

"ระพี ช้างนะ : ชาวนาผู้สานฝันจากบรรพบุรุษ จากรุ่นสู่รุ่น"

ไม่ปล่อยเวลาว่างให้เปล่าประโยชน์
ตั้งใจทำในสิ่งที่ทำแล้วจะเห็นผลลัพธ์


ชีวิตคือท้องนา ท้องนาคือชีวิต
เพราะบรรพบุรุษสร้างขุมทรัพย์ไว้ให้ เราเป็นลูกหลานต้องสานต่อไปจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันผมเป็นรุ่นที่ 4 คุณระพี ช้างนะ เจ้าของที่นา 63 ไร่ เดิมมี 33 ไร่ ซื้อเพิ่มอีก 30 ไร่ แห่งบ้านไร่อ้อย หมู่ 3 ตำบลช่องสะแก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เล่าไปด้วยสีหน้าแห่งความสุขและความภาคภูมิใจในอาชีพทำนาของตนเอง ทำนาด้วยแรงกายและแรงใจ ซึ่งมีผู้ชี้แนะและแนะนำความรู้ในการทำนามาจนถึงทุกวันนี้ และภูมิใจมากที่สุดก็คือ มีแม่ที่คอยเป็นแบบอย่างที่ดีตลอดมา คุณระพีปลูกพืชได้ทุกอย่างหลังจากว่างเว้นจากการทำนา ไม่ว่าจะเป็นตะไคร้ มะเขือพวง ดอกดาวเรือง กะเพรา โหระพา และพืชอีกหลายๆอย่าง ในลักษณะเกษตรผสมผสาน ไม่ใช่การปลูกข้าวอย่างเดียว รวมๆแล้วสร้างรายได้ให้เขาหลักแสน หลักล้าน จากผืนนาแห่งนี้
เป็นชาวนาใช่ว่าจะปลูกข้าวในนาอย่างเดียว เรียนรู้ศึกษาสร้างรายได้เพิ่มจากท้องนาแห่งนี้ด้วยพืชชนิดอื่นก็ได้
คุณระพี ช้างนะ เกิดเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2519 อายุ 39 ปี เป็นคนจังหวัดเพชรบุรีโดยกำเนิด มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน คุณระพี เป็นคนกลาง มีพี่สาว 1 คน น้องสาว 1 คน ซึ่งมีอาชีพครูทั้งคู่ คุณระพีจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนวัดนาค แบ่งอุทิศวิทยาคาร และศึกษาต่อ กศน. จนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยความที่เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวจึงต้องช่วยพ่อ แม่ ทำสวน ทำนา มีวิถีชีวิตอยู่กับท้องทุ่งนามาตั้งแต่เกิด และเป็นคนที่ไม่อยากไปไหนไกลบ้านจึงมุ่งมั่นพยายามทำงานทุกอย่างที่บ้านให้ประสบผลสำเร็จ
ปัจจุบันรับช่วงทำนาเองเต็มตัวระยะเวลา 11 ปี กับพันธ์ุข้าวที่ปลูกจะเป็นพันธ์ุข้าวชัยนาท กับ พิษณุโลก ทำนา 2-3 ครั้งต่อปี ได้ผลผลิตอยู่ที่ 43 ตัน คุณระพีทำทุกอย่างครบวงจร มีเครื่องสีข้าวเอง เครื่องคัดข้าวเอง ในแต่ละวันจะมีชาวบ้านในหมู่บ้านเอาข้าวเปลือกมาให้สี โดยคิดเป็นข้าว 10 กิโลกรัม คุณระพีจะได้ข้าว 3 กิโลกรัม และจะได้ปลายข้าวอีก 2.5 กิโลกรัม(กิโลกรัมละ 10 บาท) รำข้าว 3 กิโลกรัม(กิโลกรัมละ 8 บาท) ส่วนเครื่องคัดข้าวก็เอาไว้คัดข้าวปลูกไว้เป็นพันธ์ุข้าวรอบต่อไป จะทำให้ได้เมล็ดข้าวที่ไม่มีขยะ ไม่มีฝุ่น
