เกษตรกรต้นแบบ

"ดิเรก ขำคง : ต้นอ่อนผักบุ้งออร์แกนิค ความสุขยิ่งใหญ่ ที่ได้จากพืชเล็กๆ"

 22 มกราคม 2563 3,604
จ.ราชบุรี
จะทำอะไร ให้เก่งเฉพาะทาง
แล้วทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

"ก็ได้บินก็ได้ทำทุกอย่างได้ แต่มันไม่ดี เก่งอะไรก็เก่งไปเลยเฉพาะทางใดทางหนึ่ง แล้วก็พยายามดันตัวเองให้ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของสิ่งที่เราทำ ทำอะไรก็แล้วแต่ ทำให้ดีที่สุด ให้เต็มกำลังของเรา อย่าท้อง่ายๆ แล้ววันหนึ่งเราจะสำเร็จ"

คุณดิเรกทำทุกสิ่งด้วยใจรัก การจะรู้ว่ารักหรือไม่ สังเกตง่าย ๆ เลยว่า หากคุณปลูกเกษตรอินทรีย์ เวลาที่พืชผลิใบ คุณตื่นเต้นรึเปล่า คุณมีความสุขกับการได้เห็นมันเจริญเติบโตทุกวันหรือเปล่า ถ้าใช่แสดงว่าคุณมีใจรักและคุณมาถูกทางแล้ว แต่ถ้าไม่ใช่ก็ลองปรับเปลี่ยนดูว่าอะไรที่เข้ากับคุณ เมื่อรู้ว่ามาถูกทางแล้วก็ให้ศึกษาวิธีเพาะปลูกว่าทำอย่างไร ต้องไปเรียนรู้ก่อน ก่อนที่จะหาตลาด จะต้องลองผิดลองถูก ศึกษาหาข้อมูลจนปลูกเป็นก่อน จึงค่อยไปทำตลาด

ทุกวันนี้คุณดิเรกมีความสุขทุกวัน เพราะว่านี่คือสิ่งที่เขาชอบ ตอนทำงานประจำ มีวันว่างแค่เสาร์อาทิตย์หรือวันอาทิตย์วันเดียว เขาก็จะแบ่งเวลาที่มีส่วนน้อยนิดมาทำการเกษตร นั่นคือวันหยุดของเขา แต่เขาก็มีความสุขกับมัน แต่เมื่อเขามาทำการเกษตรเต็มตัว เขารู้สึกว่าทุกนาทีที่ทำมีคุณค่า มีความสุข เขาคิดว่านี่คือวันหยุดของเขา มีวันหยุดวันพักผ่อนทุกวัน ไม่มีวันทำงานเลย เพราะเมื่อทำในสิ่งที่รัก เขาจึงไม่รู้สึกเหนื่อย ไม่มีความเครียด มีความสุขที่ได้มอบสิ่งดี ๆ ให้กับคนอื่น ได้แบ่งปันประสบการณ์และแบ่งปันความรู้ให้กับคนที่อาจจะเป็นเหมือนเขา แต่ไม่มีทางออก ให้เขาได้เจอทางออกที่เหมือนกับคุณดิเรกเอง ซึ่งตอนนี้คุณดิเรกมีความสุขทุกวันทุกนาที

การทำงานของคุณดิเรกจะเน้นคุณภาพไม่ได้เน้นที่ปริมาณ สโลแกนของเขาก็คือ สวย ขาว ยาว อวบ แล้วเขาก็ทำให้ผักของเขาเป็นไปตามนั้น จนได้รับมาตรฐาน PGS ซึ่งเป็นมาตรฐานการรับรองเกษตรอินทรีย์ที่ให้การยอมรับอยู่ในขณะนี้

ส่วนใครก็ตามที่ทำงานประจำอยู่ ถ้าสนใจเรื่องงานเกษตร ขอให้เตรียมความพร้อมให้ดีก่อน อย่าเพิ่งลาออกมาโดยที่ยังไม่มีความพร้อมอะไร สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือ หนึ่ง เงินทุน สอง ข้อมูลการเรียนรู้ เวลาว่างจากงานประจำเมื่อมีเวลาว่างต้องแบ่งเวลาส่วนหนึ่งมาทำความฝันของคุณ และเมื่อถึงจุดหนึ่งเมื่อรู้สึกว่าอิ่มตัวแล้ว พร้อมแล้ว ค่อยออกมา แต่อีกด้านหนึ่งก็จะบอกว่ามันไม่มีอะไรพร้อมถ้าเราจะทำ ในส่วนของบ้านป้าพรของคุณดิเรกนั้น ที่ทำมาก็ไม่พร้อมอะไรเลย แต่ว่าเสียงที่พร้อมที่สุดก็คือใจของเขาเอง ใจต้องพร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นในรอบด้านทุก ๆ เรื่อง ต้องไม่ย่อท้อ ต้องมีจุดหมาย นี่คือความพร้อมที่ควรจะมี แต่ถ้าจะพร้อมทุกเรื่องมันเป็นไปไม่ได้ และคุณดิเรกยังแนะนำว่า ในช่วงเวลานี้ให้ทำเป็นเกษตรอินทรีย์ เพราะนี่คือทางรอดของเกษตรกร

คุณดิเรก ขำคง เป็นคนราชบุรีตั้งแต่เกิด เดิมอยู่ที่ อ.บ้านคา ปัจจุบันย้ายมาอยู่ที่ อ.เมืองแล้ว ตอนนี้อายุ 48 ย่าง 49 ปี

คุณดิเรกจบการศึกษาทางด้านไฟฟ้า จบออกมาทำงานเป็นวิศวกรไฟฟ้า และเคยทำงานโรงงานมาร่วม 20 ปี ตำแหน่งสุดท้ายก่อนลาออก คือ เซลล์เอนจิเนียร์

เหตุที่คุณดิเรกอิ่มตัวจากการทำงานประจำนั้น เป็นเพราะว่า งานประจำมีข้อจำกัดหลากหลาย จึงคิดออกมาทำงานของตนเอง และเนื่องจากพื้นฐานทางคุณตาคุณยายเป็นคนทำเกษตรมาก่อน และปกติเวลาว่างจากงานประจำ คุณดิเรกก็ปลูกพืชเล็กๆ น้อย ๆ เช่น แตงโม แตงกวา อยู่แล้ว และรู้สึกว่ามีความสุขที่ได้ทำ เมื่อถึงจุดหนึ่งที่รู้สึกอิ่มตัวจากงานประจำ จึงลาออก

เมื่อแรกลาออก คุณดิเรกมาช่วยภรรยาทำกิจการร้านอาหาร หลังจากนั้นกิจการมีปัญหา จึงเริ่มมองหาธุรกิจอื่น ๆ ที่ตนเองชอบด้วย ประกอบกับภรรยาของเขามีโรคประจำตัวค่อนข้างเยอะ และภรรยาชอบทานผัก วันหนึ่งคุณดิเรกทานต้นอ่อนผักชนิดและเกิดอาการแพ้ขึ้นมา แต่ว่าต้นอ่อนผักบุ้งนี้ภรรยาไม่แพ้ จึงคิดว่าปลูกต้นอ่อนผักบุ้งน่าจะดี เพราะว่าเขาทั้งคู่ทานแล้วไม่แพ้ คนทั่วไปสามารถทานได้ และส่วนหนึ่งคือต้นอ่อนผักบุ้งนี้อยู่คู่กับคนไทยมานานแล้ว และการทำต้นอ่อนนี้ยังไม่มีใครทำจริงจังขึ้นมา ทั้งสองสามีภรรยาจึงสรุปกันว่า “ถ้าอย่างนั้นเรามาปลูกต้นผักบุ้งกัน”

ในช่วงแรกที่ทำ คุณดิเรกลองซื้อเมล็ดพันธุ์ต้นอ่อนผักบุ้งมาจากท้องตลาดทุกยี่ห้อเพื่อที่จะได้มาสรุปว่าเมล็ดพันธุ์อันไหนที่ดีที่สุด แล้วก็ทำการปลูกโดยใช้วิธีเดียวกัน สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปเป็นเมล็ดผักบุ้งพันธุ์เรียวไผ่ ที่ได้ผลิตผลตรงกับความต้องการของเขาว่า หลังจากที่ปลูก ต้นจะต้องขาวสวยอวบตามที่ต้องการ และตอนนี้ก็ยึดสายพันธุ์นี้เป็นหลัก และปลูกตามออเดอร์ที่มีเข้ามา จะไม่ปลูกทิ้งไว้ ทุกวันนี้เฉลี่ย 50 -200 กิโลกรัมต่อเดือน

ในการปลูกต้นอ่อนผักบุ้งนั้น ปัญหาในเรื่องของศัตรูพืชที่เป็นแมลงไม่มีเลย แต่ปัญหาหลัก ๆ ที่คุณดิเรกเจอ คือ โรคเชื้อรา รากเน่า โคนเน่า ในตอนแรกก็ไม่รู้วิธีว่าจะแก้อย่างไร คุณดิเรกลองมาหลายวิธีก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนสุดท้ายเขาสังเกตจากการทำบ่อยๆ พบว่าปัญหาของเชื้อราที่เกิดขึ้นนี้ หลักๆ เกิดจากเมล็ดที่เน่า เมล็ดที่ไม่พองน้ำ เมล็ดที่อมน้ำไว้ เมล็ดที่มีปัญหาตั้งแต่เริ่มกระบวนการเก็บเกี่ยวมา เขาก็เลยแก้ปัญหาคัดเมล็ดที่เน่าออกทุกเมล็ดในถาดที่เพาะ แล้วก็พบว่าปัญหาการเชื้อรามันไม่เกิดขึ้นเลยเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

การเพาะเมล็ดนั้น จะใช้เวลาปลูก 7 วัน นับเมล็ดหลังจากแช่น้ำแล้วพองผ่านกระบวนการเมล็ดสัมผัสดินเมื่อไร ก็นับวันที่ 1 และนับต่อไปอีก 7 วัน วันที่ 8 ตัด อันนี้คือช่วงปกติ ช่วงหน้าร้อนอุณหภูมิปกติ ถ้าเกิดเข้าช่วงหน้าหนาวประเทศไทยเราจะหนาวอยู่ประมาณ 1-2 อาทิตย์ จะยืดเวลาออกไป 9-10 วัน เพราะว่าหน้าหนาวการเจริญเติบโต การยืดลำต้นมันจะช้ากว่าปกติ

ในส่วนของเมล็ดจะแช่แค่ 12 ชั่วโมง เพราะถ้าเกินจากนี้ไป เมล็ดจะเริ่มเน่า เมล็ดที่พองน้ำแล้วถ้าเราแช่ต่อเกิน 12 ชั่วโมง เขาจะเริ่มเน่าแล้วมีปัญหาเชื้อราตามมา พอครบ 12 ชั่วโมง ก็จะร่อนเมล็ดที่พร้อมปลูกออกมาปลูกก่อน

ดินที่ใช้ในการปลูก คุณดิเรกทำเป็นดินออแกนิก ซึ่งจะมีกระบวนการตรวจรับรองพีจีเอสกลุ่ม ซึ่งตอนนี้คุณดิเรกใช้พีจีเอสกลุ่มเกษตรอินทรีย์ร่มเย็นราชบุรี ขับเคลื่อนโดยกลุ่มที่สามพรานโมเดล ดินที่ใช้จะมีแหล่งดินที่ดินรอบๆ แปลง 1 กิโลเมตร จะไม่มีการพ่นสารเคมีเข้ามา ใช้หน้าดินแค่ประมาณศอกหนึ่งจากหน้าดินลงไป และแปลงที่เขาไปเอานี้ ไม่มีการเพาะปลูกมาประมาณ 20 ปีแล้ว จึงเอามาเข้ากระบวนการผสมตามสูตรเฉพาะของเขาเอง ซึ่งไม่ใช้มูลสัตว์ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี แล้วตอนนี้ก็ได้รับรองมาตรฐานพีจีเอสจากมูลนิธิสามพรานสุขใจ เรียบร้อยแล้ว

ในหนึ่งกระบะ เมล็ด 1 กิโลกรัมที่แช่น้ำ จะปลูกได้ 5 กระบะ เฉลี่ยที่ตัดเป็นต้นสดจะได้ประมาณ 5-8 ขีด เพราะว่าถ้าดูแลไม่ดีจำนวนปริมาณคุณภาพก็จะลดลงมา แต่ถ้าดูแลดีๆ เต็มที่ จะได้ไม่ต่ำกว่า 7-8 ขีดต่อถาด เพราะฉะนั้นเมล็ด 1 กิโลกรัม จะปลูกเป็นต้นสดได้ 4 กิโลกรัม อันนี้คือมาตรฐาน

หลังจากที่คุณดิเรกลองผิดลองถูกอยู่สองปี เขาคิดว่าเขาจบหลักสูตรแล้ว ตอนนี้สามารถคุมคุณภาพได้ คุมความยาวขาวอวบได้แล้ว

แต่ในช่วงแรกนั้น เขาไม่มีตลาดเลย เขาเริ่มทำการตลาดจากการที่ปลูกเสร็จแล้วก็ให้ข้างบ้านชิม แจกข้างบ้าน เมื่อเขาติดใจก็มาสั่งอาทิตย์ละสามสี่ถุง ต่อมาก็ขยายตลาดเพิ่มขึ้นโดยการไปส่งที่ร้านอาหารในจังหวัดราชบุรี กระแสการตอบรับก็ยังไม่ดีพอ จึงมาคิดกันว่าผักของเขาเป็นออร์แกนิค เพราะฉะนั้นต้องเจาะกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพ และเมื่อค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ก็พบว่ากลุ่มลูกค้ารักสุขภาพเกือบ 100% อยู่ที่กรุงเทพ ก็เลยส่งข้อมูลเข้าไปที่เว็บไซต์ของ สทส ตามตลาดต่างๆที่เป็นตลาดคลีน ตลาด OGANIC หลังจากนั้นมีคนมาติดต่อเขาให้ไปออกบูธที่สยามดิสคัฟเวอรี่และตรงทางเดินระหว่างสยามดิสคัฟเวอรี่กับสยามเซ็นเตอร์ นั่นคือจุดกำเนิดของบ้านป้าพร ที่นั่นเป็นกลุ่มลูกค้าของเค้าซึ่งเป็นคนกรุงเทพและเป็นคนที่รักสุขภาพ และส่วนหนึ่งเป็นลูกค้าชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส ซึ่งฝรั่งบางคนซื้อต้นอ่อนไปทานสดเหมือนทานของว่าง เขาก็เลยคิดว่าเขามาถูกทางแล้ว หลังจากนั้นก็เลยขยายตลาดโดยเจาะไปที่ตลาด OGANIC กับตลาดของคนที่รักสุขภาพ ตอนนี้เขามีตลาดเพิ่มขึ้นมาคือ ตลาดสังคมสุขใจที่สามพรานนครปฐม ตลาดรังนกที่เปิดใหม่ที่บางเลน ตอนนี้กำลังจะมีศูนย์เรียนรู้และศูนย์กระจายสินค้าใหม่ที่งิ้วราย ที่เขาเรียกว่าบ้านพิพิธภัณฑ์สอง กำลังจะเปิดในช่วงปีหน้าตอนนี้อยู่ในช่วงกำลังปรับปรุงอยู่ หากท่านใดสนใจจะมาเรียนรู้เรื่องการปลูกต้นผักบุ้งสามารถไปดูและไปเรียนรู้ที่นั่นได้

นอกจากนั้นตอนนี้คุณดิเรกมีโครงการทำเอ็มโอยูร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฎจอมบึง เพื่อที่จะทำการวิจัยต้นผักบุ้งเป็นโปรไบโอติก คือจะทำเป็นกิมจิ ตอนนี้กำลังทำการวิจัยหาตัวโปรไบโอติกว่าจะเป็นตัวไหน แล้วทำเอ็มโอยูเพื่อเข้าทำการวิจัยคิดค้นและพัฒนา package ขึ้น ซึ่งตรงนี้สามารถส่งออกไปที่ต่างประเทศได้ด้วย

ส่วนตลาดทางออนไลน์นั้น เนื่องจากต้นผักบุ้งต้นสด เมื่อส่งไปยังขนส่งต่างๆ มักมีปัญหาค่อนข้างเยอะ ต้องคุมอุณหภูมิตลอด ปัญหาคือจะทำอย่างไรให้อุณหภูมิที่อยู่ในกล่องที่ส่งไปคงที่ตลอด ซึ่งยังเป็นเรื่องยาก คุณดิเรกจึงใช้หลักการส่งเป็นเมล็ด ส่งเป็นอุปกรณ์เพาะปลูกไปให้คนที่สนใจ แล้วเปิดคอร์สสอนปลูก ซึ่งตอนนี้ก็เขามีลูกศิษย์ที่มาเรียนอยู่ที่ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก กระจายอยู่แทบจะครบทุกภาค ต่อไปในอนาคตลูกศิษย์กลุ่มนี้จะสามารถผลิตต้นอ่อนผักบุ้งที่มีคุณภาพและสามารถขายได้ในจังหวัดนั้นๆ คนที่อยู่ใกล้ๆ สามารถเข้าไปซื้ออุดหนุนได้ ซึ่งจะง่ายกว่าซื้อมาที่คุณดิเรกโดยตรง

ได้รับมาตรฐาน PGS ซึ่งเป็นมาตรฐานการรับรองเกษตรอินทรีย์ที่ใด้รับการยอมรับอยู่ในขณะนี้

(PGS คือ ระบบประกันคุณภาพในระดับท้องถิ่น ที่ให้การรับรองผู้ผลิตโดยเน้นการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และตั้งอยู่บนฐานของความเชื่อถือ เครือข่ายทางสังคม และการแลกเปลี่ยนความรู้ [Participatory Guarantee Systems (PGS) are locally focused quality assurance systems. They certify producers based on active participation of stakeholders and are built on a foundation of trust, social networks and knowledge exchange.] )

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

คุณดิเรก ขำคง วิสาหกิจชุมชนวิสาหกิจชุมชนบ้านพระพรต้นอ่อนผักบุ้ง เลขที่ 369 หมู่ที่ ถนน สมบูรณ์กุล2 ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี 70000

ดิเรก ขำคง ต้นอ่อนผักบุ้งออร์แกนิค ความสุขยิ่งใหญ่ ที่ได้จากพืชเล็กๆ l รักบ้านเกิด



วิธีรดน้ำต้นอ่อนผักบุ้งให้ได้คุณภาพ โคนต้นไม่เน่า l รักบ้านเกิด



เทคนิคการปลูกต้นอ่อนผักบุ้งให้ตรงสวย l รักบ้านเกิด

เรื่อง/ภาพโดย: ณัฏฐ์ คำวิชัย ทีมงานรักบ้านเกิด