

"ภัททนันทน์ ชื่นอมรกุลชัย : หวานน้ำตาลอาย ต้องสวนส้มโอกาวางฟาร์ม"

ใช้ สติ สมาธิ ปัญญา
นำทางไปตามที่ถูกที่ควร

สิ่งที่คุณกวางคิดเสมอ คือ ทุกอย่าง ทุกอาชีพ ทุกคน ไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่มักจะเจอปัญหาตลอด แต่เราจะเอาปัญหาตรงนั้นมาเป็นโอกาส เป็นแรงผลักดันหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่เรา คุณกวางมีคติประจำใจคือ “ไม่ว่าอะไรจะเข้ามา ก็ยิ้มสู้กับมัน” แล้วใช้ สติ สมาธิ ปัญญา นำทางไปตามทางที่ถูกที่ควร เพื่อฝ่าฝันทุกปัญหา เพื่อเก็บปัญหาเหล่านั้นกลับมาเพื่อเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจว่าเราเคยผ่านจุดนี้มาได้เพราะอะไร และยิ้มสู้ไปกับมัน
ความสุขของคุณกวางในวันนี้ คือ การได้อยู่กับครอบครัว ได้อยู่กับพ่อแม่พี่น้องญาติ ๆ สามารถดูแลท่านได้ ที่สำคัญเลยคือไม่ต้องไปทำงานไกลบ้าน สามารถดูแลและอยู่ในท้องที่ของตนเอง อย่างที่สอง คือ เรื่องอากาศ ความเป็นอยู่ ถึงที่พิจิตรอากาศจะร้อนไปบ้าง แต่ก็มีต้นไม้รอบ ๆ ตัว บางท่านอาจจะชอบในความหรูหรา ความวุ่นวาย แต่คุณกวางเป็นคนชอบธรรมชาติ ความสุขของกวางก็เลยอยู่กับธรรมชาติแบบนี้ การที่ได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ทำให้เรารู้ว่าเราต้องการอะไร เราควรจะนำพาตัวเองไปในทิศทางไหน และทำอะไรแบบไหน ทำให้เห็นตัวเองชัดขึ้น
หากใครอยากมาทำการเกษตร คุณกวางแนะนำว่า ควรหาความรู้คร่าว ๆ ก่อนในโลกโซเชียลว่าชอบแนวไหนก่อนที่จะมาลงมือทำจริง ถ้าหาแล้วมันยังเลื่อน ๆ ลอย ๆ มันยังไม่รู้ว่าจะไปทางไหน สามารถติดต่อมาได้ที่ศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรรุ่นใหม่ในทุกจังหวัดจะมีอยู่ ศูนย์บ่มเพาะนี้จะเป็นไกด์ให้ท่าน เพราะว่าในเครือข่ายเกษตรกรรุ่นใหม่จะมีหลากหลายอาชีพเกี่ยวกับการเกษตร ทั้งประมง ปศุสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ มีครบ ที่สำคัญมีทุกจังหวัดด้วยถ้าท่านสนใจก็อาจจะค้นหาในเน็ตเลยก็ได้ว่ามีที่ไหนบ้าง และเข้าไปคุยหรือโทรไปคุยก่อนก็ได้ แล้วเขาจะแนะนำท่านเอง ว่าควรทำอย่างไร
เจ้าของสวนส้มโอกาวางฟาร์มนี้ คือ คุณภัทรนันท์ ชื่นอมรกุลชัยหรือคุณกวาง เจ้าของชื่อฟาร์มด้วยนั่นเอง
กาวางฟาร์มนั้น กาวางจริง ๆ มาจากพันธุ์มะปรางที่เปรี้ยวมากในสมัยโบราณ เมื่อก่อนที่คุณยายทำสวนที่นี่ก็มีต้นพันธุ์ต้นใหญ่มาก ๆ แต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว ปรับเปลี่ยนเป็นสวนส้มโอหมดแล้ว ก็เลยขอระลึกถึงพื้นที่เก่า เลยได้แบรนด์กาวางฟาร์มมา ในปัจจุบันถ้าคิดว่ากาวางฟาร์มคือรูปลักษณ์ หน้าตาแบบไหน กาวางฟาร์มก็คือกาวางฟาร์ม ส้มโอหวานกาวางฟาร์มจะใส่ใจผู้บริโภค คัดแต่สินค้าคุณภาพส่งตรงให้ผู้บริโภค และน้อมรับคาติชมจากลูกค้าเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ต่อไป