ปลดหนี้เงินล้านในระยะเวลา 1 ปี กับ 5 เดือน
ใช่ว่าบรรพบุรุษจะมอบสินทรัพย์ไว้ให้เพียงอย่างเดียวยังทิ้งหนี้สินก้อนโตหลักล้านไว้ด้วย สาเหตุจากการไปค้ำประกันให้บุคคลในหมู่บ้าน ครอบครัวคุณระพีจึงต้องรับภาระไว้ทั้งหมด ด้วยความที่คุณระพีเป็นคนขยัน ชีวิตนี้อุทิศให้กับท้องนา การทำนาข้าวให้ได้ผลสำเร็จจึงหมั่นศึกษาหาความรู้เพื่อมาใช้ให้กับนาข้าวของตนเอง เน้นการลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตและพี่ระพีก็ทำสำเร็จดังใจหวัง ปลูกข้าวได้ผลผลิตดีตรงกับความต้องการ การจำหน่ายข้าวของพีระพีถ้าเป็นเมื่อก่อนจะเน้นขายส่งตามโรงสีต่างๆ แต่ด้วยยุคเศรษฐกิจปัจจุบันราคาข้าวไม่ดีเท่าที่ควร พี่ระพีจึงมีแนวทางใหม่ปัจจุบันข้าวที่เก็บเกี่ยวได้ทั้งหมดจะเก็บไว้ขายกับกลุ่มผู้เลี้ยงไก่ชนจะขายข้าวเปลือกได้ในราคาดี แทบจะมีไม่เพียงพอต่อการจำหน่ายทำให้มีหนทางในการจำหน่ายข้าวที่มีรายได้ที่มั่นคง นอกจากนั้นก็การมีโรงสีข้าวเก็บรายได้เล็กน้อยจากชาวบ้านในหมู่บ้าน
ด้วยความที่พี่ระพีไม่เคยปล่อยเวลาว่างให้เปล่าประโยชน์ เมื่อว่างเว้นจากการทำนาก็ทำการยกร่องในนาข้าวด้วยการใช้พื้นที่เพียง 7 ไร่ ปลูกตะไคร้ เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 5 เดือน ก็สามารถตัดขายกับแม่ค้าและส่งออกต่างประเทศราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ10-20 บาท สร้างรายได้หลักแสนปลายๆให้กับพี่ระพีให้อีก นอกเหนือจากการปลูกตะไคร้แล้ว พี่ระพียังปลูกดอกดาวเรือง ดอกบัว มะเขือพวง กะเพรา โหระพา ผักสวนครัวต่างๆ ในท้องนาของตนเองด้วยความขยันและมุมานะจนได้รับผลสำเร็จ ซึ่งปัจจุบันพี่ระพีสามารถปลดหนี้ให้กับบรรพบุรุษจนหมด และยังสามารถซื้อที่นาข้างๆแปลงนาของตนเองได้เพิ่มขึ้นจากเดิมอีกด้วย ทำให้ทุกวันนี้พี่ระพีและครอบครัวมีรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขมากๆจากท้องนาแห่งนี
