

"ศิริชัย พุ่มพฤกษา : เกษตรวัยเกษียณ...สร้างความสุขง่าย ๆ หลังเกษียณอายุ"


คติในการดำเนินชีวิตของคุณอ็อดก็คือ "ยินดีในสิ่งที่มี ดีใจในสิ่งที่เขาได้" แค่นั้นไม่ต้องไปอะไรมากก็มีความสุข อะไรเกิดขึ้นก็ยินดีกับมัน ไม่ต้องไปมองคนรอบข้าง แค่นั้นเองชีวิตเราจะมีความสุข ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร ใครจะมีมากมีเยอะเรายินดีในสิ่งที่เรามีไม่ต้องไปคิดมาก
คุณอ็อดบอกว่าการทำเกษตรให้ความสุขกับเราหลายอย่าง อย่างน้อยได้ปลูกต้นไม้ที่ใจชอบ พอปลูกแล้วเห็นต้นไม้เขาแตกใบอ่อนงอกงาม แค่นี้ก็มีความสุขแล้วไม่ต้องไปหาที่ไหน แค่เห็นต้นไม้งอกงาม ยิ่งมีดอกให้เห็นด้วย มีผลผลิตให้เห็นด้วยยิ่งมีความสุขใหญ่
หลักในการทำสวนก็คือ ต้องใช้ความอดทนพอสมควร เพราะว่าไม่ได้ปลูกไม้วันนี้แล้วมันจะได้ผลในทันที ต้องใช้ระยะเวลา แล้วก็ต้องใช้ความอดทนในการเอาใจใส่ดูแล
ส่วนคนอื่นที่เกษียณแล้ว แต่ละคนก็มีความคิดที่แตกต่างกัน บางคนอาจจะใช้ชีวิตพักผ่อนท่องเที่ยว อาจจะใช้ชีวิตอยู่กับบ้านเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน แต่คุณอ็อดชอบทำเกษตร ก็อยากจะแนะนำว่าอาชีพเกษตรกรไม่จำเป็นต้องทำเพื่อการค้า ทำเพื่อให้ความสุขกับเราได้ เราปลูกต้นไม้สักหนึ่งต้น ต้นไม้ให้ผลผลิตกับเรา ให้ดอกให้ผล แค่นี้ก็มีความสุข ไม่ต้องไปไขว่คว้าหาที่ไหน บางคนไม่มีพื้นที่ พื้นที่ก็ไม่ได้จำเป็นในการทำสวน บางคนอยู่คอนโด อาจจะใช้วัสดุเหลือใช้เล็ก ๆ ในการปลูกผักปลูกหญ้าที่เราใช้ในชีวิตประจำวันก็ได้ ไม่ต้องไปซื้อ อาชีพเกษตรเป็นอาชีพหนึ่งที่ให้ความสุข และอีกเรื่องหนึ่ง เราได้ปลูกต้นไม้ ได้สิ่งที่มันปลอดภัยกับเราด้วยในการกินไม่ต้องไปเสี่ยงกับสารเคมี
คุณศิริชัย พุ่มพฤกษา หรือคุณอ๊อด อายุ 61 ปี จบปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เดิมรับราชการทหารเรือมา 8 ปี แล้วก็ลาออกมาเมื่อปี พ.ศ. 2532 ไปเข้างานธนาคารตั้งแต่ปี 2532 ถึง ปี 2562 ทำงานธนาคารมาตลอดร่วม 30 ปี ปัจจุบันเกษียณมาปลูกพืชสวนผสมอยู่บริเวณบ้าน
