เกษตรกรต้นแบบ

"กันยา รักษาสังข์ : เพาะเห็ดโคนญี่ปุ่น ฝันให้โต คิดให้ใหญ่ ก้าวไปทีละก้าวอย่างมั่นคง"

 12 กุมภาพันธ์ 2563 3,704
จ.นครศรีธรรมราช
ฝันให้โต คิดให้ใหญ่
ก้าวไปทีละก้าวอย่างมั่นคง

คือ "ฝันให้โต คิดให้ใหญ่ ก้าวไปทีละก้าวอย่างมั่นคง" คุณกันยาขยายความไว้ว่า ก่อนที่จะทำงานทุกครั้ง เธอจะมีการวางแผนงานไว้อย่างครอบคลุม ว่าจะทำไปถึงจุดไหน จะผลิตเห็ดสามารถส่งขายทั่วประเทศไหม ออกนอกประเทศไหม หลังจากนั้นก็เดินตามแผนโดยไม่ย่อท้อ ไม่หยุดนิ่ง ไม่ถอยหลัง แล้วก็ไม่เดินหลงทาง ในช่วงที่การทำงานที่ราบรื่นก็อาจจะเป็นช่วงที่ก้าวได้ไว หรืออาจจะวิ่งเลย ขณะที่ช่วงที่มีอุปสรรคก็อาจจะเดินช้าหน่อย แต่ก็ไม่หยุดเดิน

คุณกันยากล่าวว่า "เป็นความภูมิใจที่สุดของฟาร์มเห็ดอันดามัน ที่เราเป็นผู้ผลิตเห็ดโคนญี่ปุ่นหรือที่เรียกว่าเห็ดยานางิที่มีรสชาติอร่อย อร่อยเหมือนกับเห็ดโคนป่า ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่เราภูมิใจแล้วก็ดีใจตลอดมาก็คือ เราเน้นการผลิตเห็ดที่ดีมีคุณภาพ ไม่มีการใช้สารพิษในทุกกระบวนการผลิต" คุณกันยาเล่าว่าหลาย ๆ ครั้งที่มีคนกลับมาซื้อก้อนเชื้อ เขาจะบอกให้ทราบว่า เพราะเคยได้ชิมเห็ดของฟาร์มเห็ดอันดามัน รสชาติดี อร่อย มีดอกที่หนา รสชาติกรุบกรอบ ทางคุณกันยาจึงเน้นที่จะผลิตของสดส่งถึงลูกค้า ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผลิตเห็ดโคนญี่ปุ่น คุณกันยาไม่เคยโดนลูกค้าคอมเม้นต์ในเรื่องของคุณภาพเลย มีแต่การสั่งไว้ว่าถ้าเห็ดโคนญี่ปุ่นมาส่ง เจ้าอื่นมาส่งไม่เอานะ ต้องเอาที่ฟาร์มเห็ดอันดามันนะ ซึ่งตรงนี้เป็นความภูมิใจของคุกันยามาก


นอกจากนั้น ตั้งแต่คุณกันยากลับบ้านมาทำเกษตรทำฟาร์มเห็ดโคนญี่ปุ่นนี้ เธอพบว่าตัวเองมีความสุขแท้จริงอย่างน้อยที่สุดก็คือหายจากจากความเจ็บป่วย จากโรคร้ายที่เป็นตอนอยู่ในเมืองหลวง ขณะเดียวกันก็ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติเจออากาศบริสุทธิ์ ได้ปลูกผักกินเอง

