เกษตรกรต้นแบบ

"ศรีเพ็ญ พงศ์ทรัพย์เจริญ : เลี้ยงปูนาน้ำใสบนตึก สร้างรายได้หลักแสน"

 18 พฤศจิกายน 2563 6,668
จ.กรุงเทพมหานคร
ไม่มีข้อแม้ ไม่มีข้ออ้าง
ไม่มีข้อจำกัด
มันจะทำให้เราทำได้ทุกอย่าง

"เป็นคนตรง ๆ ซื่อสัตย์" คุณศรีเชื่อว่าคำพูดจะเป็นนาย ทุกคนจะเชื่อได้ในคำพูดเรา เป็นคนพูดจริงทำจริง เป็นนักลงมือทำ ชีวิตของคุณศรีไม่มีข้อแม้ ไม่มีข้ออ้าง ไม่มีข้อจำกัด จะทำได้ทุกอย่าง ถ้าจะเอาอะไรเดี๋ยวก็จะจัดให้ จะไม่มีการปฏิเสธว่าไม่ได้ ทำได้โดยไม่มีข้อแม้

คุณศรีทำธุรกิจจิวเวอรี่มาก่อน จะรู้ว่าการทำธุรกิจจิวเวอรี่จะเครียดมาก เพราะทุกอย่างเป็นเงิน ต้องระแวดระวัง ต้องละเอียดลออ แต่พอคุณศรีมาทำปู รู้สึกว่าทำได้ดีกว่า เพราะว่ามีความสุขกับการทำอาชีพ ตอนแรกที่ทำจิวเวอรี่ก็มีความสุข แต่ตอนหลังมันเหมือนเป็นอาชีพที่ต้องทำ แต่ทำปูคืออยากอยู่กับมันทุกวัน สนุกกับการคิดทุกวันว่าต้องทำอะไร ต้องปรับปรุงอะไร ต้องแก้ไขอะไร แต่มีความสุข ไม่มีอะไรมากดดัน มีความสุขในทุก ๆ วัน

คุณศรีอยากจะแนะนำว่า ถ้าคุณนั่งคิด ถ้าคุณนั่งฝัน คุณก็จะได้แต่ฝัน แต่ถ้าคุณลงมือทำ คุณก็จะได้ผลลัพธ์ ไม่ว่าความสำเร็จของคุณจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน คุณก็จะต้องเริ่มต้นที่ลงมือทำ วันนี้ปลาเร็วกินปลาช้า ไม่ใช่ปลาใหญ่กินปลาเล็กแล้ว "ปลาไวกินปลาช้า" มันจะเล็กมันจะใหญ่กว่าขอให้คุณลงมือทำเถอะ อย่าคิดว่าเราไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีอะไร เพราะเวลาที่คุณเสี่ยงไปแล้ว ประสบการณ์จะสอนเราเอง ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไร ไม่เฉพาะปู ประสบการณ์มันจะสอนเรา

คุณศรี - ศรีเพ็ญ พงศ์ทรัพย์เจริญ ทำธุรกิจจิวเวอรี่มากว่า 30 ปี ในนามบริษัทเอสพี Silver คุณศรีประสบความสำเร็จในยอดขายของจิวเวอรี่มาแล้ว แต่ระยะหลังหลังจิวเวอรี่เริ่มซบเซาลง มีวันหนึ่งคุณศรีไปตามเงินลูกค้า แต่ตามไม่ได้ แต่คลิปปูนามันเด้งขึ้นมา คุณศรีก็เลยตั้งใจเลี้ยงปูนานี่แหละ เพราะว่ามีพื้นที่ว่าง แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรเยอะ เพราะว่าปูนาเลี้ยงที่ไหน เลี้ยงอย่างไร เลี้ยงแล้วขายใคร แล้วใครจะเป็นคนกิน อันนี้ไม่มีข้อมูลเลย แต่ด้วยความที่เป็นนักลงมือทำ แล้วเขาบอกว่าปูนาเงินล้าน ก็เลี้ยงเลย

 