คุณอ็อดเป็นคนต่างจังหวัด เป็นคนสมุทรสงคราม มีพื้นเพในอาชีพเกษตรอยู่แล้ว มีใจรักปลูกต้นไม้อยู่แล้ว ก็เลยคิดที่จะทำสวนเกษตรเพื่อที่จะเอาไว้กินสำหรับตัวเองและครอบครัว และเริ่มทำตั้งแต่ช่วงที่เริ่มทำงานโดยใช้บริเวณข้างบ้านที่พอจะมีที่ว่างปลูกพืชส่วนผสมเอาไว้กิน มีไม้ยืนต้น แล้วก็เป็นพืชผัก เช่น มะม่วง กล้วย มะนาว ใบกะเพรา พริก มีเครื่องครัวทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตะไคร้ ใบมะกรูด จะได้ไม่ต้องไปซื้อ เพราะสิ่งเหล่านี้ถ้าไปซื้อมันก็เสียเงิน ถ้าปลูกได้ ก็ใช้ประโยชน์จากมันได้ และอีกอย่างมันก็ปลอดสารด้วย
คุณอ็อดจบปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ไม่เคยเรียนเกษตร แต่ว่าโชคดีที่เป็นคนต่างจังหวัดเท่านั้น จึงมีความรู้ทางด้านเกษตร ทางด้านการปลูกพืชอะไรต่าง ๆ และดูใน YouTube บ้าง ไม่เคยเรียนเป็นคอร์ส เมื่อเจอปัญหาหนอน แมลง ก็ไม่ได้คิดที่จะเลิกทำ เพราะว่ามีอะไรก็สามารถแก้ไขได้ ก็จะใช้พวกสารจุลินทรีย์ อย่างเช่น น้ำส้มควันไม้ ซึ่งมันปลอดสารพิษ แต่ไม่ได้ทำเอง น้ำส้มควันไม้ใช้ประโยชน์ในการไล่แมลงได้ แต่ก็ไม่ได้ใช้เยอะ แล้วเราก็เริ่มหัดทำเอง พวกจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง เช่น จุลินทรีย์ไข่ เป็นต้น
หลังเกษียณมา คุณอ็อดมาทำสวนผสมมากขึ้น เดิมทำอยู่บนพื้นที่ข้างบ้านประมาณ 200 ตารางวา หลังจากที่เกษียณก็เลยไปทำสวนใหม่บนพื้นที่เกือบสองไร่ ซึ่งเดิมเป็นที่ว่างเปล่ามีหญ้าขึ้นรกไปหมดไม่ได้ใช้ประโยชน์ หลังจากเกษียณแล้วก็เลยคิดว่าน่าจะใช้ประโยชน์จากมันดีกว่า อย่างน้อยก็เคยได้ยินคำของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่องเกษตรพอเพียง ก็เลยมีความคิดว่าจะปลูกอะไรที่กินแล้วได้ประโยชน์กับตัวเอง เพราะอายุมากขึ้นไม่ต้องการเสี่ยงกับเรื่องของสารเคมี
พื้นที่ทั้งหมดเกือบสองไร่ก็ขุดเป็นร่องสวนไว้ เพราะว่าการทำเกษตรสิ่งที่จำเป็นก็คือน้ำ ขุดเป็นร่องสวนไว้เพื่อที่จะกักเก็บน้ำไว้ใช้ช่วงฤดูแล้ง ก็แบ่งเป็นสี่คลองแล้วก็บ่อน้ำขังใหญ่ รอบ ๆ ก็ปลูกต้นไม้ แล้วในคลองตอนนี้ก็ปล่อยปลาไว้ด้วย ปล่อยปลาตะเพียนไว้ประมาณ 700 ตัว ตอนนี้ปลาก็โตแล้วแต่ไม่ได้กิน เพราะว่าเลี้ยงไว้ให้ความสุขกับตัวเองมากกว่า มองไปในคลองปลามาฮุบอาหารมันก็สร้างชีวิตชีวาให้กับเรา ไม่ได้คิดว่าจะขาย