คุณกันยาพบว่าอาชีพเกษตรเป็นอาชีพที่สามารถที่จะกำหนดเองได้ทุกอย่าง กำหนดสินค้า กำหนดที่จะทำให้ดอกเห็ดไปส่งถึงมือผู้บริโภคโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง กำหนดเวลาได้วันนี้เราเหนื่อย เราก็ไม่ต้องรีบตื่นแต่เช้า พักผ่อนบ้าง ซึ่งตรงนี้เธอถือว่ามันเป็นความสุขในรูปแบบที่เรียบง่าย เธออาจจะไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ก็อยู่อย่างคนที่มีสุขภาพจิตดี ได้กลับมาดูแลบ้านเกิด ได้กลับมาทำในสิ่งที่รัก มาใช้ชีวิตในรูปแบบที่พอเพียง ตรงนี้คุณกันยาถือว่ามันเป็นความสุขที่ยั่งยืน

ตอนนี้เป็นสิ่งที่คุณกันยายึดถือมาตลอดในการทำเห็ด มีอยู่ 4 - 5 ข้อ และจะขอฝากสำหรับผู้ที่อยากจะทำเห็ดรายใหม่ๆ ด้วย อันแรกคือ

ข้อที่หนึ่งเลย คือ ต้องมีใจรัก รักที่จะทำเห็ดก่อน สำหรับคุณกันยาเองยังตื่นเต้นอยู่ทุกครั้งที่เห็ดออกเยอะ ถึงแม้จะทำงานมา 10 กว่าปี เมื่อเห็ดออกเยอะ เธอจะตื่นเต้นในการที่จะได้เก็บเห็ดทุกครั้ง

ข้อที่สอง คือ ต้องมีความอดทน ต้องมีความเพียรเป็นหลักในการที่จะทำงาน ต้องอดทน ไม่ย่อท้อ

ข้อที่สาม คือ ต้องมีใจจดจ่อในสิ่งที่ทำ ต้องรู้จักช่างสังเกต เป็นคนละเอียดรอบคอบ

ส่วนข้อสุดท้าย คือ จะต้องใช้สติปัญญาในการทำงาน จะต้องแก้ปัญหาเมื่อเจอปัญหา เช่น ปัญหาของการเกิดโรค ปัญหาที่ผลผลิตลดลง หรือการไปทำตลาดแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องสามารถที่จะแก้ไขแล้วมองให้ออกว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน แล้วต้องไปแก้ที่สาเหตุ

คุณกันยา รักษาสังข์ อายุ 47 ปี ปัจจุบันเป็นเจ้าของฟาร์มเห็ดอันดามัน ซึ่งผลิตเห็ดโคนญี่ปุ่นเป็นงานหลัก

คุณกันยาป็นคนอำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยกำเนิด ซึ่งเขาเรียกกันว่าบ้านกกกอ เรียนชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนห้วยยอดที่จังหวัดตรัง หลังจากนั้นก็สอบเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนั้นยังเป็นระบบเอ็นทรานซ์ สอบเข้าได้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน เอกวิทยุโทรทัศน์ ระหว่างเรียนก็ทำกิจกรรมไปด้วยแต่จบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเลยทีเดียว หลังจากนั้นในปี 2538 ก็เริ่มเข้าทำงานในบริษัทผลิตรายการสถานีโทรทัศน์ ผลิตโฆษณาให้กับหน่วยงานของรัฐและเอกชนเป็นลักษณะการสร้างภาพลักษณ์ให้กับองค์กร มีการจัดอีเวนท์บ้าง ทำงานในลักษณะอย่างนี้อยู่ประมาณ 4 งานด้วยกัน เปลี่ยนงานไป 4 ที่ ซึ่งใช้เวลารวมทั้งสิ้นก็ 16 ปี

