้วต้องหมั่นคอยรดน้ำในช่วงระยะแรกจนกว่าต้นฝรั่งจะตั้งตัวได้หลังจากนั้นก็ต้องสังเกตดูความชุ่มชื้นของดิน ถ้าดินแห้งมากต้องรีบให้น้ำ และถ้ามีฝนตกหนักก็ควรระบายน้ำออกบ้าง การให้น้ำจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามความต้องการของต้นฝรั่ง ปริมาณความชื้นของดินในระหว่างการออกผลมีความสำคัญ เพราะจะก่อให้เกิดการร่วง การแตก และขนาดของผล

การใส่ปุ๋ย 
โดยปกติการปลูกพืชทุกชนิดควรมีการใส่ปุ๋ยทั้งปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมี สูตรที่แนะนำ คือ 15-15-15 หรือ 13-13-21 ฝรั่งเมื่อออกดอกแล้วจำเป็นต้องให้น้ำและปุ๋ยไนโตรเจนเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงขึ้นทุก ๆ ปี ควรให้ปุ๋ยประมาณ 2 กิโลกรัม/ต้น/ปี หรือมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับอายุของต้นและปริมาณผลผลิต และหากจะให้ฝรั่งมีรสหวานยิ่งขึ้นให้ใช้ปุ๋ยเกร็ดสูตร 5-30-30 พ่นก่อนเก็บผล 1 เดือน โดยนำปุ๋ยเกร็ดมาผสมน้ำฉีดพ่น ฉีดอาทิตย์ละครั้ง ประมาณ 2 ครั้ง จากนั้นประมาณ 15 วัน จึงเก็บผล

การพรวนดิน 
ไม่ควรพรวนดินลึก เพราะจะทำให้รากของต้นฝรั่งขาดได้

การกำจัดวัชพืช 
ควรทำอย่างสม่ำเสมอ อาจใช้วิธีการถาง ใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชหรือปลูกพืชตระกูลถั่ว เช่น เซนโตรซึม เพอราเรีย เป็นพืชคลุมดิน

การปักไม้ค้ำกันลม 
ในระหว่างที่ต้นฝรั่งยังเล็กอยู่ ควรปักไม้ค้ำกันลมเพื่อป้องกันไม่ให้ต้นโยก เพราะอาจกระทบกระเทือน ทำให้ต้นฝรั่งไม่โต การปักไม้ค้ำกันลม ควรใช้ไม้รวกหรือแขนงไม้ไผ่ยาว 1 เมตร ค้ากิ่งต้นละ 1-2 อัน และใช้เชือกพลาสติกผูกติดกับกิ่งแต่อย่าผูกให้แน่นมากเพราะกิ่งอาจเจริญเติบโตช้า

การพยุงผลฝรั่ง 
ฝรั่งจะเริ่มออกผลเมื่ออายุประมาณ 6 เดือน ควรใช้ไม้ไผ่ปักไว้เพื่อพยุงผลฝรั่ง โดยใช้ปลายหรือแขนงไม้ไผ่ขนาดเล็กยาว 1 เมตร หรือมากกว่านั้นปักใกล้กับกิ่งที่ออกผลแล้ว โดยผูกยึดกับกิ่งไว้ บางสวนจะผูกขั้วผลกับกิ่งหรือไม้ปักเพื่อไม่ให้ผลถ่วงต้น เพราะน้ำหนักผลฝรั่งมาก ถ้ามีลมพัดแรงต้นจะเฉาตายและรากจะขาด


