

"สุนารี คงเรืองศรี : จากสาวโรงงานสู่เจ้าของฟาร์มจิ้งหรีด"

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ต้องเดินต่อไป

ชีวิตตอนนี้ของคุณสุนารีออกมาเลี้ยงจิ้งหรีดเต็มตัว แต่เป็นการทำงานที่มีความสุข ไม่ต้องมีนายจ้างมาดูแล เป็นนายของตัวเอง เมื่อทำเองก็ได้เอง และเมื่อสู้จนถึงวันนี้ เธอภูมิใจ และมีความสุขมากกับสถานภาพในปัจจุบัน เพราะตอนเริ่ม เริ่มต้นทำกับแม่เพียงสองคน มีแม่มาช่วย ส่วนแฟนบอกว่าเลี้ยงไปมันก็ไม่ดีหรอก พ่อค้าคนกลางเขาคงไม่มารับซื้อหรอก แต่ เพื่อนของคุณสุนารีบอกว่าจะรับซื้อ
แม้ช่วงต้นเพื่อนจะรับซื้อไม่ทั้งหมดตามที่สัญญาไว้ คุณสุนารีในช่วงเวลานั้นก็ไม่ถอย ออกไปวิ่งขายตามบ้าน ออกไปหาตลาดเอง ในที่สุดก็มีคนมารับซื้อ และตอนนี้ยังมองเห็นช่องว่างทางการตลาดอยู่ คุณสุนารีจะทำต่อไป และขยายไปตรงช่องว่างที่มีนั้น
หลักการใช้ชีวิตที่สำคัญของคุณสุนารีคือ ไม่ท้อ อดทน มุ่งมั่น ชีวิตที่ผ่านมาของคุณสุนารีตั้งแต่ทำงานโรงงาน ก็อาศัยความอดทนเป็นสำคัญ เมื่อมาประสบอุบัติเหตุก็ไม่ท้อ สู้ ๆ ทำงานไป และหารายได้อื่นมาเป็นตัวเสริมเพื่อสำรองไว้ จนมาทำจิ้งหรีด ช่วงแรก ๆ ไม่ประสบความสำเร็จ แต่อาศัยใจสู้ ไม่ท้อ ผิดพลาดก็เริ่มใหม่ เธอจึงมีวันนี้
สิ่งสำคัญในการทำงานของคุณสุนารีอีกอย่างคือ หมั่นเรียนรู้ คุณสุนารีเรียนรู้จากเลี้ยงจิ้งหรีดจากยูทูป และนำมาลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง กว่าจะสำเร็จได้ก็ผิดพลาดไปเยอะ แต่เมื่อมีปัญหาก็ถามผู้รู้ ไม่ทิ้งกลางคัน ความสำเร็จก็มาถึงในวันหนึ่ง
สำหรับใครก็ตามที่สนใจอยากจะเลี้ยงจิ้งหรีด คุณสุนารีอนุญาตให้มาสอบถามที่เธอได้เลย เธอเต็มใจที่จะให้ข้อมูล หรือถ้าใครอยากจะปลูกผัก คุณสุนารีแนะนำให้ขายเอง อย่าผ่านพ่อค้าคนกลาง พยายามตัดพ่อค้าคนกลางออกไปให้ได้ ให้ทำเองขายเอง ไปหาตลาดเอง และถ้าเจอปัญหาต้องมีความมุ่งมั่น ต้องไม่ท้อ ถ้าเราท้อเราอยู่ไม่ได้ ช่วงที่คุณสุนารีท้อ เธอจะบอกกับตัวเองเสมอว่าห้ามท้อ ท้อแล้วเราจะไปไม่ไหว เราเป็นคนมีภาระ มีลูก มีรถ ก็นึกถึงภาระของเราไว้ ต้องอดทน ต้องมุ่งมั่น และพยายามทำให้สุดกำลัง มันถึงจะสำเร็จได้ คุณสุนารีบอกว่า ถ้าเธอท้อตั้งแต่ตอนที่เลี้ยงใหม่ ๆ แล้วจิ้งหรีดตายยกบ่อ เธอก็ไม่มาถึงวันนี้
ก่อนจะมาเป็นเกษตรกร คุณสุนารีเล่าให้ฟังว่า หลังจากตัดสินใจที่จะไม่เรียนต่อในระดับปริญญาตรี เธอจึงเลือกที่จะทำงานเพื่อหารายได้เลี้ยงคนในครอบครัว จนหลายปีถัดมาได้เข้าไปทำงานที่โรงงานผลิต External Harddisk รายใหญ่เจ้าหนึ่ง ได้ทำงานให้บริษัทนี้เป็นระยะเวลากว่า 4 ปี
ช่วงที่ทำโรงงาน ทำ 4 วัน หยุด 2 วัน แล้วก็เปลี่ยนกะ โรงงานอยู่ที่นิคมบางปะอิน ต้องไปกลับทุกวัน ออกจากบ้านตีสี่ไปขึ้นรถ รถออกตีสี่ครึ่ง เป็นอย่างนี้มาตลอดจึงรู้สึกเหนื่อยมาก กลับมาถึงบ้านบ่ายสอง ก็ต้องมาอาบน้ำ พอบ่าย 4 โมงก็ต้องไปอีกเพื่อเข้ากะดึก ถ้าเข้ากะดึกก็ต้องออกจากบ้าน 4 โมงเย็น กลับมาอีกทีก็เช้าวันรุ่งขึ้น 8โมงครึ่งจึงจะถึงบ้าน ชีวิตเป็นแบบนี้หมุนเวียนมาตลอดหกปีเต็ม ๆ
แต่ในช่วงปีที่ 5 คุณสุนารีได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ จึงทำให้ไม่สามารถเดินได้อย่างปกติ แต่ก็ยังไม่คิดที่จะลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่ แต่ด้วยรายได้ที่น้อย อีกทั้งยังใช้เวลาในการทำงานที่มาก และด้วยตัวเธอที่ร่างกายไม่ปกติเหมือนแต่ก่อน เธอจึงมีความคิดที่จะหารายได้เสริม และด้วยคำแนะนำจากเพื่อนว่าการเลี้ยงจิ้งหรีดขายมีรายได้ที่ดี เธอจึงเกิดความสนใจในการเลี้ยงจิ้งหรีด และลองเลี้ยงดูคนละ 2 บ่อกับแม่ ได้บ่อละ 20 กิโลกรัม ตอนนั้นแฟนของคุณสุนารีก็ทำอยู่ แต่ทำไม่เยอะ แค่ประมาณ 6-7 บ่อ คุณสุนารีก็เลยไปซื้อพันธุ์ไข่จากเขามา 50 แผง เอามาใส่แล้วก็ขยายของตัวเอง ที่ขยายมากขึ้นเพราะรายได้ดี บ่อหนึ่งจะได้ประมาณ 2,000 บาท ถ้าขายตามบ้าน กิโลกรัมละ 100 บาทในช่วงนั้น ตอนนี้คุณสุนารีทำเยอะขึ้น ขายส่งเพียงอย่างเดียว และตอนนี้ลาออกจากงานประจำมาเลี้ยงจิ้งหรีดเต็มตัว เพราะรายได้ดี สามารถอยู่ได้เลย
การเลี้ยงจิ้งหรีด
การเลี้ยงจิ้งหรีดของคุณสุนารีใช้วิธีการศึกษาจากยูทูป และลองผิดลองถูกไป มีปัญหาอะไรก็โทรหาเจ้าของเรื่องราวในยูทูปนั้น
ช่วงแรก ๆ ที่ทดลองเลี้ยง คุณสุนารีซื้อมา 1,000 บาท 30 ขัน เลี้ยงไปได้ 10 วัน ตายหมดทั้งบ่อ สาเหตุเป็นเพราะคุณสุนารีเลี้ยงไม่เป็น เลี้ยงแล้วขาดน้ำ ให้น้ำไม่เยอะ น้ำไม่พอ ใส่น้ำไปเพียงแค่ 4 ถาด แต่เมื่อโทรไปถามคนที่เลี้ยงมาก่อนหน้าในยูทูปที่คุณสุนารีดู เขาบอกว่าต้องใส่น้ำ 6 ถาด จิ้งหรีดถึงจะรอด ในครั้งแรกนั้นคุณสุนารีลงทุนไปประมาณ 2,500 บาท ค่าแผงไข่กับค่าทำบ่อ 2,000 บาท ค่าพันธุ์ไข่อีก 500 บาท ครั้งนั้นคุณสุนารีท้อมาก เพราะเลี้ยงครั้งแรก ก็ตายไปหมด หลังจากนั้นก็เอาใหม่ ซื้อถาดไข่ใหม่อีกรอบ การลงทุนตั้งแต่ต้นจนถึงจับขายได้เลย จะประมาณ 4,500 บาทต่อ บ่อละ 4,500 บาทลงทุนในตอนแรกจะยังไม่คุ้ม ครั้งต่อไปถึงจะได้คืน
นอกจากปัญหาเรื่องการขาดน้ำ อีกปัญหาหนึ่งในการเลี้ยงจิ้งหรีดที่เขาเจอคือ ช่วงหน้าหนาวจิ้งหรีดจะโตช้า เพราะเขาชอบอากาศร้อน จากที่เคยเลี้ยงประมาณ 40 - 45 วัน พอหน้าหนาวก็จะเลื่อนไปประมาณ 50- 60 วัน จิ้งหรีดจะโตช้าเพราะ อากาศมันเย็น นอกจากนั้นก็เป็นปัญหาตัวไรจากขุยมะพร้าว จากแผงไข่
ส่วนอาหารของจิ้งหรีด ปกติเขากินผักใบเขียวได้ทุกชนิด โยนลงไปในบ่อได้เลย ให้ตอนเช้า ตอนเย็นมาดูถ้ายังไม่หมด ก็ไม่ต้องให้ใหม่ แต่สำหรับคุณสุนารี เธอใช้อาหารสำเร็จรูป เนื่องจากไม่มีเวลามาดูมากนัก
ในปัจจุบัน ราคาของจิ้งหรีดไม่มาตรฐาน ช่วงนี้ราคาอยู่ที่ 80 บาท แต่ถ้าหน้าหนาวที่ผ่านมาราคาจะอยู่ที่ 100 บาท เพราะหน้าหนาวจิ้งหรีดโตช้า แล้วตอนนี้เกษตรกรหันมาเลี้ยงกันเยอะ พ่อค้าคนกลางก็จะกดราคา แต่สำหรับคุณสุนารีแล้วจะขายส่งตลาดสี่มุมเมือง ถ้ามีจิ้งหรีดประมาณ 100 - 200 กิโลกรัม เขาจะมาเอาเอง แต่ถ้าเขาไม่ว่างเขาก็โทรมาบอกให้เราไปส่งให้ เขาเป็นขาประจำเลยคุยกันได้ บางทียังไม่ได้ส่งจิ้งหรีดไป เขาโอนเงินมาให้ก่อนแล้ว ไว้ใจกัน รายได้ช่วงนี้ของคุณสุนารีประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน ถ้าช่วงหน้าหนาวก็ประมาณ 10,000 บาท จิ้งหรีดของคุณสุนารีมีขายที่ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง แล้วก็ที่ จ.นครสวรรค์ ทั้งหมดมารับจากเธอเจ้าเดียว แต่เขานำไปขายหลายตลาด จึงได้รับซื้อจากทางคุณสุนารีเยอะ เดือนหนึ่งประมาณ 2 ตัน และด้วยเหตุที่ยังมีตลาดต้องการอยู่ คุณสุนารีจึงคิดจะทำเพิ่ม จะขยายต่อให้มันใหญ่ขึ้น ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 40 บ่อ ต่อไปจะเพิ่มให้ถึง 60 บ่อ
นางสุนารี คงเรืองศรี เลขที่ 117/1 ม.2
ต.สีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง 14150