ช่วงนั้นเวลาที่ทำงานนั้น คุณกันยามีความสุขมากเพราะว่าเป็นงานที่เธอชอบ เป็นสิ่งที่ใฝ่ฝันอยากจะทำ แต่โชคร้าย ในปีที่ 16 ของการทำงาน คุณกันยาป่วยกะทันหันด้วยโรค Adult Still’s หรือแพ้ภูมิตัวเองชนิดข้อ ซึ่งมันมีความรุนแรงมาก ต้องเข้าห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ทำให้คุณกันยาต้องหยุดการทำงานในตอนนั้นเลย เพราะสภาพร่างกายไม่ไหว มีอาการปวดไปตามข้อทั้งหมด เลือดในตัวอักเสบมาก ไม่สามารถที่จะหยิบฉวยอะไรได้เลยแม้แต่กระเป๋าสะพายที่จะถือไปทำงาน ตอนนั้นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ต้องไปหาหมอทุกอาทิตย์ รักษาอย่างต่อเนื่อง แต่อาการก็แค่ทรง แต่คุณกันยาก็ยังกลับไปทำงานได้

หลังจากเธอป่วย ก็เกิดคำถามกับตัวเองว่าการใช้ชีวิตที่กรุงเทพของมันยากลำบากขึ้น ผนวกกับตอนนั้นคุณกันยาไปจดทะเบียนบริษัท เพราะมีความตั้งใจแต่เดิมที่จะจัดทำบริษัทของตัวเองในการผลิตสารคดี ก็เลยจดทะเบียนบริษัท แล้วก็ไปเช่าบ้านสำหรับเตรียมทำเป็นโปรดักชั่นเฮ้าส์ด้วยแล้ว ก็มีพื้นที่หลังบ้านซึ่งมีพื้นที่ว่างอยู่ จึงคิดว่าอยากมีอาชีพเสริมอะไรซักอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น

วันหนึ่งแฟนของคุณกันยาชวนไปทานข้าวต้มที่ร้านข้าวต้ม55 ซึ่งวันนั้นเป็นวันแรกที่คุณกันยาได้กินเห็ดโคนญี่ปุ่น และรู้สึกว่ามันเป็นเห็ดที่อร่อยมาก จึงสั่งซ้ำอีกหนึ่งจาน ก็เลยมีความคิดว่านี่แหละเป็นอาชีพเสริมที่เราจะทำควบคู่ไปกับการทำรายการโทรทัศน์กับบริษัทของตนเอง หลังจากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลกันโดยที่แฟนของคุณกันยาก็แนะนำว่าเพื่อนเขามีหุ้นส่วนอยู่กับเจ้าของฟาร์มทางเหนือเขายินดีให้ไปดูงานได้ ก็เลยนัดกันไปที่จังหวัดลำพูน ซึ่งเจ้าของก็ใจดีให้ได้ไปเรียนรู้ประสบการณ์จากฟาร์มเห็ดจริง ๆ ซึ่งนับว่าเป็นฟาร์มเห็ดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

