คลิปเกษตร
แมงดาทะเลมีลำตัวแข็งเหมือนกระดองปู แต่รูปร่างคล้ายแมงมุม ตัวใหญ่ ที่ท้องมีระยางเป็นเหงือกใช้ในการหายใจ อาศัยอยู่ในทะเลบริเวณชายฝั่งน้ำตื้นแถบปากน้ำ และอ่าว โดยมักจะหมกตัวฝังอยู่ตามพื้นโคลนและทราย พบมากในน่านน้ำแถบเอเชีย แมงดาทะเลตัวเมีย จะมีขนาดใหญ่ ว่ายน้ำแข็งแรงกว่าตัวผู้ ในฤดูสืบพันธุ์ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนกันยายน ในเวลากลางคืนเดือนมืดแมงดาทะเลตัวผู้จะเกาะบนหลังตัวเมีย แล้วว่ายน้ำเข้าสู่ชายหาดทรายเป็นคู่ๆ โดยตัวเมียจะขุดหลุมฝังตัวเองอยู่ในทรายเพื่อวางไข่ จึงมองเห็นแต่ตัวผู้ที่ยังคงเกาะอยู่บนหลังตัวเมียเห็นแกว่งหางอยู่ไปมา ในฤดูนี้แมงดาทะเลจะชุกชุม และมีไข่ ซึ่งคนชอบรับประทาน จึงมีการจับแมงดาทะเลมาปรุงอาหารหลายอย่าง เช่น แกง หรือยำ แต่มักปรากฏว่ามีผู้ที่ได้รับพิษจากอาหารที่ปรุงจากแมงดาทะเลบ่อยๆ แมงดาทะเล จึงเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารทะเลที่หลายคนชมชอบ ซึ่งหากินไม่ได้ง่ายนัก รวมทั้งหากทำไม่ถูกวิธีอาจได้รับพิษจากการรับประทาน
21 มกราคม 2558
4,071
คลิปเกษตรใหม่ล่าสุด
"ข้าวฮาง" เป็นข้าวที่เอาเปลือกหรือแกลบออกโดยที่จมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดไม่แตกหักไปไหน เพราะจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดนี้ คือส่วนที่สะสมโปรตีนที่มีคุณค่าทางอาหาร ส่วนข้าวที่สีเอาเปลือกออกแล้ว แต่ยังไม่ได้ขัดให้ขาว เรียกว่า "ข้าวซ้อมมือ" ซึ่งจมูกข้าวจะแตกหักไปบ้าง ขณะที่ข้าวสารนั้น ทั้งเอาเปลือกออกและขัดสีหลายครั้ง จนเยื่อหุ้มเมล็ดและจมูกข้าวหลุดออกไปเหลือแต่เนื้อในของข้าว ซึ่งเป็นแป้งล้วนๆ "ข้าวฮาง" มีโปรตีนประมาณร้อยละ 6-12 และยังมีวิตามินและเกลือแร่ ได้แก่ วิตามินบี 1 บี 2 ไนอะซิน (ช่วยรักษาระบบผิวหนังและระบบประสาทไว) ฟอสฟอรัส แคลเซียม ธาตุเหล็ก ส่วนข้าวสารนั้นโปรตีนหลุดหายไปแล้วกว่าร้อยละ 30เปรียบเทียบให้เห็นง่ายๆ ถ้ากินข้าวฮางสุก 1 กรัม จะได้โปรตีน 7.60 ส่วนข้าวสวยธรรมดามีโปรตีน 6.40 คิดแล้วข้าวฮางมีโปรตีนมากกว่าร้อยละ 19 เป็นต้น
21 มกราคม 2558
2,709
คุณประชาสรรค์ พันธ์วิไล วิทยาการประจำศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบลละทาย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน ได้แนะนำวิธีการผลิตจุลินทรีย์ก้อนดินระเบิด เพื่อนำไปใช้ในการบำบัดน้ำเสียในแหล่งน้ำ โดยมีวัตถุดิบส่วนผสม คือ รำละเอียด 1 กก., ดินป่าที่อุดมสทบูรณ์ 1 กก., น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ, จุลินทรีย์อีเอ็ม 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำสะอาด พอประมาณ วิธีทำ นำเอาดินผสมกับรำละเอียดและน้ำตาลทราย ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำเอาจุลินทรีย์อีเอ็มผสมกับน้ำเปล่า แล้วนำมารดบนกองส่วนผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันพอหมาดๆ เท่าที่จะปั้นเป็นก้อนได้ ไม่แห้งหรือแฉะจนเกินไป จากนั้นปั้นส่วนผสมให้เป็นก้อนพอเหมาะ แล้วนำไปผึ่งลมไว้ในที่ร่มประมาณ 3 วัน ก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ การนำมาใช้ประโยชน์ ใช้บำบัดน้ำเสียในบ่อปลา หรือบ่อน้ำทั่วๆไป โดยการใช้จุลินทรีย์ก้อนดินระเบิดในอัตรา 4-5 ก้อนต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร และสามารถนำไปใช้กำจัดกลิ่นเหม็นและบำบัดน้ำเสียในบ่อของเสียในห้องน้ำได้ โดยการใส่จุลินทรีย์ก้อนดินระเบิดลงในชักโครกแล้วราดน้ำลงไปได้เลย
21 มกราคม 2558
3,917
ตะไคร้เป็นพืชที่ ปลูกง่าย โตเร็ว แต่ราคาจำหน่ายไม่สูงมากนัก เกษตรกรส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยนิยมปลูก แต่มีเกษตรกรท่านหนึ่ง คือคุณสร้อย ดอนกันยา เป็นเกษตรกร อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ได้ปลูกตะไคร้เพื่อจำน่าย ประมาณ 30 ไร่ ส่งตลาด แต่ตะไคร้ที่คุณสร้อยส่งตลาด นั้นต้องมีการคัดขนาดของต้นตะไคร้ให้ได้มาตรฐาน ตามที่ตลาดต้องการ ส่วนตะไค้ที่ไม่ได้ขนาด แต่ก่อนต้องนำไปทิ้ง ต่อมา คุณสร้อย ได้ลองติดต่อไปยังกลุ่มตลาดที่นำไปทำเป็นสมุนไพรลูกประคบ ซึ่งมีความต้องการ ตะไคร้หั่นตากแห้ง เป็นการเพิ่มมูลค้าให้กับตะไคร้ ราคาจำน่ายถึงกิโลกรัม 30- 50 บาท วิธีการทำ 1. นำตะไคร้ที่ไม่ได่ขนาดมาล้างทำความสะอาด 2. หั่นให้ได้ขนาด ประมาณ 10-15 ซม. 3. ทำการแกะกาบตะไคร้ออก และผ่าส่วนหัวของตะไคร้ เพื่อเวลาที่ตาก ตะไคร้จะได้แห้งเร็ว ๆ และเป็นการป้องกันเชื้อราด้วย ระยะเวลาในการตาก 4-7 วัน ก็สามารถนำไปจำหน่ายได้
21 มกราคม 2558
5,392
เทคนิคการทำมะพร้าวตากแห้งเพื่อเสริมรายได้ คุณปรีชา คงแก้ว ทำมะพร้าวตากแห้งมาแล้ว 20 กว่าปี และทำรายได้ปีละเกือบแสน ซึ่ง คุณปรีชา ยังบอกถึงประโยชน์ของมะพร้าวอีก กะลานั้นนำมารองรับน้ำยางได้ หรือ นำมาเผาให้เป็นถ่านดำ แล้วนำมาบดเป็นผงละเอียด ผสมน้ำดื่มวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 0.5-1 ช้อนชา แก้ปวดกระดูกและเส้นเอ็น -ดอก รสฝาดหวานหอม เป็นยาแก้เจ็บคอ แก้ท้องเสีย แก้ไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ กล่อมเสมหะ บำรุงโลหิต และแก้ปากเปื่อย -ราก รสฝาดหวานหอม เป็นยาแก้ท้องเสีย ขับปัสสาวะ หรืออมบ้วนปากแก้เจ็บคอ -น้ำมันมะพร้าว รสหวานเค็ม รับประทานเป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ ใช้ทาบำรุงผม หรือทาเป็นยาแก้กลากเกลื้อน ทาผิวหนังแตกแห้ง แก้โรคผิวหนังต่างๆ ทาแผลน้ำร้อนลวก โดยการเอาน้ำมันมะพร้าวมา 1 ส่วน ใส่ในภาชนะคน พร้อมๆ กับเติมน้ำปูนใส 1 ส่วน โดยเติมทีละส่วนพร้อมกับคนไปด้วยจนเข้ากันดีใช้ทาบริเวณแผลบ่อยๆ -น้ำมะพร้าว รับประทานเป็นยาระบาย แก้ท้องเสีย ขับปัสสาวะ แก้พิษ แก้กระหายน้ำ แก้นิ่ว แก้อาเจียน เป็นโลหิตและบวมน้ำ นอกจากนี้ยังทำเป็นน้ำส้มสายชูใช้ประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย.
21 มกราคม 2558
5,589