เกษตรกรต้นแบบ

"สังเวียน สิงห์สิทธิ์ : ต้นแบบคนเลี้ยงโคนมแห่งเมืองดอกลำดวน"

 09 พฤษภาคม 2559 5,170
จ.ศรีสะเกษ
เลี้ยงโคนม ให้โคเลี้ยงคน เลี้ยงบ้าน เลี้ยงรถ
เลี้ยงคนในครอบครัว

จากชาวนา-ชาวสวน สู่เกษตรกรต้นแบบการเลี้ยงโคนมของจังหวัดศรีสะเกษ

“เลี้ยงโคนม เพื่อให้โคเลี้ยงคน เลี้ยงบ้าน เลี้ยงรถ เลี้ยงครอบครัว” คำพูดที่ออกจากปากชายวัย 69 ปี นายสังเวียน สิงห์สิทธิ์ เจ้าของ “สังเวียนฟาร์ม” เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมบ้านก่อ หมู่ 5 ตำบลหนองไฮ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ คำพูดที่ไม่คุ้นหูกับคนเมืองมากนัก แต่สำหรับนายสังเวียนแล้ว ถือว่ามีคุณค่าเหลือคณานับ เพราะว่า การเลี้ยงโคนม สามารถให้ชีวิตใหม่กับคนในครอบครัว"สิงห์สิทธิ์" ได้เป็นอย่างดี นายสังเวียนหรือคุณพ่อสังเวียน เล่าว่า เดิมทีครอบครัว"สิงห์สิทธิ์" จะใช้ชีวิตแบบเกษตรกรที่เรียบง่ายเหมือนเช่นเกษตรกรชาวพื้นบ้านศรีสะเกษโดยทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่จะยึดอาชีพหลัก คือ ทำนาปลูกข้าว ปลูกผักสวนครัว ปลูกพริก ปลูกมะเขือเทศ ซึ่งถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของคนในชุมชนเลยก็ว่าได้ แต่ดูเหมือนว่าอาชีพเกษตรกรที่เรียบง่ายแบบนี้ จะไม่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ดีเหมือนอาชีพพ่อค้าชาวเมืองหรืออาชีพข้าราชการทั่วไป ซึ่งมีรายได้ดีกว่า เป็นที่ยอมรับนับถือของคนในชุมชน และเพื่อการเปลี่ยนแปลง "สังเวียนฟาร์ม” ฟาร์มเลี้ยงโคนมเล็กๆ จึงเกิดขึ้น และเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเกษตรผู้ใฝ่รู้ ผู้บุกเบิกการเลี้ยงโคนมแห่งเมืองศรีสะเกษ