หลังจากนั้นคุณกันยากลับมากรุงเทพ ก็ยังทำงานประจำอยู่อีกพักใหญ่ในบริษัท แต่อาการร่างกายของเธอไม่ค่อยดีขึ้น ตอนเช้าๆ เดินทางจากบ้านไปที่ทำงาน เธอต้องนั่งรถแท็กซี่ไปทำงาน ถึงหัวลำโพงนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปขึ้นที่รัชดาภิเษก ซึ่ง ณ ตอนนั้นอากาศในรถไฟฟ้าใต้ดินสำหรับคนอื่นก็คงเป็นปกติ แต่สำหรับคุณปันยามันหนาวมาก เธอต้องใส่ทั้งถุงมือ สวมหมวก ใส่ถุงเท้า แล้วก็ใส่แจ็คเก็ต ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวประหลาดในสายตาคนอื่นที่มอง ณ ตอนนั้นและรู้สึกถึงความอักเสบในร่างกาย ถึงแม้ตอนนั้นต้องทานยามื้อละ 9 เม็ด การรักษาเหมือนคนที่เป็นโรค SLE ก็ยังไม่รู้สึกดี กลัวอย่างเดียวคือกลัวว่าจะตายหรือเปล่า ในความรู้สึกคือไม่อยากอยู่ในกรุงเทพ ฯ แล้ว อยู่มาพอแล้ว อาจจะเป็นเพราะอากาศหรือฝุ่นพิษหรืออะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้ร่างกายไม่ดีขึ้น ก็เลยชวนแฟนบอกว่ากลับบ้านเหอะ กลับไปทำเห็ดกัน เขาบอกทำอะไรก็บอกทำเห็ดเนี่ยแหละ ทำเห็ดโคนญี่ปุ่น ก็ชวนกันมาหลายครั้ง ซึ่งตอนนั้นงานของแฟนคุณกันยากำลังไปได้ดี สวยงามมากเป็นงานที่เขาชอบ และผลตอบแทนก็ดีด้วย แต่ในที่สุด คุณกันยาต้องยอมเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ต้องบอกเขาว่าอยู่ไม่ได้แล้ว ต้องกลับบ้าน กลับบ้านของเรา เขาบอกแล้วจะไปทำที่ไหนล่ะเห็ดโคนญี่ปุ่นเนี่ย คุณกันยาก็บอกกลับบ้านที่นครศรีธรรมราช ที่บ้านมีสวนผลไม้ มียางพารา เพราะแม่ปลูกผลไม้เป็นสวนผสมผสาน จะกลับไปทำที่นั่น และคิดว่าระหว่างแถวของผลไม้น่าจะเป็นที่ที่สร้างโรงเรือนเห็ดได้ โดยที่ไม่ต้องทำลายหรือว่าตัดกิ่งไม้อะไรเลย

วันนั้นเป็นวันที่เขายอมตกลง ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นลูกคนเดียว แล้วก็อยู่กรุงเทพโดยกำเนิด ณ วันนั้นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณกันยากลับบ้าน ในปี 2549 หลังจากแต่งงานหนึ่งปี ซึ่ง ณ ตอนนั้นพ่อกับแม่คุณกันยายังมีชีวิตอยู่ พ่อเตรียมโรงเรือนเอาไว้ให้ คือเตรียมตัดไม้ไว้ให้ ส่วนพี่ชายก็เป็นห่วง โทรหาบอกว่าน้องทำงานประจำรวมกันสองคนสามีภรรยามีรายได้เป็นแสนเสี่ยงหรือเปล่าที่จะกลับมาบ้าน มาทำเห็ด มันจะงอกเหรอ คุณกันยาจึงบอกไปว่าเพื่อแลกกับสุขภาพของตัวเอง ต้องยอมเสี่ยง ซึ่ง ณ ตอนนั้นคุณกันยาคิดแค่นั้นจริง ๆ

แต่ปรากฏว่าตอนกลับบ้านในปี 2549 สิ่งที่คุณกันยาตั้งใจจะกลับมาเพื่อรักษาตัว กลับมาทำอาชีพ กลับได้ทำในสิ่งที่เรียกว่าบุญในชีวิตคือ ได้กลับมาดูแลพ่อแม่ เพราะว่าในบ้านเดิม บ้านเก่าหลังนี้พี่ ๆน้อง ๆทำงานก็แยกมีครอบครัวกันไปหมด ช่วงปลายชีวิตคุณพ่อของคุณกันยาท่านก็ป่วยหนัก คุณกันยาเลยได้ดูแลคุณพ่ออยู่สองปีท่านถึงจากไป หลังจากนั้นก็ดูแลแม่อย่างดี 16 ปี คุณแม่คุณกันยาก็จากไป ณ ขณะเดียวกันในขณะที่ทำเห็ด คุณกันยาก็ได้รักษาตัวเอง ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะอากาศ เป็นเพราะอาหารการกินที่เป็นผักที่เราปลูกเอง หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เป็นสิ่งที่ถ้าเมื่อไปตรวจเลือด ผลการตรวจเลือดจะดีขึ้นทุกครั้ง ผลการรักษาดีขึ้นเรื่อย ๆ ความอักเสบในร่างกายก็ลดน้อยลงเหมือนคนปกติ คุณหมอจึงให้หยุดยา เพราะว่าทานยามากไปจะทำให้ร่างกายแย่เปล่า ๆ ซึ่ง ณ จุดนั้นคุณกันยารู้สึกว่าหายป่วยแล้ว สามารถทำงานได้ ทำเห็ดได้ งานที่ทไม่หนักเกินไปสำหรับคนเป็นโรคอย่างเธอ

