เกษตรกรต้นแบบ

"วาริส แก้วภักดี : กรีนวิลล์ฟาร์มคาเฟ่ ปลูกด้วยรัก ปรุงด้วยใจ เสิร์ฟความสดใหม่แบบ Farm to table."

 31 มีนาคม 2563 3,968
จ.ฉะเชิงเทรา
ทำในสิ่งที่รักและรักในสิ่งที่ทำ

“ทำในสิ่งที่รักและรักในสิ่งที่ทำ” คุณวาริสบอกว่า จุดเริ่มต้นของกรีนวิลล์ฟาร์มคาเฟ่เกิดจากการทำในสิ่งที่รักอยู่แล้ว ตัวคุณวาริสเองเป็นคนที่รักในการปลูกผัก ส่วนตัวคุณสุรัตน์จะชอบการเข้าครัว รักทางด้านการทำอาหาร ส่วนตัวคุณแม่จะชอบต้นไม้ ชอบปลูกต้นไม้ ก็เลยมารักด้านปลูกต้นไม้ เมื่อสามสิ่งนี้มารวมกันก็เลยกลายเป็นร้านอาหารแห่งนี้ และทุก ๆ อย่างที่ทำมาจากความรัก สื่อให้ลูกค้าได้เห็นความรักที่ทั้งสามคนตั้งใจทำ หลังจากนั้นลูกค้าก็จะสื่อความรักกลับมาให้ กลายมาเป็นลูกค้าประจำของร้านอยู่เรื่อย ๆ

สุขทุกครั้งที่ให้...และอยากให้มากกว่านี้.

ทุกวันนี้ทั้งคุณวาริสและคุณสุรัตน์มีความสุขจากการทำเกษตร เป็นความสุขง่าย ๆ ที่เกิดจากการให้ ให้ในที่นี้คือให้รอยยิ้มเวลาที่ลูกค้ามาแล้วได้ต้อนรับ ให้ทั้งด้านการปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อสร้างสุขภาพที่ดีแก่ลูกค้า ลูกค้ามาทานอาหารและได้สุขภาพที่ดีกลับไปด้วย และที่สำคัญคือได้อยู่ดูแลครอบครัว ได้เห็นคุณแม่มีความสุขมีสุขภาพดี ได้ทำงานร่วมกันทุก ๆ วันก็มีแต่ความสุข เพียงเท่านี้ก็เพียงพอมากแล้ว

แต่คุณสุรัตน์ เพิ่มเติมจากคุณวาริสมาด้วยว่า ถ้าวัดในแง่ความสำเร็จ ไม่ใช่ความสุข ให้คะแนนตนเองเพียง 3 จาก 10 เท่านั้น เพราะว่าจริง ๆ แล้ว คุณสุรัตน์ยังมีสิ่งต่างๆ ที่ยังต้องพัฒนาและเรียนรู้อีกมาก ยังมีอีกหลายความฝันที่ยังไม่ได้ทำ ยังอยากจะให้มีกิจกรรมเชิงเกษตรให้มากกว่านี้ ให้นักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มครอบครัวหรือกลุ่มที่อยากท่องเที่ยวเชิงการเกษตรได้เข้ามาสัมผัส ได้เข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องของการเกษตรมากกว่านี้ คุณสุรัตน์ไม่ได้อยากให้กรีนวิลล์เป็นแค่ร้านอาหารดีๆ มีคนมานั่งทานแล้วก็กลับบ้านไปโดยไม่ได้กิจกรรมอะไรไปเลย

ปลูกผัก...ต้องเข้าใจผักก่อน.