พอเลี้ยงแล้ว หลังจากที่เลี้ยงแล้วก็รู้สึกตลอดเวลาเลยว่า เลี้ยงปูแล้วเราจะกินมันไหม เลี้ยงในบ่อดินเต็มไปด้วยขี้ดินแล้วเราจะกินมันไหม ก็เดินวนอยู่อย่างนั้น แล้วก็คิดอยู่ทุกวันว่าถ้าเป็นเรา เราจะกินหรือเปล่า จนวันหนึ่งบ่อดินของที่คุณศรีมีมันน้อย ต้องการจะขยายแต่ทำบ่อไม่ทัน ลูกชายก็บอกให้ใช้กระชังจะดีกว่า คุณศรีก็เลยไปสั่งกระชังที่เลี้ยงปลาดุกเลี้ยงกบมา แต่มันไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไหร่ ที่สำคัญต้องนำดินมาใส่ในกระชัง เพราะเขาสอนกันมาว่าปูต้องอยู่ในดิน เพราะเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำครึ่งหนึ่ง ต้องใส่น้ำครึ่งหนึ่งดินครึ่งหนึ่ง แต่พอขนดินมาก ๆ ก็เหนื่อย ตอนนั้นคุณศรีไม่มีลูกน้อง ต้องขนดินเอง ทำเองทำกับสามีสองคนก็เหนื่อยมาก ๆ จนใกล้ค่ำ คุณศรีก็เลยบอกว่าปูมันยังไม่มีบ่อจะอยู่ จะใส่ในน้ำใส ๆ นี่แหละ เพราะว่ามันเหนื่อยแล้ว แล้วก็มืดแล้วด้วย ขณะที่ใส่ลงไปใจคอก็ไม่ดี รีบตื่นแต่เช้าลงมาดู ตีห้าก็ลงมาดูแล้วว่ามันจะตายหมดไหม ปรากฏว่าปูมันอยู่ได้ไม่ตายสักตัว ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นนวัตกรรมใหม่เลี้ยงปูน้ำใสไร้พยาธิและสารเคมี พอคอนเทนท์นี้ออกไปคุณศรีโพสต์ในเพจก็ได้รับการตอบรับจากหนังสือเกษตรต่าง ๆ รายการทีวีก็เป็นแรงสนับสนุนขับเคลื่อน ให้ด้วย ก็เลยเป็นที่มาของคุณศรีที่ต้องจัดอบรม เพราะว่ามันรับไม่ไหว พูดไม่ไหว ต้องพูดเป็นรอบ ๆ ทีแรกก็รอบฟรี ๆ 3 - 4 รอบ บรรยายฟรี แล้วต้องเตรียมน้ำเตรียมอาหารทุกอย่าง ก็มาคิดว่าเราจะทำธุรกิจนี่นา ก็เลยเปิดอบรม พอเปิดอบรมแล้วก็เกินความคาดหมายอีก เพราะคนสนใจเยอะมาก บางรอบทำเป็นรอบใหญ่รอบพิเศษ วาระพิเศษ 200 ถึง 300 คนก็เต็มทุกรอบ มันก็เลยทำให้คุณศรีต้องพัฒนาตัวเอง เพราะการที่จะให้ความรู้คนอื่น ตัวเราต้องรู้จริง จะเน้นในเรื่องการพัฒนา การพัฒนามาตรฐานสินค้าคุณภาพเท่านั้น คุณศรีจะเน้นมากเรื่องคุณภาพและเรื่องมาตรฐานตั้งแต่พ่อแม่พันธุ์ จะต้องได้รับการขุนอย่างดีจากอาหารที่หลากหลายให้แม่พันธุ์แข็งแรงสมบูรณ์ ถึงมือลูกค้าแล้วจะต้องไม่ตาย ถ้าตายจะมีเคลมให้แบบ 100% ถ้าท้องอัตราการแท้งก็จะน้อย ปูถ้าร่างกายไม่แข็งแรงเขาจะแท้ง หรือถ้าเราไปรบกวนเขาเกิดความเครียดเขาก็จะแท้ง แต่ที่ CRAB HOUSE เลี้ยงมาอัตราการแท้งน้อย เพราะว่าปูได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน แล้วที่สำคัญพ่อแม่พันธุ์ที่ขายออกไปแล้ว จะส่งพร้อมคู่มือการเลี้ยงให้กับเกษตรกรหรือให้กับผู้เลี้ยงได้มีความรู้เบื้องต้น ถ้าไม่ว่างที่จะเข้ามาอบรมกับเรา ก็จะมีคู่มือเป็นเครื่องมือให้ อุปกรณ์มีครบถ้วนเพราะขายทั้งระบบ ตอนนี้จะขายเป็นชุดธุรกิจ นอกจากอุปกรณ์การเลี้ยงครบวงจร ก็จะมีชุดธุรกิจ มีหนึ่งฟาร์มหนึ่งจังหวัดให้ลูกค้าเลือกลงทุน เพราะว่าสำหรับตัวคุณศรีเอง เมื่อเลี้ยงปูมาสามปีกว่า หลังจากที่ได้ทำผลิตภัณฑ์ เริ่มแปรรูป เริ่มทำผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ของคุณศรีค่อนข้างได้รับการตอบรับที่ดี ลูกค้าจะรีวิวให้เยอะมาก ตอนนี้ที่แปรรูปอยู่แล้ว มีน้ำพริกมีปูดอง ขนมจีนปูนา ขนมจีนน้ำยาปูนา มีอ่องปู แล้วก็มีปูหลน