หลักคิดในการใช้ชีวิต

นายสังเวียน สิงห์สิทธิ์ หรือคุณพ่อสังเวียน เป็นคนบ้านก่อ หมู่5 ตำบลหนองไฮ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษโดยกำเนิด จบการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 4 เดิมทีใช้ชีวิตแบบเกษตรกรทั่วไปโดยยึดอาชีพการทำนา ทำสวน ปลูกพริก และปลูกมะเขือเทศเป็นหลัก แต่ดูเหมือนว่ารายได้จะไม่เพียงพอกับรายจ่ายของคนในครอบครัว และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคนมในจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ เป็นผู้จัดการฝึกอบรมอาชีพการเลี้ยงโคนมให้กับเกษตรกรที่สนใจ เพื่อให้มีรายได้ต่อเนื่องควบคู่ไปกับการทำนาและการทำเกษตรชนิดอื่นๆ มีสำนักงานปศุสัตว์อำเภอและสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด เป็นพี่เลี้ยงให้กับเกษตรกร มีวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษเป็นผู้รับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกร คุณพ่อสังเวียน เป็นเกษตรกรกลุ่มแรกๆที่ได้เข้ารับการฝึกอบรมอาชีพการเลี้ยงโคนม แต่ในช่วงนั้นยังไม่มีพื้นที่ในการเลี้ยงที่เหมาะสม จึงหันไปเลี้ยงโคขุนเนื้อซึ่งใช้พื้นที่ไม่มากนัก ในระหว่างนั้นได้มีโอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเลี้ยงโคนมมาอย่างต่อเนื่อง รอโอกาส และเก็บเงินสะสมจนสามารถขยับขยายพื้นที่ให้สามารถเลี้ยงโคนมได้ ปฐมบทในการเลี้ยงโคนมของคุณพ่อสังเวียน เริ่มต้นจากการไปกู้ยืมเงินสหกรณ์ฯเป็นเงินกว่า 2 แสนบาท เพื่อนำมาเลี้ยงโคขุนเนื้อขาย แต่สามารถขายได้เพียง 1 แสนบาท ซึ่งไม่คุ้มค่ากับการลงทุนแต่อย่างใด การเลี้ยงโคขุนจึงไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังไว้ จนกระทั่งในปี พ.ศ.2545 คุณพ่อสังเวียนจึงได้ตัดสินใจซื้อโคนมสาวสายพันธุ์โฮลสไตน์ฟรีเชียน มาจากกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมอำเภอราษีไศล จำนวน 6 ตัว เริ่มต้นจากฟาร์มเล็กๆด้วยวัสดุที่พอหาได้ในท้องถิ่น ใช้อาหารโคนมสำเร็จรูปในการเลี้ยง และสมัครเป็นสมาชิกของสหกรณ์โคนมศรีสะเกษ ซึ่งก่อตั้งขึ้นที่บ้านโนนหล่องซึ่งอยู่ไม่ไกลจากฟาร์มมากนัก สำหรับเป็นจุดรับซื้อน้ำนมดิบให้กับเกษตรกรในชุมชน จากเดิมการเลี้ยงโคนมของคุณพ่อสังเวียนเป็นเพียงอาชีพเสริมรายได้จากการทำนาและการเกษตรอื่นๆ แต่ดูเหมือนว่าอาชีพเสริมนี้ช่วยให้คุณพ่อสังเวียนมีรายได้ประจำ เพราะมีน้ำนมขายทุกวัน มีเงินเก็บสะสมพอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถขยับขยายฟาร์มได้เพิ่มเติมขึ้นกว่า 20 ไร่ ด้วยการใช้ต้นทุนในการเลี้ยงที่ต่ำกว่าฟาร์มโคนมโดยทั่วไป มีเงินสร้างบ้านใหม่ มีเงินซื้อรถ มีรายได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในชีวิตของเกษตรกร ดังคำพูดที่ว่า “เลี้ยงโคนม เพื่อให้โคเลี้ยงคน เลี้ยงบ้าน เลี้ยงรถ และครอบครัว” การเลี้ยงโคนมจึงเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตคุณพ่อสังเวียน กลายมาเป็นอาชีพหลักแทนการทำนา ทำสวน ปลูกพริก และปลูกมะเขือเทศ จนถึงปัจจุบัน

ปัจจุบัน "สังเวียนฟาร์ม" มีโคนมรวมกัน กว่า 100 ตัว แบ่งออกเป็น แม่โคที่รีดนม 40 ตัว โคสาว โคที่พักรีดนม ลูกโคและโคพ่อพันธุ์ อีกกว่า 60 ตัว แม่นมสามารถรีดนมได้ 2 ครั้ง/วัน เช้าและเย็น ผลผลิตน้ำนมดิบ เฉลี่ย 500-600 กิโลกรัมต่อวัน เป็นฟาร์มโคนมขนาดกลาง ที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้รับการยกย่องให้เป็นฟาร์มโคนมต้นแบบของจังหวัดศรีสะเกษ เป็นศูนย์เรียนรู้และจุดถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงโคนมแบบครบวงจรของจังหวัดศรีสะเกษ