พื้นที่ที่คุณกันยาใช้ทำโรงเห็ด ประมาณ 3 ไร่ บนพื้นี่ทั้งหมดแปดไร่ มีโรงเรือนทั้งหมด 9 โรงเรือน เป็นโรงเรือนถาวรทั้งหมด คุณกันยาพยายามจะทำให้มันถาวรจะได้ไม่ต้องทำก่อสร้างซ้ำแล้วซ้ำอีก แล้วยังมีโรงเปิดดอก โรงนึ่ง แล้วก็โรงปลูกเชื้อ

ผลผลิตหลัก ๆของฟาร์มเห็ดอันดามัน คือ เห็ดโคนญี่ปุ่นหรือเห็ดยานางิ ซึ่งเป็นรายได้หลักของฟาร์ม หลังจากนั้นจะมีรายได้เสริมมาจากการทำเห็ดนางฟ้าภูฐาน ขายดอกเป็นตลาดล่าง ซึ่งคุณกันยาเริ่มทำมาเมื่อสามปีที่แล้ว ตอนที่เศรษฐกิจของภาคใต้หรือโดยภาพรวมของประเทศไม่ค่อยดี และช่วงนั้นเองคุณกันยาเริ่มขายก้อน จำหน่ายก้อนเชื้อเห็ด ซึ่งขายอยู่ 5 ชนิด มีก้อนเห็ดนางฟ้าภูฐาน เห็ดโคนญี่ปุ่น เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดหูหนู แล้วก็เห็ดฮังการี ซึ่งเห็ดทั้ง 5 ชนิดนี้ เป็นเห็ดที่เลี้ยงและสามารถที่จะทำตลาดได้ง่าย คุณกันยาตั้งใจว่าลูกค้าทุกคนที่อยากจะทำเห็ด เธออยากให้การลงทุนครั้งแรกของเขานั้น เป็นการลงทุนที่เขาสามารถที่จะคืนทุนได้และทำกำไรได้ดีเลย จนเขาสามารถที่จะยึดอาชีพเห็ดเป็นอาชีพที่ถาวรได้ หรือเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักก็สามารถทำได้แลย

ในช่วงแรกของการมาทำเห็ดโคนญี่ปุ่นที่ เป็นช่วงของการลองผิดลองถูก คุณกันยาไม่ได้มีพื้นฐานความรู้ในเรื่องของด้านเกษตรมาก่อนเลย คือใช้จากประสบการณ์จริง อบรมบ้างเพียงเล็กน้อย ใช้การทดลองทำ สังเกตดูเชื้อโรคต่าง ๆ ว่าในพื้นที่ภาคใต้เป็นอย่างไร ในช่วงเวลานั้น ทางภาคใต้ยังไม่รู้จักเห็ดชนิดนี้เลย