สำหรับ CRAB HOUSE เห็นมูลค่าของมันของปู ของน้ำปูมีสารอาหารสำหรับเพาะพันธุ์ผักได้ดีมาก ๆ แล้วก็เอาไปแมตช์กับการปลูกผักแล้ว ตอนนี้ก็ทำแปลงทดลองผลยังไม่ 100% แต่ก็ไปซักประมาณ 60 ถึง 70% แล้ว จากนั้นพอปู 2 - 3 เดือน สามารถนำมาแปรรูปได้แล้ว สามารถนำมาแปรรูปได้ทุกช่วงวัยอายุของมันเลย กระดองปูมีสารแคลเซียมและไคตินสูงมาก สูงกว่าปูทะเลหลายเปอร์เซ็นต์ ใช้ได้ทั้งในวงการเกษตร วงการนางงาม วงการแพทย์

ในวงการความงาม ไคตินใช้เป็นส่วนประกอบยาลดความอ้วนแล้วก็ผิวพรรณ แล้วก็ต่อยอดได้มหาศาล เรียกว่ามหาศาลจริง ๆ

ตอนนี้ CRAB HOUSE มีปูประมาณ 100 กระชัง มีตั้งแต่ปูวัยรุ่น จนถึงพ่อแม่พันธุ์

ปูเขาปรับตัวเก่ง อยู่ได้ทุกสภาพแวดล้อม ยกเว้นอากาศหนาว ซึ่งจะต้องมีวิธีที่จะทำให้มันอบอุ่น CRAB HOUSE จะใช้วิธีลดน้ำลง เพิ่มหญ้าแห้งเข้าไปให้มันหลบซ่อนหรือสแลนก็ได้เอามาคลุม ใช้สแลนสีอะไรก็ได้

โรคสำหรับปูน้อยมาก ไม่ค่อยมี อาจจะมีเป็นตะคริวบ้าง มันก็จะชักเกร็งแข็ง อันนี้จะแก้ได้ด้วยวิตามินรวม เพราะมันอาจจะได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ เขาจะเกิดอาการชักเกร็ง จะเป็นน้อยมาก ประมาณ 0.1% และนาน ๆ เจอทีหนึ่ง

การเลี้ยงปูไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องมีตึกหรือว่าคุณจะต้องมีนา แต่ว่าปูนาสามารถปรับตัวได้ในสภาพภูมิอากาศ ทุกภูมิอากาศและทุกแหล่ง ถ้าอยู่ในกรุงเทพฯ มีตึกว่าง มีอะไรว่าง คุณสามารถเลี้ยงปูได้ แต่ถ้าคุณอยู่ในต่างจังหวัด ใต้ถุน ใต้ร่มไม้ชายคาสามารถเลี้ยงปูได้ทั้งหมด และที่สำคัญ ต้องรู้ว่าคุณจะเป็นใครในอาชีพนี้ เพราะว่ามันไม่ใช่ว่าใครก็ได้มาเลี้ยงปูขาย เลี้ยงปูอย่างเดียวอาจไม่รวย แต่มันต่อยอดได้เยอะ ทุกวันนี้หลังจากที่มีการสอนแนะนำไป ทุกวันนี้มีคนไปแตก LINE ไปขายแหน ขายจอก ขายสาหร่ายกระรอกที่มีตามแหล่งน้ำ มีคนไปเลี้ยงเพื่อขาย อันนี้ก็เป็นหนึ่งอาชีพ บางคนทำเป็นน้ำหมัก ทำน้ำชีวภาพขาย ให้คนเลี้ยงปูปรับสภาพ ขึ้นอยู่กับว่าคุณเห็นอะไร มันไม่จำเป็นว่าจะต้องเลี้ยงปูอย่างเดียว คุณเห็นอะไรในธุรกิจปู คุณก็จะสามารถต่อยอดมันเป็นรายได้ได้