การทำการเกษตรเป็นเรื่องที่จะต้องใส่ใจและดูแลมากเป็นพิเศษ การที่จะเลือกปลูกอะไร ปลูกพืชชนิดไหน ต้องศึกษาให้แตกฉานในรายละเอียดของแต่ละชนิดนั้น ๆ ว่าเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราไหม เราสามารถปรับตัวเข้ากับข้อดีข้อเสียในทุก ๆ ด้านได้ไหม เราชอบไหม แล้วยังรักเขาไหม ถ้าเรารัก เราจะประสบความสำเร็จในทุก ๆ วันที่ตื่นขึ้นมา จะมีพลังงานและมีความคิดสร้างสรรค์ มีไอเดียใหม่ ๆ ตลอดเวลา แล้วเราจะสนุกกับสิ่งที่ทำเพราะว่าเราทำในสิ่งที่รัก

ด้วยความที่เป็นนักชีวะเคมี ที่กรีนวิลล์ฟาร์มจะดูแลผักในมุมมองของนักชีวะเคมี ทำให้มีมุมมองทั้งสองด้านคือทางด้านเกษตรและด้านชีวเคมี เมื่อนำสองสิ่งนี้มารวมกันจะทำให้เข้าใจพืชได้มากขึ้น เข้าใจธาตุอาหาร เข้าใจการให้ปุ๋ย เข้าใจว่าในแต่ละช่วงอายุเวลาของเขามีการเติบโตอย่างไร เขาต้องการธาตุอาหารอะไรบ้าง ทำให้ผักสลัดที่กรีนวิลล์ไม่เหมือนที่อื่น ผักสลัดที่กรีนวิลล์จะเป็นผักสลัดที่สุขภาพดี ปลอดสารพิษ อันนี้คือกฎเหล็กของกรีนวิลล์

ที่ฟาร์มจะเน้นการปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ จะเน้นที่ความหลากหลาย ตอนนี้ปลูกทั้งหมดเกือบ 10 ชนิด ตัวที่คนรู้จักกันมาก ๆ จะเป็นเรดโอ๊ค ผักสลัดที่ฟาร์ม จุดเด่นของเขาเลย คือเป็นผักสลัดที่มีสุขภาพดี สุขภาพดีในที่นี้ดูได้จากอย่างแรกเลยคือจะเป็นผักที่ปลอดสารพิษ อันนี้เป็นกฎเหล็กของฟาร์มที่จะไม่ใช้สารเคมี อย่างที่สองคือจะเป็นทรงพุ่ม ทรงสวยแบบนี้เลย อย่างที่สามจะดูที่ราก รากจะต้องเป็นสีขาวยาวสะอาด แสดงว่าผักสลัดเขาสุขภาพดี อย่างที่สี่ก็คือผักสลัดต้องหวานกรอบอร่อย

กรีนวิลล์ฟาร์มคาเฟ่...

กรีนวิลล์ฟาร์มคาเฟ่ เริ่มต้นจากคน 2 คน คือ คุณวาริส แก้วภักดี หรือ คุณริส อายุ 29 ปี และคุณสุรัตน์ เปียศิริครับ หรือคุณนุ๊ก อายุ 29 ปี ถือว่าทั้งสองเป็นเจ้าของร่วมกัน โดยคุณริสมีหน้าที่หลัก ๆคือ ดูแลและบริการลูกค้า และดูแลในส่วนของฟาร์มผักสลัดทั้งหมด ส่วนคุณนุ๊กเป็นเฮดเซฟในครัว หน้าที่หลักตอนนี้ก็คือดูแลในส่วนของระบบครัว และคอยออกแบบเมนูอาหารใหม่ ๆ ให้กับกรีนวิลล์ฟาร์มคาเฟ่

คุณริสเรียนจบจากคณะวิทยาศาสตร์ สาขาชีวเคมี จากมหาวิทยาลัยบูรพา หลังจากจบมาทำงานด้านการตลาด โซเชียล Marketing ตลาดออนไลน์โดยจะเน้นมาทางคอนเทนท์ Marketing มีการนำสินค้าเข้าและจัดจำหน่ายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซแล้วก็โซเชียล Marketing ต่างๆ