คุณกวางปัจจุบันอายุ 30 ปี เรียนจบจากมหาวิทยาลัยนเรศวร คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการเลือกคณะนี้ เพราะที่บ้านมีอาชีพเกษตรกรอยู่แล้ว ถือเป็นพื้นฐานของครอบครัว และคุณกวางเป็นพี่สาวคนโตของบ้านด้วย จึงอยากจะมาพัฒนางานของที่บ้าน ก็เลยเลือกเรียนสาขาเกษตร
เมื่อเรียนจบ คุณกวางไม่ได้ไปทำงานที่ไหน และตอนนั้นที่บ้านทำส้มโอ ส้มเขียวหวานบางมดที่รังสิตอยู่แล้วเป็นพื้นฐาน คุณกวางจึงมาทำส้มโอที่จังหวัดพิจิตร นำความรู้มาพัฒนาสวนเพื่อจะได้มีผลผลิตที่ดีมากกว่าเดิม จึงนำเอาหลักวิชาการมาปรับใช้ในสวน และมาเรียนรู้พร้อมกับทำงานไปเรื่อย ๆ
นอกจากนั้น ช่วงแรก ๆ ก็ไปอบรมตามสถานที่ต่างๆ ตามมหาวิทยาลัยที่เขาเปิดอบรม และไปตามเครือข่าย อย่างลุง ๆ ป้า ๆ ที่เขาทำสวนส้มโอในพื้นที่ก็ไปปรึกษา แต่ที่ปรึกษาหลักๆ เลย ก็คือคุณแม่ เพราะคุณแม่ทำอาชีพเกี่ยวกับส้มโอมาอยู่แล้ว จึงนำความรู้จากทั้งคนรุ่นเก่า วิชาการใหม่ และที่ลงมือทำเองมาปรับใช้ไปพร้อมกัน
สวนส้มโอกาวางฟาร์มมีเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ปลูกส้มโอทั้งหมด 3 พันธุ์ คือ พันธุ์ขาวแตงกวา พันธุ์ท่าข่อยเมืองพิจิตร แล้วก็ พันธุ์ทองดี
ช่วงแรกเลยที่นี่จะลงพันธุ์ขาวแตงกวาก่อน พันธุ์ขาวแตงกวาจะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ ตอนแกะเนื้อเขาจะแกะง่ายและร่อนกว่า สีจะออกสีเรื่อ ๆ น้ำผึ้ง สีเหลือง ๆ คนขายจะชอบตอนแกะ จะไม่ค่อยเปรอะมือ ตอนทานจะฉ่า พันธุ์นี้จะขายได้มากที่สุด
ส่วนพันธุ์ท่าข่อยเมืองพิจิตร สีเขาจะออกเป็นสีชมพูอ่อน ๆ ที่สำคัญเลยจะมีกลิ่นเฉพาะตัวของเขา คือจะเป็นกลิ่นน้ำมันหอมระเหย ทั้งผิวและเนื้อเป็นกลิ่นเฉพาะของส้มโอพันธุ์ท่าข่อยเมืองพิจิตร
ส่วนตัวที่สาม พันธุ์ทองดี สีจะออกเป็นแดงเรื่อ ๆ พันธุ์นี้ค่อนข้างจะเนื้อฉ่ำกว่า ลูกจะเปลือกบางกว่า
การปลูกส้มโอนั้น ถ้าเป็นระยะปลูกต้นใหม่เลยจะใช้เวลาประมาณ 4 ปีถึงจะเริ่มให้ผล ผลจะไม่ได้ให้เยอะ จะให้ทีละเล็กทีละน้อย ค่อย ๆ ขยายต้นออกไป แต่ถ้าเป็นระยะเวลาของรอบการผลิต ก็จะเป็นประมาณ 7-8 เดือน นับตั้งแต่ออกดอกจนถึงเก็บผลผลิต