ส่วนพืชที่ปลูกเป็นสวนผสม หลัก ๆ ก็จะมีมะม่วง กล้วย น้อยหน่า มะนาว ตะไคร้ ใบมะกรูด และกะเพรา พืชสวนครัว ส่วนใหญ่จะปลูกกินในครอบครัวแล้วก็แจกจ่าย มีขายบ้างเป็นส่วนน้อย เหลือจากที่แจกก็จะขาย ก็ขายในบริเวณใกล้ ๆ หมู่บ้าน เขาจะมาถาม
ในการทำเกษตรสวนใหม่ของคุณอ็อดนั้น ดินในพื้นที่นี้มันเป็นดินเหนียว เพราะฉะนั้นการให้น้ำไม่จำเป็นต้องให้ทุกวัน อาจจะ 3 - 4 วันให้ครั้ง เพราะว่าถ้าให้มากเกินไป น้ำจะไม่สามารถซึมลงไปใต้ดินได้ มันจะทำให้พืชเน่า เพราะฉะนั้นน้ำนี้ 3 - 4 วันให้ครั้ง ไม่ต้องให้บ่อย ส่วนปุ๋ยก็เดือนละหนึ่งครั้งก็พอ ส่วนใหญ่จะใช้พวกปุ๋ยขี้วัวเป็นหลัก พวกปุ๋ยอินทรีย์เป็นหลัก ไม่มีสารเคมี แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดเกษตรอินทรีย์ ปัญหาอยู่ที่ตอนหน้าฝนจะเจอเรื่องโรคภัย ก็คือเมื่อฝนตกหนักน้ำท่วมขังต้นไม้จะรากเน่าได้ เพราะว่าน้ำมันซึมลงไปไม่ได้ สิ่งที่สองก็คือในเรื่องของโรคหนอน มันจะมีหนอนกอเข้ามาเกี่ยวข้อง มากินต้นกล้วย คุณอ็อดก็พยายามที่จะใช้สารพวกชีวภาพ เช่น น้ำส้มควันไม้ มันสามารถช่วยกำจัดได้ จากต้นกล้วยที่เริ่มไม่ค่อยงามก็เริ่มงามขึ้น
ตอนนี้ที่สวนของคุณอ็อด มีพืชที่เป็นหลัก ๆ ก็คือส้มโอ ตอนนี้ลงไว้ 23 ต้น แล้วก็เตรียมพันธุ์ไว้สำหรับลงอีก 10 ต้น สาเหตุที่ปลูกส้มโอเยอะเพราะเป็นส้มโอที่จังหวัดสมุทรสงคราม ส้มโอขาวใหญ่ แล้วรสชาติมันอร่อย คุณอ็อดทดลองนำมาปลูกในที่ดินที่แตกต่างกัน เขาก็งอกงามดี มันน่าจะได้ประโยชน์ ก็เลยนำมาปลูกเยอะ นอกจากนั้นก็มีกล้วยกับมะนาว ตอนนี้คุณอ็อดวางแผนว่าอยากจะทำโรงปลูกผักสักหนึ่งโรงเอาไว้รับประทานในครอบครัว เพราะว่ามันมีพื้นที่ว่างอยู่ คนในครอบครัวจะได้กินอะไรที่มันปลอดภัย ก็คิดว่าอยากจะทำเป็นโรงปลูกผักสักโดมหนึ่ง
คุณอ็อดปลูกพืช ผัก ไม่ได้ปลูกเพื่อการค้า ปลูกไว้เพื่อกินในครอบครัวแล้วก็แจก แต่ว่าในอนาคตถ้าสมมุติว่ามันมีเยอะหลังจากที่เหลือกินเหลือแจกจ่าย ก็อาจจะขายบ้าง แผนการตลาดก็คงจะไม่มี เพราะว่าไม่ได้เป็นอาชีพ เป็นความสุขที่จะทำมากกว่า
คุณอ็อด - ศิริชัย พุ่มพฤกษา ที่อยู่ : 192 ซอยรามอินทรา 8 ถนนรามอินทรา แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10230