ส่วนคุณนุ๊กจบจากคณะวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยบูรพาด้วยกัน เริ่มทำงานทางสายพัฒนาซอฟต์แวร์มาตั้งแต่สมัยเรียนปี 2 ทำมาเรื่อยๆ จนจบปริญญาตรี จึงมีโอกาสเปิดบริษัทซอฟแวร์เป็นของตัวเอง ซึ่งมีการทำการตลาด และจัดจำหน่ายสินค้าทั่วประเทศผ่านทางระบบออนไลน์เหมือนกัน งานทั้งหมดจะทำงานโดยผ่านโน๊ตบุ๊ค ขอเพียงแค่มีอินเตอร์เน็ตก็สามารถทำงานได้ทุกที่แล้ว

และด้วยลักษณะงานที่สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ ทั้งคู่จึงมักออกเดินทางและท่องเที่ยวกันบ่อย ช่วงเวลาเที่ยวก็มีการนำงานเข้าไปทำด้วยตามคาเฟ่ ร้านกาแฟ หรือว่าตามโฮสสเปซต่างๆ จึงรู้สึกว่าชอบบรรยากาศแบบนี้ ไม่ว่าทั้งคู่จะไปท่องเที่ยว ไปนั่งร้านกาแฟ ก็มีความรู้สึกว่าอยากจะเอาบรรยากาศแบบนี้กลับมาที่บ้าน ซึ่งในขณะนั้นเองทั้งคู่ไม่ได้มีโอกาสที่จะดูแลสุขภาพตัวเองมากนัก พอผ่านมาซักระยะหนึ่งจึงเริ่มหันกลับมาดูสุขภาพตัวเอง เริ่มมาดูคุณค่าทางโภชนาการ เริ่มการออกกำลังกาย มาลองทำอาหารทานเองที่บ้าน แล้วก็ทำให้ที่บ้านเรื่อยมา เพราะว่าจะได้ควบคุมในเรื่องของคุณค่าทางโภชนาการด้วยตัวเอง

พอดีช่วงนั้นคุณแม่อยู่ที่กรุงเทพฯ มีอาการป่วยก็เลยตัดสินใจให้คุณแม่ลาออกจากงาน แล้วกลับมาอยู่ที่บ้านหลัก ๆ แล้วคุณแม่ก็ชอบปลูกผัก ปลูกต้นไม้ ปลูกผักสวนครัวเป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว ก็เลยตั้งใจว่าจะหากิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันได้ให้คุณแม่ไม่เหงา ให้คุณแม่มีความสุขทุก ๆ วัน ก็เลยเริ่มมาศึกษาการปลูกพืช และพอดีช่วงนั้นคุณนุ๊กเริ่มเข้าครัว เริ่มทำกับข้าวทานเองที่บ้าน ก็เลยศึกษาเรื่องการปลูกพืช หลังจากศึกษาก็เริ่มไปลองปลูกพืชในดิน พอลองปลูกในดินแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ จึงหันมาศึกษาการปลูกพืชในน้ำหรือไฮโดรโปรนิกส์ ซึ่งจากการศึกษาผักไฮโดโปนิกส์นี้ ก็ปลูกเป็นผักสลัด จากเมล็ดที่ได้หยอดลงไป เขาค่อยๆ โตขึ้นๆ ได้เห็นพัฒนาการของเขา ดูแลเขาอย่างใกล้ชิดตลอด 45 วันที่ผ่านมา ทำให้เริ่มรู้สึกรักเขามากขึ้น และทุก ๆ เช้าที่ตื่นมาดูเขา รู้สึกจะมีกำลังใจในการตื่นมาดูแลเขาอยู่เรื่อย ๆ จนเกิดเป็นความรัก หลังจากที่ผักโตสวยงามแล้ว ก็ได้เก็บผักสด ๆ จากฟาร์มไปใช้ประกอบอาหารในบ้าน มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก

ก็เป็นจุดเริ่มต้นของกรีนวิลล์ ช่วงเดือนธันวาคมทั้งคู่อยากจะทำแคมเปญเล็ก ๆ ขึ้นมา คือ แคมเปญเดลิเวอรี่กระเช้าผักสลัดในแปดริ้ว ถือเป็นเจ้าแรกเลย โดยที่ทั้งคู่ได้สร้าง Facebook FAN pages ขึ้นมา ชื่อว่ากรีนวิลล์ผักสลัดเสิร์ฟจากฟาร์มเพื่อที่จะสร้างแบรนด์กรีนวิลล์ ตั้งแต่นั้นก็เริ่มรับออเดอร์ผักสลัดผ่านช่องทางโซเชียลเพียงอย่างเดียว แต่ผลตอบรับกลับเกินคาด นั่นก็คือจุดเริ่มต้นของแบรนด์กรีนวิลล์ฟาร์มคาเฟ่แห่งนี้

ที่กรีนวิลล์ฟาร์มคาเฟ่ ทั้งคุณวาริสและคุณสุรัตน์ตั้งใจปลูกผักสลัดและเก็บผักสด ๆ จากแปลงเข้าครัว เพื่อเสิร์ฟเป็นเมนูสุขภาพอร่อย ๆ สไตล์โฮมเมด โดยในครัวจะเน้นปรุงอาหารแบบยั่งยืน ปลอดภัยด้วยวัตถุดิบที่เก็บสดจากฟาร์มทั่วแปดริ้ว เรียกได้ว่าทุก ๆ จาน ทุก ๆ เมนูที่เราเสิร์ฟ เป็นวัตถุดิบที่มาจากต้นน้ำยันปลายน้ำเสิร์ฟจากฟาร์มส่งตรงสู่โต๊ะอาหารใน concept ฟาร์มทูเทเบิล ตอนนี้มีพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ โดยหลัก ๆ แล้วจะเป็นโซนคาเฟ่ มีทั้งเอาท์ดอร์และอินดอร์ ให้นั่งทานสบาย ๆ ทางด้านข้างคาเฟ่จะเป็นแปลงผักสลัดทั้งหมด แล้วด้านหลังคาเฟ่จะเป็นโซนแปลงผักของเชฟ เป็นผักสวนครัวที่ปลูกแล้วนำมาใช้ในครัวของเราเอง ในอนาคตจะมีโรงเมล่อน โรงมะเขือเทศ บัตเตอร์นัท แตงกวาญี่ปุ่นเพิ่มให้ลูกค้าเข้ามาเดินชมได้อีก

ทั้งคู่เรียนรู้การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์จากอาจารย์อัฐพร ซึ่งเป็นอาจารย์อยู่ในชมรมการปลูกพืชไร้ดินแห่งประเทศไทย ได้ความรู้ด้านทฤษฎีจากที่นี่ แล้วก็มาลงมือปฏิบัติเอง นำความรู้ที่ได้เรียนมานำมาประยุกต์ใช้กับทางสายชีวเคมีที่เรียนมาควบคู่กันไปด้วย จึงเกิดฟาร์มผักแห่งนี้ขึ้นมา

ในการทำงานของกรีนวิลล์ฟาร์มคาเฟ่นั้น มีปัญหาอุปสรรคเป็นเรื่องปกติ แต่อุปสรรคที่ทั้งคู่รู้สึกว่าท้าทายมากที่สุดในการสร้างกรีนวิลล์ฟาร์มคาเฟ่แห่งนี้ จะเป็นเรื่องของทำเลที่ตั้ง เพราะนอกจากอยู่ในตำบลที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักแล้ว กรีนวิลล์ฟาร์มคาเฟ่ไม่ได้ถูกรายล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ ไม่อยู่ในที่ ๆ สามารถเข้าถึงได้ง่าย ทั้งคู่จึงต้องแก้ปัญหาตรงนี้โดยการใช้โซเชียล Marketing และการสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ จะเข้ามาจากทางโซเชียล Marketing อยู่แล้ว แต่ลูกค้าประจำเขาจะมาทานเรื่อย ๆ เขามาจากการที่ทั้งคู่สร้างความประทับใจให้เขาแล้วเขาจะรู้สึกว่ามีประสบการณ์ที่ดี จึงกลับมาซ้ำอีกเรื่อย ๆ

ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นแนวครอบครัว มาทานอาหาร มาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ มาทานผักสด ๆ อีกกลุ่มคือกลุ่มที่เป็นคุณพ่อคุณแม่พาน้อง ๆ มาเพื่อที่จะเริ่มฝึกทานผัก เริ่มที่จะมาเรียนรู้ว่าผักหน้าตาเป็นอย่างไร การเก็บผักเป็นอย่างไรเริ่มทานผักเป็นอย่างไร เพราะว่าผักที่ฟาร์มจะหวานกรอบ ไม่ติดขม เด็ก ๆ ทานได้ และที่ฟาร์มเปิดให้ลูกค้าสามารถเข้าไปเก็บผักกลับบ้านเองได้ โดยผักที่นำกลับบ้านสามารถแช่ในตู้เย็นได้นานสองถึงสามสัปดาห์ ซึ่งจะยังสดอยู่ตลอดเวลาแน่นอน โดยผักทุกต้นราคาต้นละ 20 บาทเท่ากันหมด เลือกได้เลย

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คืออาหารของกรีนวิลล์ฟาร์มคาเฟ่เป็นสไตล์โฮมเมด ทำสดใหม่จานต่อจาน ทำเหมือนให้คนในครอบครัวทาน อาหารที่นี่จะใช้วิธีการปรุงอาหารแบบยั่งยืน คือจะไม่ใช้ผงชูรสในการปรุงอาหาร แต่จะใช้ดอกเกลือปรุงอาหาร ทำให้รสชาติอาหารมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร มีความสดกรอบของผัก ลูกค้าทุกคนมั่นใจได้เลยว่าผักที่ได้ในอาหารหรือว่าเมนูทุก ๆ จานเป็นผักที่สดกรอบและปลอดภัยจริง ๆ นอกจากนั้น จาก concept ฟาร์มทูเทเบิล ผักหรือว่าผลไม้ต่าง ๆ ไม่ได้มาจากฟาร์มกรีนวิลล์แค่ฟาร์มเดียว แต่มาจากฟาร์มของกลุ่มเกษตรกรทั่วแปดริ้ว ทุก ๆ ฟาร์มที่อยู่ในแปดริ้วพอมีผลผลิตที่ออกมาแล้ว จะส่งมาที่ครัวของกรีนวิลล์ เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่า ผักผลไม้ทุกอย่างปลอดสารพิษ และมาจากเกษตรกรโดยตรง

การตลาดของกรีนวิลล์ฟาร์มคาเฟ่ใช้เรื่องของ Social Marketing เพราะสามารถกระจายเรื่องราวออกไป มีลูกค้าประจำไปเล่าให้คนอื่นฟัง มีการแชร์ออกไป มีการรีวิวกลับมายังแฟนเพจของทางฟาร์ม การสร้างความประทับใจให้ลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความประทับใจในเรื่องของอาหาร เรื่องการบริการไม่ว่าจะเป็นความประทับใจในเรื่องของบรรยากาศต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า แล้วเขาก็อยากจะบอกต่อไปยังเพื่อน ไปยังครอบครัวหรือญาติพี่น้อง เพื่อให้ได้เห็นประสบการณ์ดี ๆ แบบเดียวกัน

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

วาริส แก้วภักดี / สุรัตน์ เปียศิริ กรีนวิลล์ ฟาร์มคาเฟ่ เลขที่ 82/9 หมู่ที่ 4 ตำบลบางกระเจ็ด อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา 24110

กรีนวิลล์ฟาร์มคาเฟ่ ปลูกด้วยรัก ปรุงด้วยใจ เสิร์ฟความสดใหม่แบบ Farm to table.

เรื่อง/ภาพโดย: ณัฏฐ์ คำวิชัย ทีมงานรักบ้านเกิด