การดูแลรักษาจะมีหลายช่วง จะมีตั้งแต่ช่วงที่เขาอ่อนแอต่อโรคแมลง เช่น ช่วงแตกใบอ่อน แตกยอด ก็ต้องหมั่นเข้าดูแลสวนทุกวันเช้าเย็น สังเกตโรคแมลงตามสถานการณ์ อย่างเช่นช่วงนี้ลมพัดมา ถ้าเป็นช่วงนี้แมลงจะเยอะ มันจะมากับลม ก็ต้องอาศัยตามสถานการณ์ อย่างบางช่วงที่เขาติดลูกแล้วเป็นผล ก็รอให้โตขึ้นก่อนเก็บ อันนี้จะไม่มีโรคแมลงมากวนเท่าไร สิ่งสำคัญในการดูแลเรื่องโรคแมลงก็คือ ต้องสำรวจ สังเกต และวิเคราะห์สภาพอากาศประกอบกันด้วย
ส้มโอจะชอบอากาศที่ค่อนข้างจะชื้น ๆ ไม่ร้อนมาก ไม่หนาวจัด ยิ่งช่วงตอนออกดอก ดอกบาน อากาศต้องไม่แปรปรวน เขาจะไม่ชอบ ทำให้ติดผลผลิตยาก แต่ถ้าอากาศเย็น ๆ กลาง ๆ แบบนี้มีความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศดี ส้มโอจะชอบ
ส้มโอที่สวนส้มโอกาวางฟาร์มจะไม่ค่อยสวย เพราะไม่ใช้สารเคมี แต่รับรองว่ารสชาติดี เพราะมีการตรวจสอบก่อนว่ารสชาติจะประมาณไหน ถ้าลูกค้าชิมหน้าร้านแบบนี้ รสชาตินี้ สิ่งที่ได้กลับไปที่บ้านก็จะเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ว่าชิมอย่างหนึ่งแล้วกลับไปทานไม่ได้ และที่นี่รับเคลมสินค้า จะเคลมให้เขาโดยที่ตอนซื้อไปจะมีสติ๊กเกอร์ คิวอาร์โค้ดของฟาร์มติดไปที่ลูกส้มโอ ก็ให้ลูกค้าถ่ายรูปส่งมาให้ดู ทางฟาร์มจะส่งผลิตภัณฑ์คืนภายใน 7 วัน เพราะคุณกวางเชื่อว่า ถ้าลูกค้าบอกแปลว่าเขาคิดจะซื้อซ้ำ ถ้าเขาไม่บอก แสดงว่าเขาไม่คิดจะซื้อซ้ำ ซื้อครั้งเดียวแล้วผ่านเลย และการที่ลูกค้าบอก ทางฟาร์มจะได้รู้ด้วยว่า มันมีปัญหาอะไร เพราะอะไร เพื่อจะสามารถแก้ไขได้ต่อไป
ในส่วนของคิวอาร์โค้ดนั้น คุณกวางได้ไปอบรมของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ หรือว่า มกอช. บังเอิญเขาสอนให้ทำคิวอาร์โค้ด แต่ในส่วนของเขา เขาเรียกคิวอาร์เทส เป็นการทดสอบกับสินค้าเกษตรหลาย ๆ อย่าง จะสอนตั้งแต่แรกเลยว่าทำอย่างไรทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าของนั้นมาจากเกษตรกรคนไหน มาจากจังหวัดอะไร แค่ส่องคิวอาร์โค้ดไปก็จะขึ้นมาเลย คุณกวางจึงนำมาใช้ในสวนส้มโอมาประมาณ 2-3 ปีแล้วตั้งแต่ตอนนั้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดการทำสวนส้มโอคือ สภาพอากาศคุมไม่ได้เพราะว่ามันเป็นเรื่องของฝนฟ้าอากาศ แล้วก็สภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงที่ส้มโอกำลังออกดอกกำลังจะติดลูก อันนี้คือปัญหาใหญ่ ทางฟาร์มเตรียมต้นมาสี่เดือนแล้วมันถึงจะออกดอก แต่ถ้าส้มโอรุ่นนั้นไม่ติดผลก็ต้องรออีกสี่เดือน เป็นช่วงที่ค่อนข้างจะยาว ก็ต้องหาพืชพันธุ์อย่างอื่นปลูกไปพลาง ๆ นอกจากนั้น ก็คือภัยแล้ง ทางฟาร์มแก้ปัญหาโดย มีสำรองบ่อน้ำไว้ จะขุดบ่อไว้ในทุก ๆ สวน บางสวนอาจจะขุดบาดาลไว้ เผื่อขาดจริง ๆ จะได้ดูดน้ำจากใต้ดินลงไปพักในบ่อ แล้วดูดน้ำขึ้นมาให้ส้มโอไปพลาง ๆ ก่อนในช่วงนี้