ตอนนั้นและสภาพของการเพาะเห็ด สภาพของฝน ความชื้นที่มันสูงมากกว่าภาคเหนือหรือภาคอีสาน ซึ่งน่าจะทำได้ง่ายกว่า คุณกันยาพยายามที่จะปรับเปลี่ยนโรงเรือนให้มีความสะอาดขึ้น มีการเปิดโรงเรือนแห้งขึ้น เปลี่ยนระบบตัวเองจากการใช้ทรายลงไปโรยเพื่อรักษาความชื้นในพื้นโรงเรือนก็เป็นการใช้ตีเป็นพื้นปูนซีเมนต์ ซึ่งจะทำให้ก้อนเห็ดแห้งแล้วก็สะอาด สามารถทำความสะอาดด้วยคลอรีนได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตามเมื่อถึงวันนี้ ในการผลิตดอกเห็ดคุณกันยาถือว่า ด้วยเวลา ด้วยประสบการณ์ ด้วยความเอาใจใส่ คุณกันยาผ่านจุดที่มีปัญหา ณ ตรงนั้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือ เห็ดโคนญี่ปุ่นในตัวของดอกเห็ดยังมีคนอีกมากซึ่งไม่รู้จักเห็ดตัวนี้เลย ในช่วงแรกๆ คุณกันยาขายเห็ดโดยไปขายตามตลาดนัด ซึ่งเขาไม่รู้จักเห็ด ไม่เคยเห็นหน้าตาของมันมาก่อน ก็ใช้วิธีการผัดน้ำมันหอยให้ลูกค้าชิม ซึ่งบางคนก็ไม่กล้าชิ มแต่ทุกคนที่ชิมจะซื้อ คุณกันยาเลยใช้ยุทธวิธีนี้ในการทำตลาด หลังจากนั้นในปีที่สอง ตลาดของคุณกันยาคือตลาดบน สินค้าค่อนข้างจะเป็นพรีเมี่ยม เพราะราคาค่อนข้างสูง ก็ส่งตามร้านอาหาร ภัตตาคาร บาร์

หลังจากก็บรรจุก้อนเห็ดโคนญี่ปุ่น ผ่านขั้นตอนการนึ่ง การหยอดเชื้อ เข้าสู่โรงบ่มเชื้อ เชื้อจะใช้เวลาในการเดินเชื้ออยู่สองเดือนเต็ม หลังจากนั้นก็จะย้ายก้อนเห็ดโคน ซึ่งพร้อมที่จะออกดอกเข้าสู่โรงเปิดดอก เปิดจุกเกลี่ยข้าวฟ่าง ทำการให้น้ำ และสามารถที่จะออกดอกได้ ใช้ระยะเวลาในการเก็บดอกหลังจากวันแรกที่ให้น้ำจนถึงวันที่ 10 ก็มีดอกให้เก็บ สามารถที่จะแพ็คแล้วก็ส่งลูกค้าได้

เห็ดโคนญี่ปุ่นเป็นเห็ดที่คุ้มค่าในการลงทุนมากในแง่ของการที่ทำหนึ่งครั้งสามารถที่จะเก็บดอกได้นาน สำหรับ ฟาร์มเห็ดอันดามันสามารถที่จะเปิดดอกได้ถึง 12 ถึง 15 รอบ หลังจากนั้นเห็ดก็ยังออกดอกอยู่แต่ว่ามันไม่คุ้มค่าในการที่จะดูแลให้น้ำอีก ถ้าก้อนเชื้อที่มันเก่า มันอาจที่จะปนเปื้อนเชื้อโรคได้ ซึ่งเราเอาไปทำปุ๋ยมันจะให้ผลที่คุ้มค่ากว่า

ส่วนเรื่องโรค เห็ดโคนญี่ปุ่นสิ่งที่ควรระวังสำหรับการเพาะเลี้ยง คือไร ถ้าเราดูแลโรงเรือนไม่สะอาด หรือในการผลิตก้อนในครั้งแรก ผลิตดอกยังไม่ได้คุณภาพคือไม่สะอาดพอ หรือว่ามีการปนเปื้อน ผู้ที่เข้าไปทำงานในฟาร์ม เข้าไปในโรงเรือนจะต้องสะอาด พื้นจะต้องราดคลอรีน ถ้าไม่ทำอย่างนี้อาจจะมีไรเกิดขึ้นได้ ซึ่งไรจะเป็นตัวที่ทำลายก้อนเชื้อเห็ดอย่างไวมาก ทำให้ผลผลิตลดลงมากกว่าครึ่ง และอาจจะลุกลามไปถึงโรงเรือนอื่นได้ สิ่งที่ฟาร์มเห็ดอันดามันให้ความสำคัญมาก คือ การป้องกันไม่ให้เกิดไรขึ้นในระบบของฟาร์มทั้งระบบ

นอกจากนั้น สำหรับเห็ดโคนญี่ปุ่น หลังจากที่เราเปิดดอกแล้วเมื่อเก็บดอกเสร็จในแต่ละรุ่นมันจะมีรากเห็ดหรือเรียกว่าตีนเห็ดติดอยู่ที่หน้าก้อน ก็จะใช้หางช้อนสะอาดแคะ ซึ่งเมื่อรากเห็ดหลุดไปมันจะทำให้หน้าก้อนสะอาด ถ้าเราไม่ทำอย่างนั้นตัวรากเห็ดมันจะมีกลิ่น มันจะดึงดูดแมลงและดึงดูดแมลงหวี่ แมลงหวี่ตัวเนี่ยจะนำพาไรมา ซึ่งไรมันจะเกาะอยู่ที่ขาแมลงหวี่

ขณะเดียวกันการป้องกันอีกอย่างหนึ่ง เนื่องจากว่าฟาร์มเห็ดอันดามันเป็นฟาร์มที่ปลอดสารพิษ ไม่ได้ใช้สารเคมีในทุกกระบวนการผลิต ฉะนั้นจะใช้ชีวภาพในการดูแลป้องกันก้อนเห็ดให้สามารถรักษาก้อนอยู่ได้นาน ก็จะใช้เชื้อจุลินทรีย์ตัวที่เรียกว่าบาซิลลัสไมโตฟากัส เรียกสั้น ๆ ว่าไมโตฟากัส ตัวนี้มันสามารถมาขยายเชื้อก็ได้ ใช้ในอัตราส่วนหนึ่งช้อนชา ใส่ในน้ำมะพร้าวอ่อน หมักด้วยน้ำมะพร้าวอ่อน โดยเปิดแง้มฝาเอาไว้ หมักไว้ 1 ถึง 2 วัน และนำมาผสมน้ำสะอาด 20 ลิตร แล้ววนำมาฉีดที่หน้าก้อนให้ชุ่ม แล้วก็ฉีดที่บริเวณโรงเรือนต่าง ๆ แต่ต้องเป็นการทำในเวลากลางคืน ในรอบหนึ่งก็จะทำ อย่างการให้น้ำรอบหนึ่งก็อาจจะฉีดครั้งหนึ่งถึงสองครั้ง ก็จะทำให้ตัวไมโตฟากัสเข้าไปฆ่าไร ทำให้ไรค่อย ๆ ตายไป และจะหมดไปในที่สุดซึ่งวิธีการนี้ก็ใช้มาตลอดในฟาร์มเห็ดอันดามัน

ช่องทางตลาด
สำหรับราคาของเห็ดโคนญี่ปุ่นตอนนี้ราคาหน้าฟาร์มอยู่ที่ราคา 250 บาทแต่สำหรับจังหวัดอย่างกระบี่ก็จำหน่ายในราคาสูงขึ้นเพราะว่าต้องบวกค่าขนส่งไปด้วย

ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าเห็ดโคนญี่ปุ่นเป็นเห็ดที่ใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง เนื่องจากสารอาหารโปรตีนที่มากแล้วก็มีการใส่อาหารเสริม สำหรับการลดต้นทุนสำหรับเห็ดโคนญี่ปุ่นของฟาร์มเห็ดอันดามันไม่ได้ชัดเจนในการลดทุนในการผลิตแต่ทางหาร์มนำวัสดุเหลือใช้จากการทำเห็ดโคนญี่ปุ่นมาทำเป็นปุ๋ย ก้อนเชื้อเห็ดเก่า แล้วก็ตีนเห็ดมาหมักทำเป็นน้ำหมักชีวภาพ EM แล้วยังทำเป็นปุ๋ยน้ำเพื่อใช้ในสวนผลไม้ใช้กับแปลงผัก ซึ่งในพื้นที่เดียวกันนี้เรามีสวนผลไม้อยู่ด้วย มีทั้งทุเรียน มังคุด ลองกอง ซึ่งพูดได้ชัดเจนเลยว่า หลังจากเราทำเห็ดโคนญี่ปุ่นมา เราสามารถที่จะเอาสิ่งที่เหลือใช้ในการทำเห็ดมาทำเป็นปุ๋ยที่ใช้เอง และสามารถที่จะลดต้นทุนในการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ 80% ปุ๋ยเคมีเราจะใช้แค่ในการเพิ่มรสชาติ เพิ่มคุณภาพให้กับผลของมัน

ตอนนี้ผลผลิตจากฟาร์มเห็ดอันดามันสำหรับการขายดอกเห็ดโคนญี่ปุ่น สามารถผลิตได้เดือนละ 350 ถึง 400 กิโลกรัม สร้างรายได้ให้กับฟาร์มด้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 80,000 ถึง 90,000 บาท

สำหรับตลาดปัจจุบันที่ฟาร์มเห็ดอันดามันส่งไปขาย จะส่งขายร้านอาหาร ภัตตาคาร ผับบาร์ ในจังหวัดตรัง อำเภอทุ่งสง และจังหวัดกระบี่ ในเร็ว ๆ นี้ ก็จะขยายการผลิต แล้วก็ส่งไปขายในร้านอาหารจังหวัดนครศรีธรรมราช กับจังหวัดภูเก็ต ขณะเดียวกันก็ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะผลิตเห็ดโคนญี่ปุ่นให้ได้เฉลี่ยมีผลผลิตน้ำหนักเดือนละ 1 ตัน เพื่อจะขายส่งให้กับร้านอาหารและภัตตาคารทั่วไปทั้งพื้นที่ภาคใต้

สำหรับคุณกันยาแล้ว การทำการตลาดเป็นเรื่องที่ยาก ซึ่งเธอก็พยายามอย่างมากในการที่จะทดลองให้ลูกค้าได้ชิม ณ วันนี้ในการไปติดต่อลูกค้าเพื่อจะให้นำเห็ดโคนญี่ปุ่นไปส่งตามร้านอาหารต่างๆ เธอก็ยังทำเห็ดไปให้เขาชิม นำความรู้ที่เรียนมาตลอดในอาชีพวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนมาช่วย แฟนพี่เป็นช่างภาพมาก่อน ก็ทำเมนูอาหาร ถ่ายรูปอาหารที่น่ากิน เพื่อเอาไปให้ร้านค้าเพื่อไปส่งเสริมการขาย ให้เขาขายเห็ดโคนญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้น ซึ่งมันก็ส่งผลโดยตรงกับทางฟาร์ม ซึ่งมันสามารถทำให้ฟาร์มเห็ดอันดามันขายดอกเห็ดได้มากขึ้น

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

คุณกันยา รักษาสังข์ เลขที่ 1 ม. 1 ต.บ้านนิคม อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช 80360

เพาะเห็ดโคนญี่ปุ่น ฝันให้โต คิดให้ใหญ่ ก้าวไปทีละก้าวอย่างมั่นคง l รักบ้านเกิด



ทำปุ๋ยหมักจากก้อนเห็ดเก่า ประหยัดเงินค่าปุ๋ย พืชผักเติบโตดี l รักบ้านเกิด



สูตรผสมอาหารก้อนเห็ดโคนญี่ปุ่น เห็ดออกสวย ผลผลิตเยอะ l รักบ้านเกิด

เรื่อง/ภาพโดย: ณัฏฐ์ คำวิชัย ทีมงานรักบ้านเกิด