ตอนนี้ที่คุณศรีทำจะเน้นการทำการตลาดมากกว่า เพราะว่าตอนนี้เรามีลูกน้องอยู่ 4 คน แต่เช้ามาสิ่งที่เขาต้องทำก็คือเก็บซากปู เพราะว่าปูเป็นสัตว์มีชีวิต อย่างไรก็ต้องมีตายอยู่แล้ว ตายบ้าง ลอกคราบบ้าง กัดกันบ้าง ก็ต้องไปเก็บซักตัวออกจากบ่อ พอเก็บเสร็จแล้วก็ทำความสะอาด ก็แบ่งเป็นโซน ๆ ไปว่าวันนี้ทำโซนนี้ พรุ่งนี้ทำโซนนี้ แล้วก็มีเตรียมเตรียมสำหรับทำผลิตภัณฑ์ จะมีการแกะปู แล้วก็มีการแบ่ง อย่างแกะปูของเรากระดองต้องเก็บล้าง มันปูแยกไว้ต่างหาก ไว้ทำอ่อมปู ไว้ทำน้ำพริก ส่วนเนื้อก็จะนำแยกออกมา คั้นน้ำออกมาเป็นเนื้อปู ทำออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ เตรียมวัตถุดิบ ตอนเย็นก็เลี้ยงอาหารปู ปูกินอาหารวันละหนึ่งมื้อ อาหารที่ให้ของ CRAB HOUSE ค่อนข้างจะหลากหลายสลับสับเปลี่ยนกันไป มีอาหารเม็ด มีข้าวคลุกโครงไก่ ต้มกับโครงไก่ มีเปลือกมะพร้าว มีแหน ก็ให้สลับสับเปลี่ยนกันไป สารอาหารปูก็จะได้มีอาหารเสริม ซึ่งจะเป็นวิตามินรวมที่มีแคลเซียมและแมกนิเซียมเพื่อช่วยปูในการลอกคราบ และทำให้กระดองแข็งเร็ว ลอกแล้วไม่ตายคาคราบ

การตลาดของปูนาตอนนี้สดใสมาก ปูของ CRAB HOUSE ขายออนไลน์แล้วก็ออกทีวีค่อนข้างบ่อย ปูเป็นสัตว์ที่เลี้ยงแล้วไม่ต้องหาตลาด แค่สร้างการรับรู้ว่าคุณมีปู ก็จะมีตลาดเข้ามาชนเอง ช่องทางการตลาดกว้างมาก และตอนนี้คุณศรีกำลังเริ่มมาผลักดันเรื่องผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์แปรรูป เริ่มจะออกบูธ เริ่มส่งออกไปเกาหลี และมีจากประเทศฝรั่งเศสติดต่อเข้ามา

ทางด้านการขาย CRAB HOUSE จะขาย 10 คู่เป็นขั้นต่ำขึ้นไป คู่ละ 1,000 บาท มีค่าส่ง 200 บาท รวมเป็น 1,200 บาท สำหรับคนที่ทดลอง ถ้าคุณทดลองแล้วคุณรัก หรือชอบที่จะทำอาชีพนี้ ก็จะแนะนำให้ลงทุนต่อยอดเป็นธุรกิจ มีตั้งแต่ 20,000 บาท 30,000 บาท 40,000 บาทถึง 50,000 บาทแล้วก็ ๆ เลยอันนี้ไม่ได้เลี้ยงปูแล้วนะคะ 490,000 บาท คุณคือผู้รวบรวมปูมาส่งเรา คือคุณศรีรับซื้อปูด้วย รับซื้ออยู่กิโลกรัมละ 100 บาท สำหรับปูที่เลี้ยงน้ำใส แล้วจะนำมาแยกเองว่าจะทำอะไรได้บ้าง ถ้าปูขาด รับหมดทุกเจ้า ถ้าปูเราเยอะ ก็จะเลือกรับเฉพาะคนที่ลงทุนกับเราก่อน เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่าลงทุนกับ CRAB HOUSE รับซื้อ 100%

ตอนนี้รายได้โดยรวมของ CRAB HOUSE ทั้งอบรมทั้งขายรายได้เจ็ดหลักขึ้นไป

อนาคตคุณศรีจะทำลูกชิ้น จะทำเป็นลูกชิ้นปู ข้าวเกรียบปู น้ำปู ปูร้า ปูร้ากับปูดองจะไม่เหมือนกัน ปูร้าก็จะเหมือนปลาร้าเลยแค่ใช้ปูแทน อันนี้เป็นสินค้าที่ CRAB HOUSE ตั้งใจจะทำมันออกมา

ในช่วงโควิทเป็นโอกาสของธุรกิจปูเลย ปูของ CRAB HOUSE โตขึ้นหลาย 10% จากโควิด เพราะว่าทุกคนเริ่มตกงาน ผู้คนเริ่มธุรกิจไม่ดี กิจการงานไม่ดี ก็หันมาเลี้ยงปูกันเยอะ เพราะว่าปูทำเป็นอาหารได้ เพราะฉะนั้นทางออกจะค่อนข้างเยอะ เลี้ยงแล้วไม่ตันมันไปได้เรื่อยเรื่อย

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

คุณศรี - ศรีเพ็ญ พงศ์ทรัพย์เจริญ
ฟาร์ม : CRAB HOUSE ศูนย์การเรียนรู้ปูนาพระราม2
ที่อยู่ : 15 ซอยอนามัยงามเจริญ 33 แยก 1 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 10150
Facebook : CRAB HOUSE ศูนย์การเรียนรู้ปูนาพระราม2

เลี้ยงปูนาน้ำใสบนตึก สร้างรายได้หลักแสน [ rbk | รักบ้านเกิด ]

เรื่อง/ภาพโดย: นนท์ ทีมงานรักบ้านเกิด