เกษตรกรต้นแบบ

"สุชีพ บุญวีระ : ไร่บุญฉลวย รวมพลคนปลูกผักอินทรีย์"

 07 กุมภาพันธ์ 2563 2,699
จ.นครราชสีมา
มุ่งมั่น อดทน ขยัน
แล้วจะนำชีวิตมาสู่ความสุขเอง

สิ่งที่คุณสุชีพยึดถือ อันดับแรกเลยคือ ต้องมุ่งมั่น อดทน ขยัน ซื่อสัตย์กับตัวเอง มุ่งมั่นจะทำอะไรต้องทำให้ได้ ต้องทำสำเร็จ และต้องหมั่นหาความรู้ใส่ตัวให้เยอะ ๆ อะไรที่ไม่เข้าใจก็ search หาความรู้จากมือถือได้เลย หรือไม่ก็ไปหาผู้รู้จากในนั้น แล้วก็ไปศึกษาหาความรู้จากเขา การเรียนรู้นี้ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีว่าประสบความสำเร็จแล้วจะอยู่นิ่ง ต้องเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ถึงจะประสบความสำเร็จที่แท้จริง

จากที่เคยทำงานออฟฟิศแล้วหันมาทำเกษตร สิ่งที่คุณสุชีพได้อย่างชัดเจนที่สุด คือ จิตใจดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น เมื่อจิตใจดี ร่างกายก็ดีขึ้น แข็งแรงขึ้น มีสติปัญญามากขึ้น การอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทำให้มีสมาธิ ก่อให้เกิดสติปัญญา และรักที่จะมีชีวิตที่เรียบง่ายมากขึ้น ผิดจากตอนยังทำงานประจำ ชีวิตตอนนั้น คิดอะไรเป็นธุรกิจหมด ผิดจากตอนนี้ ที่เน้นความเรียบง่าย ซึ่งให้ความสุข ก่อเกิดสมาธิ สติปัญญาแก่ชีวิตได้มากกว่าเดิม

นอกจากนั้น คุณสุชีพยึดถือปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร.๙ ไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต ซึ่งสำหรับเขา เป็นปรัชญาที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และทำให้เขามีความสุขในทุกวันนี้

คุณสุชีพเน้นการเรียนรู้ตลอดชีวิต หากคิดว่าประสบความสำเร็จแล้ว เมื่อนั้นจะแย่ ต้องมีความพอใจในระดับหนึ่ง แต่พร้อมที่จะเรียนรู้ไปเรื่อย เพราะจะมีสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิตตลอดเวลา เราต้องปรับเปลี่ยนไปอย่างไม่มีข้อจำกัด ต้องเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ

อีกสิ่งที่สำคัญ คือ ความอดทน เพราะว่าการเริ่มต้นใหม่ ต้องลงแรงลงใจทรัพย์ที่เรามี ต้องทุ่มไปที่มันเลย ถ้าเราท้อเมื่อไหร่ ถือว่าเรากลับมาที่ศูนย์และกำลังจะติดลบ สิ่งสำคัญในช่วงแรก คือต้องอดทน มีแรงเท่าไหร่ทำไป เรื่องเงินอย่าเพิ่งคาดหวัง และเมื่อถึงวันหนึ่ง เงินจะมาเอง

คุณสุชีพ บุญวีระ เจ้าของไร่บุญฉลวย เป็นคน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาตั้งแต่เกิด เรียนจบจากที่ อ.ปากช่อง แล้วไปเรียนต่อที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ ที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นเรียนต่อมหาวิทยาลัยจนกระทั่งจบปริญญาโทที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และได้ทำงานเป็นพนักงานประจำ สถานที่ทำงานที่สุดท้ายก่อนมาทำไร่ของตัวเอง คือ ธนาคารกสิกรไทย

จุดเปลี่ยนที่ทำให้หันมาทำการเกษตร คือ คุณแม่ของคุณสุชีพยกที่ดินตรงนี้ให้ ซึ่งเป็นที่ดินมรดกของคุณพ่อสมบูรณ์กับคุณแม่ฉลวย คุณสุชีพเลยตั้งชื่อว่าไร่บุญฉลวย โดยเริ่มจากทำผักสวนครัว เพราะแม่ยายของคุณสุชีพเป็นมะเร็ง คุณหมอแนะนำให้ทานของที่สะอาด ที่มันคลีน เขาก็เลยคิดว่าน่าจะทำของขึ้นมาเองดีกว่าเพราะไม่มั่นใจว่าซื้อจากข้างนอกจะมีสารเคมีหรือไม่ หรือว่ากินไปแล้วจะทำให้ไปกระตุ้นเชื้อมะเร็งรึเปล่า จึงเริ่มจากการทำผักสวนครัวก่อน

แรกเริ่ม สภาพที่ดินตรงนี้เป็นป่ากระถิน และเป็นภูเขา ดินที่นี่เป็นหินเกือบจะทั้งหมด ช่วงแรก ๆ ในการพลิกฟื้นดินจึงเหนื่อยมาก คุณสุชีพใช้รถไถค่อนข้างเยอะกว่าจะทำให้ดินตรงนี้สามารถเพาะปลูกได้

ส่วนด้านการปลูกผักอินทรีย์ เขาศึกษาจากทั้งการอ่านหนังสือ ดูจาก Google , YouTube แล้วก็ใช้ประสบการณ์ของตัวเองจากการลงมือทำ และด้วยใจรัก คือรักครอบครัว รักคนใกล้ตัว อยากให้คนใกล้ตัวได้ทานในสิ่งที่ดี เมื่อมีปัญหาอุปสรรค ก็ลองถูกลองผิดกันไป เสร็จแล้วก็มาหาวิธีการว่าควรจะทำอย่างไร แบบไหน โดยค้นคว้าจากตำรา จนกระทั่งได้อาจารย์น้ำ - คุณสุวิทย์ มากรุด มาช่วย ทำให้คุณสุชีพอุ่นใจขึ้น

เริ่มแรกเลยคุณสุชีพปลูกมะนาว เพราะได้เรียนรู้ว่ามะนาวมีคุณประโยชน์เยอะ สามารถฆ่ามะเร็งได้ จึงลองปลูกมะนาวก่อน และปลูกแบบออร์แกนิก 100% ไม่ใช้สารเคมีเลยตั้งแต่ต้น นอกจากนั้น ก็ปลูกพืชสวนครัวในร่องของมะนาวอีกที ผลลัพธ์ที่ได้จริง ๆ ในช่วงเริ่มต้น คือ เสียหาย 80 % ได้ผลผลิต 20 % แต่ก็ทำให้ได้เรียนรู้ไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะตอนที่น้ำมา ด้วยพื้นที่ของคุณสุชีพเป็นพื้นที่ลาดเอียง พอน้ำป่ามาพืชพรรณก็หายไปหมด ก็ต้องค่อยๆ เรียนรู้ ทำแปลงรอบไร่เพื่อป้องกันน้ำ และป้องกันสิ่งอื่นที่เจะเข้ามา รวมทั้งปลูกแนวกันชนป้องกันสารเจือปนที่จะเข้ามา

ในส่วนของผักอินทรีย์ เริ่มแรกคุณสุชีพปลูกผักสลัด ปลูกพืชสวนครัว ถั่ว กระเจี๊ยบ หลายชนิด อย่างละนิดอย่างละหน่อย ตอนเริ่มแรกเขาไปซื้อพันธุ์จากข้างนอก แต่ไม่สามารถปลูกต่อได้ ไม่สามารถนำมาทำพันธุ์ได้ อาจารย์น้ำก็มาแนะนำว่าอันนี้มันเป็นพืชจีเอ็มโอ ตัดต่อพันธุกรรมมาแล้ว ไม่สามารถปลูกได้ คุณสุชีพก็เลยเข้าใจตั้งแต่นั้นมา จึงเริ่มไปหาเกษตรอินทรีย์ที่เขามีการแลกพันธุ์กัน แล้วก็นำมาปลูกเก็บพันธุ์ไว้เอง

นอกจากผักสลัด ถั่ว กระเจี๊ยบ มะนาวแล้ว ก็ยังมีมะกรูด กล้วย มะละกอ และผักสวนครัวทุกชนิด ทางด้านหลังมีสมุนไพรที่พัฒนามาเป็นอุตสาหกรรม ทั้งหมดนี้อยู่บนพื้นที่ราว ๆ 40 ไร่ แบ่งเป็นโซนพืชสมุนไพร และพืชยืนต้น อีกด้านเป็นผักสลัด ผักสวนครัว แบ่งตามพื้นที่ว่า พื้นที่แบบนี้เหมาะกับการปลูกอะไร

จุดขายของผักที่นี่คือ ผักที่นี่ไม่ใช้มูลสัตว์ เพราะว่าสัตว์ที่ทานอาหารในปัจจุบัน คนที่ทำฟาร์มก็ไปซื้ออาหารซึ่งมีเคมีเข้ามา พอสัตว์ทานเข้าไปแล้วถ่ายออกมาจะมีสารเคมีตัวนั้น คุณสุชีพเคยไปทำการวิจัยแล้วพบว่าสารเคมีตัวนั้นยังอยู่กับมูลสัตว์ ก็เลยคิดว่าที่นี่ไม่ใช้มูลสัตว์เลยแล้วกัน และที่นี่ได้เป็นไร่ฮาลาลแห่งแรกในประเทศไทย

ส่วนการกำจัดศัตรูพืชนั้น อาจารย์น้ำแนะนำคุณสุชีพว่า ที่นี่เป็นเกษตรพลังอุ่น ให้ระบบนิเวศน์จัดการกับระบบนิเวศน์ แล้วก็ใช้สมุนไพรไล่เขาไป แบ่งปันกันส่วนไหนที่ได้ก็คือได้ ส่วนไหนที่เสียก็คือเสีย ส่วนใหญ่แล้วตรงนี้ระบบนิเวศน์เขาจะจัดการของเขาเอง ส่วนที่สูญเสียถือว่าน้อยมาก แมลงที่ใช้กำจัดแมลงคือตัวฮั่น ตัวเบียน มันคือแมลงชนิดหนึ่งที่กินแมลงด้วยกันเอง คุณสุชีพให้ธรรมชาติเป็นตัวจัดการ

รายได้หลักของไร่บุญฉลวยมาจากพืชผักสวนครัว มะนาว กล้วย กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม และผลิตภัณฑ์แปรรูปทั้งหลาย

เริ่มแรกคุณสุชีพทำการตลาดแบบเดลิเวอลี่ แต่ลูกค้าบอกว่ามันแพง เพราะว่าเขาหาซื้อในตลาดได้ง่ายกว่า แล้วผักออร์แกนนิคเขาว่าไม่สวย คุณสุชีพจึงรวมกลุ่มเกษตรกรออแกนิคส์มาที่นี่ และพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ แล้วก็พัฒนาเกษตรกรขึ้นมา รวมกลุ่มกันขึ้นมา ตอนนี้มีไม่ต่ำกว่า 40 ราย เป็นเกษตรกรที่ อ.ปากช่อง อ.วังน้ำเขียว เลยไปถึงนครสวรรค์ และปัจจุบัน ได้ขยายตลาดออกไป ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารที่กรุงเทพ ฯ เป็นหลัก รองลงมาก็คือ ร้านอาหารในปากช่อง นอกจากนั้น ตอนนี้มีชาวต่างชาติอย่างกัมพูชา มาเลเซีย ได้มาติดต่อซื้อกับกลุ่มของคุณสุชีพแล้ว โดยส่วนใหญ่จะรู้จักผ่านโซชียลมีเดีย เฟสบุ๊ค เป็นหลัก และเนื่องจากที่นี่เป็นไร่ฮาลาลแห่งแรกในประเทศไทย คุณสุชีพได้ชาวมุสลิมเป็นลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งด้วย

นอกจากนั้น ตอนนี้คุณสุชีพมีร้านที่ขายเฉพาะไร่บุญฉลวย มีร้านอยู่หน้าไร่เลย และมีร้านกาแฟด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในร้าน จะใช้ของไร่บุญฉลวยเองกับของกลุ่มเกษตรที่ไปตรวจดูตลอดเวลา ที่สำคัญ ตอนนี้คุณสุชีพแทบไม่ต้องออกไปหาลูกค้าเลย เพราะลูกค้าเข้ามาเอง และสั่งซื้อในจำนวนที่มากกว่าสินค้าที่เขามีซะอีก แปลว่าตลาดพืชผักออแกนิคส์เติบโตขึ้นมาก

นอกจากนั้น คุณสุชีพเพิ่มช่องทางการขายไปทางด้านผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสมุนไพร เริ่มแรกเลยจากมะกรูด เพราะมีผลผลิตเยอะ ภรรยาคุณสุชีพจึงไปเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสมุนไพร เพราะคิดว่า ถ้ายังซื้อใช้ เราจะยังมีสารเคมีอยู่ในร่างกายแน่นอน ก็เลยไปเรียนเพื่อทำขึ้นเอง เป็นผลิตภัณฑ์แชมพู โลชั่นทาตัว หรืออะไรทุกอย่างจากสมุนไพร เพื่อให้มั่นใจว่าทั้งหมดปลอดภัยแน่นอน จนกระทั่งปัจจุบันนี้เป็นโรงงานของเขาเอง ขายเองตั้งแต่ดินจนถึงต้นน้ำไปจนปลายน้ำ

ปัจจุบัน คุณสุชีพมีรายได้ ราวๆ 100,000 บาทต่อเดือน ถ้ารวมทั้งปี ก็ประมาณ 1,000,000 บาทได้


เกียรติประวัติ : เป็นไร่ฮาลาลที่แรกของประเทศไทย

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

คุณสุชีพ บุญวีระเจ้าของไร่บุญฉลวย อยู่บ้านเลขที่ 346 หมู่ 12 ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30130

ไร่บุญฉลวย รวมพลคนปลูกผัก l รักบ้านเกิด



วิธีจัดการวัสดุในไร่ที่ใช้แล้ว ให้เกิดประโยชน์สูงสุด l รักบ้านเกิด



สูตรทำปุ๋ยหมักวัสดุจากธรรมชาติ บำรุงพืชผักให้สวยงาม l รักบ้านเกิด

เรื่อง/ภาพโดย: ณัฏฐ์ คำวิชัย ทีมงานรักบ้านเกิด