ภูมิปัญญาการปลูกฝรั่งกิมจู
1. ปุ๋ยหมัก
ในเรื่องของเทคนิคภูมิปัญญาของคุณเรียมจากประสบการณ์ที่ได้จากการปลูกฝรั่งกิมจูนั้น คุณเรียมบอกว่ายึดหลักความพอเพียงไว้เป็นพื้นฐานก่อน แล้วก็ได้ทำการศึกษาจนได้สูตรการทำปุ๋ยชีวภาพที่ไว้ใช้สำหรับสวนฝรั่งกิมจูของคุณเรียมเองโดยเฉพาะ
“ปุ๋ยหมักของที่นี่จะทำมาจากวัสดุเก่าที่ใช้ในการเพาะเห็ด พอได้มาแล้วก็เอามาหมักกับมูลวัวหรือขี้ไก่แกลบก็ได้ค่ะ อัตราส่วนผสม ประมาณ วัสดุเห็ดเก่า3ส่วน มูลวัวกรือขี้ไก่แกลบ 1ส่วน คลุกเคล้าหมักให้เข้ากัน รดน้ำให้หมาด ให้เข้ากันจนทั่ว เราอาจจะใส่หัวเชื้อพด.1ของกรมพัฒนาที่ดินก็ได้ หรือจะใช้น้ำหมักชีวภาพก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี หมักทิ้งไว้ประมาณ1เดือน วิธีดูถ้าหายร้อนก็ใช้ได้แล้วค่ะ”

2. เทคนิคการตัดแต่งกิ่ง 
    การตัดแต่งกิ่งจะช่วยให้ฝรั่งเกิดกิ่งอ่อน และมีช่อดอกออกมาด้วยทำให้ทรงพุ่มโปร่ง ได้สัดส่วน อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่อง ได้ทั่วถึง สะดวกในการเก็บผลและการพ่นสารป้องกันกำจัดโรค และแมลง นอกจากนี้ ยังทำให้ได้ผลผลิตที่แน่นนอน ผลมีขนาดใหญ่ สำหรับสวนใหม่ ควรมีการตัดแต่งกิ่งทุกปีเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต และการสร้างตาดอก โดยทั่วไป ต้นที่สมบรูณ์จะตัดกิ่งก้านออก 25 - 30% สำหรับต้นที่ไม่แข็งแรงให้ตัดกิ่งก้านออกประมาณ 20 % นอกจากการตัดแต่งกิ่งแล้วการทำให้ใบร่วงจะทำให้ระยะการเก็บเกี่ยวสั้นลง และการปลิดผลทิ้งให้เหลือประมาณ 2 - 6 ผล ต่อกิ่ง จะจำเป็นในสวนที่ผลิต เพื่อบริโภคผลสด แต่ถ้าจะให้ได้ผล ที่มีขนาดใหญ่และมีคุณภาพดี ควรให้เหลือเพียง 1 ผล เท่านั้น 

3. การห่อผล
ประโยชน์ของการห่อผลนอกจากจะช่วยป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูฝรั่งแล้ว ยังทำให้ผลฝรั่งมีผิวสวยน่ารับประทาน วิธีการห่อผลฝรั่งโดยส่วนใหญ่จะใช้ถุงพลาสติกหรือใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อก่อนแล้วจึงสวมถุงพลาสติกทับอีกชั้นหนึ่ง โดยจะเริ่มห่อผลฝรั่งเมื่อมีขนาดเท่าลูกมะนาวหรือหลังดอกบานแล้ว 1 เดือน ก่อนห่อควรพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อราและแมลงที่ผลฝรั่งเสียก่อน 

คุณเรียมฝากถึงผู้ที่อยากจะหันมาทำการเกษตรว่า ไม่ว่าจะทำการเกษตรแบบไหน อยากจะให้ยึดหลักเกษตรอินทรีย์จะดีที่สุด นอกจากจะได้ของที่มีคุณภาพ ยังจะช่วยประหยัดต้นทุนในการผลิตอีกด้วย

ปลูกฝรั่งกิมจูแบบอินทรีย์ ถึงจะลูกเล็ก แต่หวาน กรอบ อร่อยและปลอดภัย

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

คุณเรียม ทองคำ
ต.คำอ้อ อ.หนองเสือ
จ.ปทุมธานี 12170

ล้มแล้วลุก ปลูกฝรั่งกิมจูสู่ความสำเร็จ

วิธีห่อผลฝรั่ง ป้องกันแดดได้ดี ไม่มีแมลงกวน

เรื่อง/ภาพโดย: ณัฏฐ์ คำวิชัย ทีมงานรักบ้านเกิด