ตลาดหลักของกาวางฟาร์มจะเป็นการขายออนไลน์ ทาง Pages Facebook ทาง LINE และ LINE แอด นอกจากนั้นจะเป็นลูกค้าที่ได้จากการไปออกบูธตามสถานที่ต่าง ๆ และลูกค้าสนใจในรสชาติ ก็จะมีติดต่อกลับมา มีบริการส่งทั่วประเทศโดยบริษัทเอกชนหลายบริษัท ส่วนใหญ่ตลาดนี้จะเป็นลูกค้าประจำ สินค้าของกาวางฟาร์มจะมีการพรีออเดอร์ให้สั่งจองลงชื่อไว้ก่อน เพราะว่าแต่ละรุ่นการผลิตสินค้าจะมีมากน้อยไม่เท่ากัน จะจัดส่งให้ตามคิวที่สั่งจองมา ถือว่าเป็นการตอบรับที่ค่อนข้างจะโอเค ถ้าวัดในจำนวนปริมาณการขายในของทั้งหมดในสวนก็อาจจะเป็นแค่บางส่วน แต่ถือว่าเป็นตลาดที่ดีมากๆ ที่ได้คอนแทคโดยตรงกับลูกค้า ได้รับทราบปัญหาจากลูกค้า ในส่วนของตลาดอื่น ๆ ก็จะมีอย่างเช่น ตลาดที่ส่งออกต่างประเทศ ในส่วนนี้จะส่งผ่านคนกลาง ไม่ได้ส่งออกด้วยตัวเอง แล้วยังมีตลาดในชุมชน ในจังหวัดในพื้นที่ใกล้เคียงที่เขารู้จักฟาร์ม ก็จะมาซื้อที่สวนเลยก็มี
ในส่วนของการคัดแยกเกรด ถ้าเป็นของต่างประเทศเขาจะคัดตั้งแต่อยู่บนต้นอยู่แล้ว โดยส้มโอที่ตัดออกต่างประเทศอายุการเก็บเกี่ยวจะน้อยกว่าที่อยู่ในตลาดทั่วไป เพราะว่าการเดินทางจะต้องอาศัยเวลานาน หลัก ๆ จะเน้นที่ผิว ผิวสวย ๆ หน่อย ไม่ติดปัญหาเรื่องโรคแมลง หลักที่สองเลยก็คือเรื่องน้ำหนักอาจจะแบ่งเกรด 1 กิโล 1.2 กิโล 1.3 กิโลขึ้นไปก็จะเป็นอีกเกรดหนึ่ง หรือว่าต่ำกว่าหนึ่งกิโลลงมาจะเป็นอีกเกรดหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งคือลูกค้าในประเทศ อันนี้ดูเรื่องน้ำหนักเป็นหลัก จะดูว่าหนึ่งกิโลขึ้นไป แต่ดูว่าลูกอาจจะขนาดเล็ก ลูกค้าที่เคยซื้อของกาวางฟาร์มจะเข้าใจว่าที่ขนาดเล็กเพราะว่าเปลือกของกาวางฟาร์มจะบางกว่าของที่อื่น
แต่ละตลาดของคุณกวาง มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป
ตลาดต่างประเทศ การจัดการจะน้อย เมื่อตัดจากต้น ภายในหนึ่งสัปดาห์ก็เสร็จ แล้วได้เงินเลย
ส่วนตลาดในชุมชนหรือว่าตลาดในจังหวัด การจัดการจะเพิ่มขึ้นมาอีกคือการกระจายสินค้าที่เป็นผลผลิตของฟาร์มให้คนในพื้นที่ได้ทาน เวลาเขานำไปฝากผู้ใหญ่ที่ไหน เขาก็จะนึกถึงฟาร์ม อันนี้เป็นข้อดีที่เพิ่มการจัดการขึ้นมาจริง และทำให้ได้สร้างตัวตนและแบรนด์ของฟาร์มได้อีก
ส่วนที่สามก็คือออนไลน์ อันนี้จะเพิ่มการจัดการขึ้นมาอีก คุณกวางก็มาจัดการเปลี่ยนใหม่ เมื่อก่อนเขาสั่งมาค่อยส่งให้เขา การจัดการมันยาก ตอนนี้เปลี่ยนเป็นพรีออเดอร์ โดยทางฟาร์มเป็นผู้กำหนดวันส่งว่าสินค้าจะเก็บได้เมื่อไหร่ ลูกค้าที่สนใจก็จะสั่งจองมาก่อน จะโอนเงินมาก่อนก็ได้หรือจะโอนเงินมาวันที่ฟาร์มจะส่งของก็ได้ แต่คุณต้องจองคิวมาก่อนว่าคุณต้องการเท่าไหร่ เป็นจำนวนลูก หรือเป็นกล่อง จะจัดคิวไว้ให้ พอสินค้าพร้อมส่งแล้ว ก็จะแจ้งกลับไปให้ลูกค้าโอนเงินมาให้ ทางฟาร์มจะส่งเป็นรอบ ๆ ไป ก็คือ ออกไปส่งครั้งหนึ่งก็จะหลายกล่อง จะจัดการง่ายขึ้น
นอกจากจะขายเป็นผลแล้ว ยังมีขายเป็นแบบเนื้อแกะแพ็คพร้อมทานอีกด้วย จะขายอยู่ที่จังหวัดพิจิตร จะเป็นการทำตลาดแนวใหม่ พอดีไปรู้จักคนหนึ่งเขาเดินขายส้มโออยู่แล้วที่สี่แยกไฟแดงแล้วเขาชอบขายส้มโอคุณภาพเหมือนกับที่ฟาร์ม ก็เลยบังเอิญมาเจอกัน แล้วเขาก็นำส้มโอของฟาร์มไปจัดการหาคนแกะและแพ็คขายเล็ก ๆ ที่สี่แยกไฟแดง ติดโลโก้ ของกาวางฟาร์มด้วย เพราะส้มโอที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและยังได้มาตรฐานจีไอพี ก็จะได้ตลาดตรงนี้ เป็นการสร้างแบรนด์ตัวเองใส่แพ็คเดินขายที่สี่แยกไฟแดงในพิจิตร อาจจะแปลกกว่าคนอื่นหน่อย
นอกจากนั้นยังมีแพ็คเกจใส่ส้มโอจากผักตบชวาทำเป็นกิ๊ฟท์เซ็ท ผลิตมาจากผักตบชวาที่นำไปตากแห้งแล้วเอามาถักสานแบบง่าย ๆ เพื่อจะเป็นบรรจุภัณฑ์ใส่ส้มโอ เวลาเอาไปฝากก็เป็นทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภค เพราะว่าไม่ต้องซื้อทีละตะกร้า ซื้อลูกเดียวก็ฝากได้ไม่น่าเกลียด ใส่แพ็คเกจไปหิ้วไปฝากเก๋ ๆ ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งให้ผู้บริโภคได้
ราคาขายส้มโอจะขึ้นลงตามตลาด ถ้าเป็นขาวแตงกวาอยู่ที่ 45 บาท / 1 กิโลกรัม จากสวน และจะมีอีกเกรดหนึ่งที่ส่งขาย อตก. ค่อนข้างพรีเมียมนิดหนึ่ง ทั้งรูปร่างหน้าตาและรูปทรงจะสวยงาม อันนั้นลูกละ 150 บาท รายได้ของสวนส้มโอกาวางฟาร์มเฉลี่ยปีละประมาณ 350,000 - 500,000 บาทต่อปี
ในอนาคตอยากจะทำเป็นโรงแพ็คแบบ GNP สามารถแกะเนื้อส้มโอพร้อมทานได้เลย เพื่อที่ว่าจะส่งตลาดในห้างสรรพสินค้าหรือว่าห้างสะดวกซื้อให้สะดวกต่อผู้บริโภค เพราะว่าเคยไปออกบูธลูกค้าชอบมากในการที่แกะไว้พร้อมทาน สิ่งที่อยากทำอีกคือหานวัตกรรมในการเก็บรักษาให้ได้ 10 – 15 วัน และแพ็คให้เป็นระบบ GNP ไปเลย แล้วก็มีรถห้องเย็นกระจายไปขายตามสถานที่ต่าง ๆ ลูกค้าจะได้ทานส้มโอที่อร่อยและมีคุณภาพและสะดวกต่อตัวลูกค้าด้วย ยิ่งในเมืองใหญ่ ๆ อย่างกรุงเทพฯ ลูกค้าไม่สะดวกหิ้วส้มโอทั้งลูกเพราะมันหนัก การซื้อเป็นแพ็คเล็ก ๆ สะดวกสำหรับเขามากกว่า
ภัททนันทน์ (สุวิตา) ชื่นอมรกุลชัย บ้านเลขที่ 8/1 หมู่ 6 ตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร 66190