สังเวียนฟาร์ม ฟาร์มโคนมต้นแบบศรีสะเกษ

ประวัติและความเป็นมาเกี่ยวกับตัวเกษตรกร

“ความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคทั้งปวง และเป็นคนที่สู้งาน” เป็นเหมือนคติประจำใจของคุณพ่อสังเวียนที่เคยผิดหวังกับอาชีพการทำเกษตรซึ่งนับวันยิ่งทำก็ยิ่งเหนื่อย แต่ด้วยการที่เป็นคนใฝ่รู้ มีความมุ่งมั่น และศรัทธาต่ออาชีพเกษตรกร นอกจากการทำนา ปลูกพริกและมะเขือเทศแล้ว การเลี้ยงโคนมจึงเป็นเสมือนหนึ่งอาชีพที่ท้าทาย คุณพ่อสังเวียนจึงได้ดำเนินกิจกรรมภายในฟาร์มเองแทบจะทั้งหมด โดยใช้ความรู้ความสามารถจากประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 14 ปี จนก่อเกิดเป็นองค์ความรู้ที่สามารถถ่ายทอดให้กับผู้ที่เข้ามาศึกษาดูงานและผู้ที่สนใจทั่วไปเพื่อเป็นวิทยาทาน จากฟาร์มโคนมเล็กๆซึ่งมีวิธีการเลี้ยงแบบประหยัดและเรียบง่าย ใช้ไม้ยูคาลิปตัสและไม้อื่นๆที่พอจะหาได้มาทำเป็นคอกเล็กๆ เลี้ยงบนพื้นดินโดยไม่ต้องปูพื้นซีเมนต์ จัดหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ซึ่งมีโภชนาการอาหารสูงมาผสมเองเพื่อการลดต้นทุน อาทิ มันเส้น กากมันสำปะหลัง กากถั่วเหลือง ใบกระถินแห้ง ข้าวโพดบด กากปาล์ม รำข้าว ร่วมกับเกลือป่น ไดแคลเซียม แร่ธาตุผง กากน้ำตาล และอื่นๆที่จำเป็น โดยให้อาหารวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น เสริมด้วยหญ้าเนเปียร์สดสับละเอียดที่มีส่วนช่วยให้น้ำนมดิบมีคุณภาพดี อีกทั้งในสูตรอาหารที่คิดค้นขึ้นมาเองจะมีส่วนช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมดิบเฉลี่ยได้มากถึง 20-25 กิโลกรัมต่อแม่วัว 1 ตัว ต่อวัน เลยทีเดียว คุณพ่อสังเวียน กล่าวเพิ่มเติมว่า หากแม่โคมีสุขภาพดีจะมีส่วนช่วยให้แม่โคผลิตน้ำนมได้เยอะขึ้น การล้างเฉพาะเต้านมแทนการล้างแม่โคทั้งตัวก่อนนำไปรีดนมก็มีผลต่อการให้น้ำนมเช่นกัน การนำหัวเชื้อจุลินทรีย์อีเอ็มผสมกับกากน้ำตาลและน้ำสะอาดเอาไปราดบนอาหาร หญ้าสด ฟางแห้ง หรือใช้ผสมน้ำให้แม่โคกิน จะช่วยให้ระบบการย่อยอาหารมีสุขภาพดีขึ้น ส่งผลให้โคมีสุขภาพดี ลดปัญหาการสะสมของเชื้อโรคและกลิ่นเหม็นภายในคอกเลี้ยงสัตว์ได้ ส่วนโคที่ไม่ได้รีดนมหรือโคตัวผู้ที่ขุนเนื้อจำหน่ายก็จะใช้อาหารสูตรใกล้เคียงกันกับแม่โคที่รีดนม ทำให้โคที่ขุนเนื้อโตไว ได้น้ำหนักดี ขายได้ราคาสูง ส่วนมูลโคที่มีหลายสิบตันภายในฟาร์มก็จะจำหน่ายให้กับผู้ที่สนใจทั่วไปและบางส่วนก็นำไปใช้เป็นปุ๋ยรองพื้นในนาข้าวแทนการใช้ปุ๋ยเคมี “จากโคนมเพียง 6 ตัวที่คลอดลูกออกมาทุกปี หากคลอดเป็นวัวตัวเมียก็จะมีน้ำนมขายได้มากขึ้น หากคลอดออกมาเป็นตัวผู้ก็จะคัดเก็บไว้เป็นพ่อพันธุ์หรือเลี้ยงขุนไว้ขายเป็นวัวเนื้อต่อไป” คุณพ่อสังเวียน กล่าวทิ้งท้าย

ต้นทุนในการเลี้ยงโคนมภายในสังเวียนฟาร์มถือว่าอยู่ในระดับสูงถ้าหากยังใช้อาหารสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียว แต่คุณพ่อสังเวียนจะผสมอาหารไว้ใช้เองเพื่อลดต้นทุน โดยใช้วัตถุดิบที่หาซื้อได้ในท้องถิ่นและมีราคาถูก และคิดค้นสูตรอาหารต่างๆเพื่อให้มีคุณค่าทางโภชนาการอาหารได้ไม่แตกต่างจากการใช้อาหารสำเร็จรูป ร่วมกับการใช้หญ้าเนเปียร์ ข้าวโพด และฟางแห้งไว้เป็นอาหารหยาบ จนสามารถลดต้นทุนในการเลี้ยงได้เกือบเท่าตัว

ผสมอาหารไว้เลี้ยงโคนมเพื่อลดต้นทุน

เกียรติประวัติและผลงาน

• รางวัลผู้นำชุมชนดีเด่นด้านการเลี้ยงสัตว์ตำบลหนองไฮ
• จุดเรียนรู้การเลี้ยงโคนมครบวงจร
• ฟาร์มโคนมต้นแบบจังหวัดศรีสะเกษ
• เกษตรกรดีเด่นด้านการเลี้ยงโคนม ระดับเขต 3

จากฟาร์มโคนมเล็กๆ สู่ฟาร์มต้นแบบและจุดเรียนรู้การเลี้ยงโคนมครบวงจร

เรื่อง/ภาพโดย: อภัย นามเพ็ง จนท.ศูนย์ประสานงานร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด จ.อุบลราชธานี