นอกเหนือจากงานหลักจากท้องทุ่งนาแล้ว วิถีชีวิตประจำวันตื่นเช้าขึ้นมาไปช่วยหลวงตารับของบิณฑบาตรก่อน ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาบ้างให้จิตใจสบาย มีสติในการดำเนินชีวิต จากนั้นก็คว้ารถซาเล้งคู่ใจกับสุนัขอีก 3-4 ตัว ไปเป็นเพื่อนเยี่ยมเยือนท้องนาตามประสาหนุ่มโสด หรือบางช่วงเวลาก็ต้องคอยต้อนรับหน่วยงานที่ต้องมาศึกษาดูงานข้อมูลการทำนา การทำน้ำหมัก สูตรปุ๋ยในการบำรุงนาข้าว การดูแลนาข้าว ก็ได้ถ่ายทอดข้อมูลให้ไปเพื่อเป็นประโยชน์ให้กับผู้ร่วมอาชีพเดียวกัน บางส่วนก็โทรมาสอบถามจากต่างจังหวัดก็มี ก็ยินดีให้ข้อมูล

ท้องทุ่งนาแห่งความภาคภูมิใจ
คุณระพีเป็นเกษตรกรชาวนารุ่นใหม่ไฟแรง เช้ายันค่ำจะใช้ชีวิตอยู่กับท้องทุ่งนาเป็นส่วนใหญ่ เข้าใจสภาพดิน น้ำ อากาศ ของท้องนาอย่างดี พยายามเรียนรู้ศึกษาหาความรู้กับการทดลองสูตรปุ๋ย สูตรน้ำหมัก หลากหลายสูตรเน้นปลอดสารเคมี มาใช้กับนาข้าว ทำแล้วก็ประสบผลสำเร็จมากกมายหลายสูตร มีชาวนาในพื้นที่และต่างจังหวัดมาสอบถามข้อมูลจำนวนมากก็มีคำแนะนำให้กับเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันไปทำตามให้เกิดผล ล่าสุดกับการทดลองสูตรใช้แกลบดิบบำรุงดินในนาข้าว ช่วยให้ดินร่วยซุย มีสารอาหารในดินเพิ่มขึ้นเป็นสารอาหารที่ตรงกับความต้องการของข้าว ด้วยวิธีการคือก่อนที่จะทำเทือกให้ใส่แกลบในนาทิ้งไว้ 3 วัน จากนั้นผันน้ำเข้านาให้ท่วมแกลบแล้วตีเทือก เมื่อหว่านข้าวจะช่วยให้ข้าวเจริญเติบโตได้ดี
เฝ้าดูทุกวิธีการเจริญเติบโต รู้จักวงจรของข้าว
รับช่วงการทำนามากว่า 10 ปี ชีวิตคลุกคลีกับท้องนา กว่าจะเป็นเมล็ดข้าวแต่ละเม็ด ต้องเริ่มใส่ใจทุกขั้นตอน ทำอย่างไรให้ได้ผลผลิตข้าวที่ดี เจริญเติบโตงอกงามเป็นที่พอใจ อย่างเช่นความรู้ที่จะแนะนำนี้ก็คือ เมื่ือหว่านข้าวเสร็จแล้วก็ปล่อยน้ำทิ้งออกจากนานาน 1 เดือน เพื่อให้ดินแตกระแหง ช่วยให้รากข้าวลงลึก เพราะรากข้าวจะหาน้ำหาอาหารเองแถมยังเอามาสสะสมที่โคนราก สร้างภูมฺิคุ้มกันโรคได้ดี ข้าวจะแตกกอเต็มที่จากข้าว 1 ต้น จะแตกกอเป็น 3 ต้น จากนั้นก็ใส่ปุ๋ยบำรุงตามปกติ คุ้มค่าต่อการใส่ใจ
ตำแหน่งหมอดินอาสาประจำหมู่บ้าน
-เป็นวิทยากรศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรหุบกะพง
-ได้รับรางวัลพันธ์ุข้าวยอดนิยมอันดับ 1 ปี พ.ศ.2546 จากหน่วยงานการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ส่งโดยบริษัททัวร์โดยใช้หัวข้อในการประกวดดังนี้
1.ข้าวไม่มีสารตกค้าง 2.ข้าวเม็ดสวยไม่ลีบหัก 3.หุงขึ้นหม้อตรงตามเวลาที่กำหนด 4.ใช้เวลา 5 ชม.ข้าวยังหอมนุ่มไม่แข็งกระด้าง
กว่าจะมาเป็นเมล็ดข้าวต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน




