

"ยอดหญิง พรชัยสิทธิ์ : ยอดหญิง สวนมะพร้าวน้ำหอมเปิดให้เที่ยว ของกินอร่อย ได้ความรู้กลับไปแบบจัดเต็ม"

เอาของที่ดีที่สุดของเรา
ส่งให้ลูกค้า
ส่งให้ลูกค้า

ถ้าเป็นเรื่องของการผลิต คุณส้มจะยึดคติ "เอาของที่ดีที่สุดของเราส่งให้ลูกค้า" ทุกอย่างจะต้องทำออกมาด้วยความทุ่มเท อยากให้ของดีที่สุดออกมาจากใจของเรา จะต้องเกิดการซื้อซ้ำ เกิดการกลับมาใหม่ อยากได้ครอบครัวมากกว่าลูกค้า จึงใช้วิธีใจแลกใจ
ความสุขที่ได้จากการทำสวนมะพร้าว คือการได้มาช่วยแม่ทำ คุณส้มรู้สึกเหมือนกับเป็นเด็กที่กลับมาบ้าน กลับมาในพื้นที่ บางทีชาวบ้านก็บอกว่าจะทำไหวเหรอ จะมาช่วยไหวเหรอ แดดก็ร้อน งานก็หนัก แต่คุณส้มก็ได้พิสูจน์มา 2 ปีแล้วว่าสามารถทำได้ สามารถทำทุกอย่างได้หมดเลย วันนี้คุณส้มสามารถพาแบรนด์ของครอบครัวคาวบอยไปเป็นส่วนหนึ่ง ที่ใครมาจังหวัดฉะเชิงเทรา หรือคนที่อยากกินมะพร้าวจะต้องมาที่สวนของคุณส้ม มันเป็นความสุข ความภูมิใจที่สามารถสร้างตรงนี้มาได้ มีคนรู้จักเพิ่มมากขึ้น แล้วมีคนชมว่ามะพร้าวที่นี่อร่อย เป็นความสุขเล็ก ๆ ที่ทำให้มีกำลังใจที่จะทำต่อ
สำหรับคนที่อยากเป็นเกษตรกร คุณส้มบอกว่าคำว่าเกษตรกรมันมีหลายมิติมาก อาจจะไม่ต้องมีพื้นที่ ก็สามารถทำได้ เคยเห็นเพื่อนหรือรุ่นพี่เขาทำเกษตร เขาก็เริ่มจากการปลูกผักสลัด ให้พยายามหาดูว่าเราชอบอะไรให้เริ่มจากตรงนั้น หรือเรามีความรู้ด้านไหนก็เริ่มตรงนั้น อาจจะไม่มีพื้นที่เลยก็ได้ แต่มีไอเดีย มีความอยาก สามารถทำได้ อย่างมีช่วงหนึ่งคุณส้มเห็นพี่คนหนึ่งที่รู้จักเขาชอบปลูกผัก แต่ว่าเขาไม่มีพื้นที่ เขาก็เลยคิดเป็นชุดเพาะปลูก ในช่วงโควิดก็สามารถทำรายได้ออกมาได้ดีเลย เขาเริ่มจากการปลูกผัก แล้วก็จัดเป็นเซ็ต เป็นชุด แล้วส่งต่อสิ่งที่เขาชอบไปให้คนอื่น มันก็เกิดขึ้นได้ เป็นไปได้
วันนี้เรามาอยู่กับคนชื่อส้ม แต่ทำมะพร้าว หรือคุณยอดหญิง พรชัยสิทธิ์ ทำธุรกิจอยู่ที่สวนมะพร้าวน้ำหอมโคโค่ คาวบอย อ.แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา
คุณส้มเรียนจบด้านบริหารการจัดการทรัพยากรการเกษตร จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นคณะใหม่ของที่นั่น จะสอนด้านการเกษตรที่ไม่เหมือนเกษตรแนวอื่น คือจะเน้นการเป็นผู้ประกอบการและการกลับมาพัฒนาบ้านเกิดโดยตรง คุณส้มเรียนเป็นรุ่นที่ห้า ปัจจุบันมีประมาณ 10 รุ่นแล้ว สาเหตุที่เลือกเรียนด้านนี้เพราะตอนแรกคุณส้มก็ยังอยากเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ ด้านหมอ ด้านสุขภาพ แต่มาคิดอีกทีว่าตนเองมีพื้นที่สวนอยู่แล้ว แล้วก็เป็นลูกสาวคนกลางที่ค่อนข้างจะลุยหน่อย ถ้าต่อไปไปทำงานด้านอื่นพ่อกับแม่จะไม่มีใครช่วย ก็เลยอยากที่จะไปเรียนมาแล้วเอามาต่อยอดทำสวนของที่บ้าน
สวนของคุณส้มชื่อว่า โคโค่ คาวบอย เพราะเมื่อก่อนพ่อจะชอบแต่งตัวเป็นคาวบอยไปขายของตามตลาดนัด การแต่งตัวสไตล์นี้ทำให้ลูกค้าติดตาแล้วก็จำได้ว่าต้องมาซื้อกับพ่อค้าคนนี้ เมื่อสองปีก่อนคุณส้มกับพี่สาวจึงตั้งชื่อสวนว่า โคโค่ คาวบอย โคโค่ก็คือโคโค่นัท คาวบอยก็คือสไตล์การแต่งตัวของพ่อ แล้วมันมีความหมายแฝงอยู่อันหนึ่งก็คือ อยากทำให้การเกษตรเป็นการเกษตรที่ทันสมัย ทำแล้วรู้สึกสนุก เหมือนที่เราเห็นคาวบอยที่ต่างประเทศ มันดูเท่มาก ก็เลยใช้ชื่อนี้
จุดเริ่มต้นของสวนโคโค่คาวบอยก็คือ เมื่อก่อนมีการทำนาเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงตะพาบ และเคยทำสวนมะม่วง เพราะว่าแปดริ้ว มะม่วงจะค่อนข้างจะดี โดยเฉพาะมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง แต่ว่าพอเวลาเปลี่ยนไป ทุกคนเริ่มปลูกมะม่วงขึ้น มันเกิดการล้นตลาด ราคาเลยตกต่ำ แล้วปีหนึ่งเก็บผลผลิตได้แค่ครั้งเดียว แล้วด้วยพื้นที่ของคุณพ่ออยู่ตรงนี้ ตรงตำบลบางตลาด ของคุณแม่อยู่เขตบ้านสร้างติดกับบางคล้า ซึ่งตรงนี้จะปลูกมะม่วงแค่ไม่กี่ต้น พ่อบอกว่าเริ่มต้นจากการปลูกมะม่วงแค่ 10 ต้น ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ดีมาก พ่อกับแม่ก็เลยขยายจาก 10 ต้น มาเป็น 5 ไร่ 10 ไร่ จนถึง 20 ไร่ จนมาทำสวนมะพร้าวแทน
เมื่อพ่อมาทำสวนมะพร้าว ก็มีการขายกับพ่อค้าคนกลาง มีการมารับเหมาสวนแบบซื้อทั้งสวน แล้วจะมีสวนบางส่วนที่พ่อค้าเขารับไม่ไหว สมมุติว่า 10 ไร่ ตัดได้ประมาณ 3,000 ถ้า 60 ไร่ มันตัดได้เยอะมาก จะมีบางส่วนที่เขาไม่รับ แล้วมะพร้าวที่เหลือจะไปไหนต่อ พ่อกับแม่ก็เลยเริ่มแปรรูปเป็นมะพร้าวเผา เริ่มขายตามตลาดนัด เข็นรถเข็นขาย เมื่อแปรรูปเป็นแบบนั้นแล้ว พ่อกับแม่จะเป็นคนที่พยายามคัดสรรพันธุ์ อันไหนต้นไหนที่กินอร่อยให้ผลดกก็จะเก็บพันธุ์ไว้ทำเอง แล้วก็พัฒนาไปเรื่อย ๆ จนมาสู่รุ่นที่สอง ก็คือรุ่นคุณส้มกับพี่สาว
พี่สาวของคุณส้มเป็นวิศวกรด้านอาหาร ก็มาคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้สวนมะพร้าวของครอบครัวเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ก็เลยมาที่คุณส้ม ให้คุณส้มอยู่หน้าร้าน คอยเป็นด่านหน้า คอยพัฒนาคุณภาพสินค้าให้มีมาตรฐาน แล้วก็มีการแปรรูปสินค้า โดยที่สวนโคโค่คาวบอยจะเน้นว่า เรามีพื้นที่ประมาณ 60 ไร่ จะไม่อยากเพิ่มพื้นที่มากกว่านี้ เพราะเรื่องของการทำสวนจะทำไม่ค่อยไหวแล้วด้วยจำนวนคนที่น้อยลง อยากจะพัฒนาคุณภาพของ 60 ไร่ ให้เกิดเงินได้ทุกส่วน พยายามคิดเป็นโมเดลที่ครบวงจร จะพยายามดูทุกอย่างว่ามันสามารถนำไปสร้าง product ของอันอื่นได้ไหม แล้วอะไรที่เป็นสิ่งเหลือใช้ อย่างเช่น เปลือกมะพร้าว กะลามะพร้าว จะทำอย่างไรจึงจะกำจัดตรงนั้นได้ ก่อให้เกิดค่าเงินได้ ส่วนตัวกะลาก็มีการแปรรูปเป็นไอศครีม มะพร้าวที่ข้างนอกมันไม่สวยแต่ข้างในคุณภาพมันยังดีอยู่ก็นำตรงส่วนนั้นมาทำเป็นไอศครีม แล้วจะมีมะพร้าวแกงที่เป็นตัวกะลา ก็นำมาทำเป็นถ่าน เพราะว่าถ่านที่เป็นตัวกะลาเป็นถ่านที่แกร่ง และให้ค่าความร้อนที่สูง ถ้าเกิดเผาด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม จะทำให้เกิดควันน้อยลง จะไร้สารก่อมะเร็งด้วย ก็เลยทำเป็น product คุณส้มพยายามใช้ประโยชน์จากทุกอย่างในสวนให้เกิดเป็นเงินได้
นอกจากการแปรรูปผลิตภัณฑ์แล้ว ยังมีการจัดเป็นกรุ๊ปให้นักท่องเที่ยวเข้ามา แล้วมีการทำ workshop อาศัยจากที่มีความรู้เกี่ยวกับสวนมะพร้าว การดูแลมะพร้าว หรือด้านการเกษตรอื่น ๆ คนที่สนใจก็สามารถสอบถามเข้ามาได้เลยทุกวันเสาร์และอาทิตย์มาพูดคุยกันได้ แต่จะเป็นแค่ช่วงเช้า เพราะว่าลูกค้าจะยังน้อยอยู่ แล้วถ้าเป็นกรุ๊ปมาทำเป็นกิจกรรม ก็จะมีกิจกรรมเวิร์คช็อปเกี่ยวกับเรื่องของการทำแกงกะลา ทำไอศครีม ทำขนม เป็นต้น จะเป็นเรื่องของมะพร้าวทั้งหมดเลย ช่วงก่อนโควิดจะเน้นเป็นกรุ๊ปใหญ่ ๆ 10 - 20 คน คล้าย ๆ กลุ่มดูงาน จะมีกิจกรรมเวิร์คช็อปให้ทำ แต่ว่าตอนนี้หลังจากโควิดเพิ่งกลับมา ก็ตั้งใจว่าจะทำเป็นเหมือนกรุ๊ปครอบครัวที่เป็นเหมือนกรุ๊ปส่วนตัวเข้ามาทำกิจกรรม กิจกรรมก็จะเน้นไปในเรื่องของการส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้ธรรมชาติ
พื้นที่ของโคโค่ คาวบอย มีทั้งหมด 60 ไร่ เป็นมะพร้าวทั้งหมดเลย เป็นมะพร้าวหมูสีกว่า 90% แต่พื้นที่แปลงจะเป็นหลาย ๆ แปลง ไม่ได้เป็นแปลงใหญ่
มะพร้าวพันธุ์หมูสี ที่นี่ชาวบ้านจะเรียกว่า พันธุ์หมูสีหม้อ แล้วก็มีหมูสีพวง รุ่นปู่เป็นคนเอาพันธุ์มาปลูกไว้ที่สวนเก่า แล้วพ่อกับแม่ของคุณส้มก็ไปชิมแล้วพบว่ามันอร่อย ก็เลยขยายพันธุ์มาเรื่อย ๆ พันธุ์หมูสีลักษณะเด่นคือจะให้รสชาติที่หวานหอม แม้เนื้อจะหนา ก็ยังคงนุ่มอยู่ เป็นพันธุ์ที่โตช้า ลักษณะของต้นจะเตี้ย ค่อย ๆ โต จะโตช้ากว่าพันธุ์อื่น ๆ คือประมาณ 10 ปีแล้วก็ยังสามารถเอื้อมมือตัดถึงได้ มีอายุประมาณ 25 - 30 ปี ก็จะล้มเขาแล้ว เพราะว่ามันจะเกินเอื้อม เกินตะขอ จะเก็บเกี่ยวยากแล้ว พันธุ์หมูสีนี้จะเป็นพันธุ์ที่ให้รสชาติที่อร่อย แล้วยังให้ผลผลิตที่ดี แต่ว่าลูกเขาจะไม่ใหญ่ พันธุ์น้ำหอมลูกจะไม่ใหญ่ พันธุ์นี้ถ้าปลูกดูแลดี ๆ ประมาณสองปีครึ่งก็เริ่มออกจั่นแล้ว สามารถเริ่มเก็บผลผลิตได้ 3 ปีก็เก็บได้แล้ว แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการดูแล
ระยะการเก็บ ถ้าเริ่มนับตั้งแต่ออกจากจั่น จะนับไปอีก 6 เดือน จะสามารถเก็บได้ หลังจากที่เก็บผลผลิตรอบแรก จะสามารถเก็บได้ทุก 20 วัน สามารถเก็บได้ทุกเดือนเลย หนึ่งปีจะเก็บได้ 18 ครั้ง เฉลี่ยแล้วถ้าเป็นต่อครั้งจะอยู่ประมาณ 5 - 8 ลูกต่อทลาย ซึ่งในช่วงของหน้าแล้งผลผลิตของเขาก็จะน้อย จะเป็นช่วงพักตัว ทำให้ผลผลิตน้อยลงด้วย จะไม่มีน้ำ เพราะมะพร้าวเป็นพืชที่ชอบน้ำ ปลูกตรงไหนก็ได้ขอให้มีน้ำ แต่ช่วงหน้าฝน อาจจะขึ้นไปถึง 10 - 20 ลูกก็มี
ที่สวนโคโค่ คาวบอยจะทำแบบยกร่อง สองฝั่งจะห่างอยู่ที่ 5 x 6 เมตรโดยการยกร่องจะมีข้อดีอยู่สองอย่าง คือ ข้อแรกการดูแล มะพร้าวเป็นพืชที่ชอบน้ำ เขาจะดูดน้ำตลอดเวลา รากเขาสามารถขยายได้เกือบ 2 เมตร เขาสามารถขยายไปได้รอบตัว หากินได้เก่งมาก เขาชอบน้ำ ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำ ช่วงหน้าแล้งถ้าเกิดน้ำไม่มีจริง ๆ ลูกของเขาจะชะงักทันที คือจะหยุดให้ผลผลิต ซึ่งทางสวนจะต้องใส่น้ำจืดตลอด เขาจะชอบน้ำจืด หรือน้ำกร่อย
ข้อดีอีกข้อหนึ่งก็คือ เป็นเหมือนการช่วยลำเลียง ในหน้าแล้งจะใช้รถสามล้อเข้าไป ใช้รถยนต์เข้าไปได้ แต่ช่วงหน้าฝนพื้นดินมันเปียก ก็จะตัดลงน้ำเพื่อช่วยลดแรงกระแทก แล้วก็ลำเลียงออกมาได้ง่าย
ส่วนการทำให้หวานนั้น คุณส้มบอกว่าคัดที่พันธุ์ พันธุ์มีผลมากในเรื่องของรสชาติ อีกอันหนึ่งก็คือเก็บในช่วงเวลาที่เหมาะสม ประมาณช่วง 20 - 24 วันเป็นวันที่เหมาะสม เขาจะสร้างเนื้อที่สามารถจะทานได้ ทั้งน้ำก็หวานและเนื้อก็อร่อย จะเรียกว่าประมาณชั้นครึ่งถึงสองชั้น เนื้อมันจะนุ่ม ๆ น้ำจะหวาน ที่สวนโคโค่ คาวบอย ความหวานจะอยู่ที่ประมาณเจ็ดบริกซ์ เป็นความหวานที่สามารถทานได้ตลอดเวลา กินแล้วไม่รู้สึกแสบคอ กินแล้วรู้สึกสดชื่น แต่อีกอันหนึ่งก็คือเรื่องของการใส่ปุ๋ย ที่สวนโคโค่ คาวบอยจะใช้เป็นปุ๋ยสูตร แล้วก็จะมีเป็นปุ๋ยขี้ไก่ ที่ช่วยในเรื่องให้ผลผลิตเยอะ อีกเรื่องหนึ่งคือที่แปดริ้วจะได้น้ำกร่อยมาด้วย มันก็เลยทำให้รสชาติหวานอร่อย
นอกจากรสชาติของมะพร้าวที่หวานจากการคัดพันธุ์มาอย่างดี จุดเด่นของสวนโคโค่ คาวบอยอีกอย่าง คือ เป็นสวนแบบครอบครัว ใครมาถามอะไรอยากจะรู้อะไร ยินดีให้ ถ้ามีอะไรที่สามารถบอกได้ทางสวนยินดี อยู่กันแบบครอบครัว มีญาติพี่น้องหรือคนในพื้นที่คอยมา Support ตลอดเวลา ใครก็ตามที่มาแล้วจะรู้สึกอบอุ่นใจ สินค้าทุกอย่างจะเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยเหมือนเราซื้อเอง ครอบครัวคุณส้มคิดเสมอว่าเราอยากได้แบบไหนก็ขายแบบนั้น คือขายของดีที่สุด
ช่องทางการตลาดของคุณส้มมี 3 ช่อง คือ 1.หน้าร้านจะเป็นที่ฟาร์มช็อบ ที่สวนจะมีจำหน่ายสินค้าแบบที่หน้าร้านเลย หรือว่าโทรจองสินค้าแล้วมานัดรับที่สวนก็ได้ 2.ทางออนไลน์ จะมีเพจ Facebook ชื่อว่า โคโค่ คาวบอย ซึ่งตรงนี้จะเป็นเหมือนที่รับสินค้า มีการจัดส่งทางเคอรี่เป็นโคโค่บอกซ์ทั่วประเทศเลย และ 3.จะเป็นเหมือนการขายส่ง ซึ่งผลผลิตยังคงมีเยอะอยู่ แล้วก็มีพ่อค้าประจำที่ค้ากันอยู่ประมาณ 30 ปีแล้วตั้งแต่เริ่มต้นเลย ที่ขายผลผลิตออกไป
รายได้เฉลี่ยจากหน้าสวน ถ้าเกิดผลผลิตจะเฉลี่ยออกมาลูกละ 10 บาท ก็จะเกือบ 100,000 บาทได้ในส่วนของมะพร้าว ถ้าปีหนึ่งก็เจ็ดหลักได้
และในอนาคต คุณส้มอยากจะต่อยอดไปสู่ชุมชน อยากจะใช้เป็นเส้นทางเรียนรู้และท่องเที่ยว ที่ใช้รถจากชาวบ้าน หรือ รถอีแต๋น หรือยานพาหนะที่เขาใช้ในการเกษตรมารับนักท่องเที่ยว แล้วก็พาไปเที่ยวตามจุดต่าง ๆ เพราะมันยังมีการเกษตรอย่างอื่นที่น่าสนใจอยู่ เช่น การตกกุ้งริมแม่น้ำ หรือว่าการปลูกผักเกษตรผสมผสาน หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่นี่ก็มีเยอะ อยากทำเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเกษตรชุมชน เป็นเหมือนช่องทางหนึ่งที่สามารถช่วยชุมชนได้ ถ้ามาเสาร์ - อาทิตย์สามารถมาทำกิจกรรมได้เลย แต่ตอนนี้ยังไปไม่ถึง เพราะว่าพื้นที่ยังอยู่ลึก ยังอยู่ในระหว่างเตรียมการ
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
คุณส้ม - ยอดหญิง พรชัยสิทธิ์ เจ้าของแบรนด์ "Coco cowbow"
ที่อยู่ : 17 หมู่ 1 ตำบลบางตลาด อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา 24110
Facebook : Cococowboy สวนมะพร้าวน้ำหอมแปดริ้ว
ยอดหญิง สวนมะพร้าวน้ำหอมเปิดให้เที่ยว ของกินอร่อย ได้ความรู้กลับไปแบบจัดเต็ม [ rbk | รักบ้านเกิด ]
เรื่อง/ภาพโดย: นนท์ ทีมงานรักบ้านเกิด

