

"พิทักษ์ พึ่งพเดช : เกษตรกรรุ่นใหม่ ในสวนมะพร้าวน้ำหอม"

และผสมผสานความทันสมัยให้เกิดประโยชน์

คุณพิทักษ์ พึ่งเดช เอาความรู้เกษตรสมัยใหม่มาใช้ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
ด้วยสรรพคุณที่มีความหอมหวานสมชื่อ มะพร้าวน้ำหอมจึงเป็นมะพร้าวพันธ์ที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคมากที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ว่าการทำสวนมะพร้าวจะการันตีความมั่นคงได้หากไม่มีความตั้งใจและรักในสิ่งที่ทำอยู่จริง คุณพิทักษ์ พึ่งเดช เกษตรกรสวนมะพร้าวน้ำหอมรู้ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ดี เพราะคุณพิทักษ์ได้ผ่านการพิสูจน์ตัวเองจนเป็นผู้ที่ชำนาญในเรื่องของการทำสวนมะพร้าวน้ำหอม
หลักคิดและการใช้ชีวิต
เมื่อถามถึงหลักคิดในการใช้ชีวิต คุณพิทักษ์บอกว่าตัวเองยึดถือในเรื่องของความถนัดเป็นหลัก ถ้าเราชอบ เราถนัดแล้ว จะทำอะไรก็ได้เปรียบและประสบความสำเร็จได้ง่ายคุณพิทักษ์ พึ่งพเดช เป็นลูกเกษตรกรมาแต่กำเนิด ในอดีตแม้พ่อแม่ไม่สนับสนุนในเรื่องเรียน แต่คุณพิทักษ์ก็มีความตั้งใจ และพิสูจน์ให้พ่อแม่ยอมรับได้ จนปัจจุบันคุณพิทักษ์ได้รับช่วงดูแลสวนมะพร้าวน้ำมันหอมต่อจากพ่อแม่ เอาความรู้เกษตรสมัยใหม่มาดัดแปลงใช้ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
มะพร้าวน้ำหอมลูกสวยๆ
ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับตัวเกษตรกร
จากเดิมเมื่อก่อนนั้นครอบครัวของคุณพิทักษ์ จะใช้พื้นที่ทั้งหมดทำสวนพุทรา โดยที่คุณพิทักษ์ก็จะคุ้นเคยกับพุทรามาตั้งแต่เด็ก แต่พอโตขึ้นคุณพิทักษ์ก็เริ่มศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม จึงพบว่าพืชที่เหมาะกับดินในบริเวณบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร น่าจะเป็นปลูกมะพร้าวน้ำหอมที่น่าจะได้ผลผลิตที่ดีที่สุด
“ก็รับสวนต่อยอดมาจากพ่อแม่ครับ แต่เราดัดแปลงด้วยการตัดพ่อค้าคนกลางออก ผมผลิตแปรรูปเอง ขายเองทั้งหมดครับ เมื่อก่อน พ่อแม่ไม่อยากให้เรียนต่อ อยากให้ทำเกษตรอยู่บ้าน เพราะพ่อแม่เห็นตัวอย่างจากคนที่ไปเรียนแล้วเกเรเรียนไม่จบ เค้าก็กลัวว่าเราจะเป็นอย่างนั้น แต่ผมอยากไปเรียนอยากนำความรู้เข้ามาพัฒนาสิ่งที่พ่อแม่ทำไว้ หลังๆพ่อแม่เห็นความตั้งใจของเราพ่อแม่ก็ยอมรับสิ่งที่เราทำครับ”
คนสมัยเก่านิยมเกษตรแล้วพึ่งเคมี แต่เกษตรกรสมัยใหม่จะมองที่สุขภาพมากกว่า จะหลีกเลี่ยงเคมี “มะพร้าวน้ำหอมไม่ใช้สารเคมีเท่าไหร่ และมีประโยชน์มากด้วย สิ่งที่ผมได้เปรียบก็คือดินของที่นี่เข้ากับมะพร้าวได้ดีด้วย ผมเลยตั้งใจว่าจะยึดการทำมะพร้าวน้ำเป็นอาชีพหลัก”
คุณพิทักษ์เสริมว่า ดินบ้านแพ้วนั้นเป็นดินเหนียวน้ำจืดน้ำเค็ม ไนโตรเจนจะน้อย และมีฟอสฟอรัสกับโปรตัสเซียมสูง ทำให้มะพร้าวมีผลใหญ่แล้วก็รสชาติหวานหอมอีกด้วย อันนี้คือข้อได้เปรียบที่คุณพิทักษ์บอกไว้
“เมื่อเก็บเกี่ยวแล้ว ผมก็จะเอาไปขายเองครับ เอาไปวางขายหน้าร้าน การตลาดของผมคือเฉาะขายกันสดๆเลย ไม่ใส่สารฟอกขาว ก็ได้ใจลูกค้า ลูกค้าชอบและติดใจกันมากครับ”
การเก็บผลผลิตจะเก็บได้ทุก20วัน และในปีนี้ราคามะพร้าวน้ำหอมดี ผู้บริโภคสนใจ การส่งออกก็มากขึ้นด้วย ลูกค้าทั้งไทยและต่างชาตินิยม ความต้องการมะพร้าวน้ำหอมจึงสูง
“สำหรับคนที่อยากปลูกมะพร้าวน้ำหอม ผมอยากแนะนำว่าต้องศึกษาพื้นที่ที่จะทำการปลูกให้ดีก่อน เพราะแต่ละพื้นที่ก็ให้คุณภาพของมะพร้าวต่างกัน เมื่อรู้ปัญหาดินก็แก้ไขให้เข้ากับสิ่งที่เราจะปลูก อันนั้นน่าจะส่งผลดีกว่าที่จะทำอย่างบุ่มบ่าม อีกเรื่องคือผมอยากฝากเรื่องการทำเกษตรแบบปลอดภัยไร้สารพิษด้วยครับ คิดว่าให้ปลอดภัยกับตัวเองก่อน คนอื่นๆก็จะปลอดภัยตามไปด้วย”
ระยะปลูก
พื้นที่ราบทั่วไป แบบสามเหลี่ยม แบบสี่เหลี่ยมด้านเท่า ระยะ 6.0 x 6.0 , 6.5 x 6.5 เมตร สภาพที่ลุ่มน้ำไม่ท่วมขัง ปลูกแบบยกร่อง ใช้ปลูกแบบแถวคู่ และแถวเดี่ยว ระยะ 6.0 x 6.0 , 6.5 x 6.5 เมตร ระยะหลุมควรห่างจากขอบร่องน้ำประมาณ 2 เมตร
การเตรียมหลุมปลูก
ควรเตรียมหลุมในช่วงฤดูแล้ง หากดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ขนาดหลุมควรกว้าง 1.0 x 1.0 x 1.0 เมตร แยกส่วนหน้าดินกับดินล่างออก ตากดินทิ้งไว้ 7 วัน ก้นหลุมอาจรองด้วยเปลือกมะพร้าวช่วยในกรณีที่โครงสร้างของดินโปร่ง ระบายน้ำเร็ว หรือปริมาณน้ำไม่เพียงพอ นำส่วนของดินล่างผสมปุ๋ยคอก 1 ปีบ ผสมหินร็อคฟอสเฟต 200-500 กรัม คลุกเคล้าให้ทั่วใส่กลบลงในหลุมปลูกจนเกือบเต็ม ทิ้งไว้จนถึงฤดูปลูก
วิธีการปลูก
หน่อพันธุ์ ควรตัดรากเดิมออกก่อนนำลงปลูกในหลุมที่ผสมดินใส่ไว้เกือบเต็ม ใช้ดินส่วนที่เหลือลงกลบหน่อพันธุ์ กดดินให้แน่นแต่ไม่ควรให้ดินกลบโคนหน่อ ซึ่งดินอาจรัดโคนหน่อ ทำให้การพัฒนาการเจริญเติบโตช้า
การดูแลรักษาสวนมะพร้าวน้ำหอม
การใส่ปุ๋ย
ปีที่ 1 หลังปลูกมะพร้าวไปแล้ว 4 เดือน เริ่มให้ปุ๋ยครั้งแรก โดยใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 , 12-12-17-2 อัตราต้นละ 1 กก. +แมกนีเซียมซัลเฟต 200 กรัม ครั้งที่ 2 ใส่ในอัตราเดิมในช่วงปลายฤดูฝน
ปีที่ 2 ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 ,12-12-17-2 อัตรา 2 กก./ต้น/ปี แมกนีเซียมซัลเฟต 300 กรัม/ต้น/ปี โดโลไมท์ 1 กก./ต้น/ปี
ปีที่ 3 ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21,12-12-17-2 อัตรา 3 กก./ต้น/ปี แมกนีเซียมซัลเฟต 400 กรัม/ต้น/ปี โดโลไมท์ 2 กก./ต้น/ปี
ปีที่ 4 ขึ้นไป ใส่ปุ๋ย 13-13-21, 12-12-17-2 อัตรา 4 กก./ต้น/ปี แมกนีเซียมซัลเฟต 500 กรัม/ต้น/ปี โดโลไมท์ 2 กก./ต้น/ปี
การใส่ปุ๋ยมะพร้าวน้ำหอม ให้แบ่งใส่ปีละ 2 ครั้ง หว่านปุ๋ยรอบ ๆ บริเวณทรงพุ่มพรวนดินตื้น ๆ กลบปุ๋ยรอบทรงพุ่ม
(นอกจากนี้ ควรใส่เกลือแกง ให้มะพร้าว 1.5 กก./ต้น/ปี เพื่อเพิ่มธาตุคลอไรด์ ช่วยให้มะพร้าวติดผลดี และมีเนื้อหนา-คำแนะนำนี้ใช้กับการปลูกมะพร้าวพันธุ์ลูกผสมชุมพร-แต่ปรับใช้กันได้ )
การให้น้ำ
น้ำ เป็นปัจจัยสำคัญต่อการทำสวนมะพร้าวน้ำหอมในฤดูแล้ง หากฝนทิ้งช่วงนานติดต่อกัน 1-2 เดือน ต้องมีการให้น้ำ
การกำจัดและควบคุมวัชพืช
ควรกำจัดวัชพืช จำพวกหญ้าคาและวัชพืชที่แย่งน้ำ แย่งอาหารอื่น ๆ บริเวณรอบโคนต้นให้หมด
การเพิ่มอินทรียวัตถุ
อินทรียวัตถุเป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากมะพร้าวน้ำหอมเป็นพืชที่ต้องการอินทรียวัตถุค่อนข้างสูง ควรใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ร่วมกับปุ๋ยเคมีอย่างน้อยปีละครั้ง หรือปีเว้นปี ขึ้นอยู่กับสภาพดินว่ามีความอุดมสมบูรณ์มากน้อยเพียงใด
การปลูกมะพร้าวน้ำหอมให้ลูกดก
คุณพิทักษ์บอกถึงเคล็ดลับของการปลูกมะพร้าวน้ำหอมให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ลูกดก และออกลูกตลอดทั้งปีว่า มีเทคนิคง่ายๆ คือ ต้องให้ถึงน้ำซึ่งสำคัญมาก จะใช้วิธีติดสปริงเกอร์ หรือวิธีใดก็ได้แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ แต่ละต้นจะใส่ปุ๋ยคอกขี้วัวแห้งปีละ 1 กระสอบ และเสริมด้วยปุ๋ยเคมีประมาณ 1-2 กิโลกรัม ที่สำคัญห้ามตัดทางมะพร้าวอย่างเด็ดขาด ต้องปล่อยให้แห้งเหี่ยวไปเองเพื่อไม่ให้ต้นสูง
วิธีการปลูกมะพร้าวน้ำหอมให้ได้รสชาติหอม หวาน
เริ่มจากการเตรียมแปลงปลูกมะพร้าว รองพื้นด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแล้วลงมือปลูกมะพร้าวแบบสามต้นสามมุม ในหลุมขนาดพอดีต้น(ฝังลงไปเพียงครึ่งลูก) ด้วยระยะห่างระหว่างต้นเพียง 1 เมตร จากนั้น นำไห 1 ลูก มาเจาะรูที่ก้นไหให้มีขนาดความกว้างประมาณ 1 หุน (1/8 นิ้ว) แล้วใส่เกลือเม็ดลงไปครึ่งไห สุดท้ายให้ใช้กระเบื้องปูพื้นเป็นฝาปิดไห แล้วฝังไหลงดินไว้ตรงกลางระหว่างต้นมะพร้าวที่ปลูกเป็นรูปสามเหลี่ยม แบบสามต้น สามมุม โดยฝังไหลึกลงไปในดินเพียงครึ่งเดียว หมั่นเติมเกลือเม็ดลงไปในไห ทุกๆ 1 ปี เนื่องจากเกลือที่ใส่ไว้ 1 ครั้ง จะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี เมื่อต้นมะพร้าวอายุได้ 5 ปี ก็จะได้น้ำมะพร้าวที่ หอม หวาน และลูกดกอีกด้วย
เคล็ดลับการรักษาความหวานของมะพร้าว
คุณพิทักษ์บอกว่าต้องใส่เกลือเพื่อเพิ่มความหวานให้กับมะพร้าว เพราะเราปลูกไปนานดินเริ่มจืด หนึ่งปีควรใส่2ครั้ง และใส่ครั้งละครึ่งกิโลหรือสองกำมือ ให้หว่านบริเวณตรงพุ่มเขา เสร็จแล้วก็รดน้ำ
คุณพิทักษ์ยังแถม เทคนิคการดูว่าทลายไหนในหนึ่งต้นจะสามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว ด้วยการสังเกตก่อนว่า กากใบเวียนซ้ายหรือเวียนขวา ดูอันที่เวียนซ้าย แล้วสังเกตดูจั่นดอกว่าอันไหนบาน หลังจากนั้นก็นับวนมาทางเดียวกับกากใบ 1-2-3 ถึงทลายไหนแปลว่าทลายนั้นเนื้อจะกำลังดี แต่ก็ต้องดูว่าจั่นบานมากบานน้อยด้วย ถ้าบานน้อยเนื้อมะพร้าวจะอ่อน แต่ถ้าบานมากเนื้อจะหนา คุณพิทักบอกว่าเนื้อหนาน้ำจะหวานกว่าเนื้อที่อ่อน แต่ส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะทานน้ำ เพราะฉะนั้นเลือกที่หวานดีสุด
มะพร้าวน้ำหอมคุณภาพจากบ้านแพ้วสมุทรสาคร
คุณพิทักษ์ พึ่งพเดช
เลขที่ 78/1 ม.6
ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว
จ.สมุทรสาคร 74120

